หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 151

“ไอดีของฉันส่งให้เพื่อนแล้ว” เขามองชัชนันท์อย่างลึกๆ มุมปากของเขายกยิ้มอย่างมีความหมาย

“…อ้อ โอเค” ชัชนันท์ไม่ได้ถามอะไรอีก เธอกินข้าวไปพลางมองการแข่งขันของเขาไป

ในเกมนี้ เขาเล่นไปทั้งหมดสิบสี่นาที

เมื่อเธอกินเสร็จ เกมของเขาก็จบลงพอดี

พูดได้ว่า เกมนี้อาศัยความสามารถของเขาล้วนๆถึงได้ชนะเร็วขนาดนี้

ถึงแม้ว่าเธอจะเห็นข้อบกพร่องมากมายในปฏิบัติการนี้ แต่ก็นับได้ว่าไม่เลว

“ไม่เลว…” ชัชนันท์เอ่ยปากชม

“เธอยังอยากจะเล่นอีกไหม?” แทนไทถาม

“ไม่เล่นแล้ว ฉันต้องเตรียมตัวไปทำงาน” ชัชนันท์ตอบ

“งั้นเธอก็ไปเถอะ ฉันก็จะไปทำธุระเหมือนกัน” แทนไทตอบอีก

“อย่าลืมกินข้าวเที่ยงล่ะ” ชัชนันท์บอก

“อื้ม” เขาตอบเสียงเรียบ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

ชัชนันท์โทรจองร้านอาหารสำหรับมื้อเย็น แล้วส่งที่ตั้งร้านอาหารให้เขา

จากนั้นเธอก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไป

…………

ในเวลาเดียวกัน ทางด้านโรงพยาบาลราษฎรที่1

หลังจากที่มาวินทำแผลเสร็จ เขาก็รีบไปที่รถของเขาที่จอดอยู่ในลานจอดรถชั้นใต้ดินของโรงพยาบาล

ขณะที่เขากำลังจะปิดประตู ก็มีมือใหญ่เอื้อมเข้ามาอย่างรวดเร็ว และขวางประตูที่เขากำลังจะปิด

จากนั้นก่อนที่เขาจะทันได้ตอบโต้ ชายชุดดำทั้งสี่ก็รีบดึงเขาออกมาจากรถแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าปิดปากและจมูกของเขา

ในขณะนั้นเอง สมองของมาวินเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาดิ้นรนอย่างเอาเป็นเอาตาย

ในไม่ช้ากลิ่นหอมๆก็ระเหิดออกมา เขาหมดแรงต่อสู้ไปทันที

วินาทีต่อมา เขาร้อนไปทั้งตัว

ในเวลานี้ไม่มีคนอยู่ในลานจอดรถเลย

ชายชุดดำหลายคนก็โยนมาวินเข้าไปในรถอาวดี้สีดำข้างๆเขาได้สำเร็จ

หลังจากขึ้นรถ ชายสองคนกดมาวินไปตรงที่นั่ง หนึ่งในสองคนที่เหลือนั่งในที่นั่งผู้โดยสาร และอีกหนึ่งคนนั่งในที่นั่งคนขับ

มาวินกลัวมาก เขาคิดจะหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เขาไม่มีเรี่ยวแรงเลย รู้สึกเหมือนนกที่ถูกตัดปีก นอกจากนั่งอยู่ที่เดิมก็ไม่มีทางเลือกอื่น

ในไม่ช้า ชายชุดดำสี่คนก็โยนเขาเข้าไปในห้องพักของโรงแรมเล็กๆในย่านชานเมือง

ไม่นานหลังจากนั้น ป้าวัยกลางคนหกคนที่แต่งหน้าจัดเต็มก็เดินเข้ามา

พวกเธอสวมเดรสสั้นรัดรูปราคาถูก รองเท้าของพวกเธอสูงเสียดฟ้า

หลายคนมีรูปร่างไม่ดี พุงเล็กๆของพวกเขาเห็นได้ชัดเจน เมื่อพวกเขาเดิน เนื้อที่ต้นขาก็จะสั่น

………………

ชัชนันท์พึ่งทำงานเสร็จ ก็เป็นเวลาหกโมงเย็นพอดี

เมื่อถึงเวลากลางคืน แสงไฟระยิบระยับและดวงดาวบนท้องฟ้าช่วยเติมเต็มซึ่งกันและกัน ปกคลุมโลกทั้งใบด้วยทะเลแห่งแสงสว่างอันเจิดจ้า

ขณะที่วางเอกสารสุดท้ายในมือ ช่วงเวลาที่เธอเงยหน้าขึ้นภาพก็เข้าม่านตาความงดงามรอบๆด้านก็ปรากฏขึ้น

ภาพนี้ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข

รู้สึกว่าปวดคออยู่ไม่น้อย จึงใช้เครื่องนวดกดเบาๆ แล้วแต่งหน้าเบาๆ ลุกขึ้นและจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางตรงหน้ากระจก

ในกระจก เธอสวมเสื้อเชิ้ตชีฟองสีขาวพร้อมโบว์ขนาดใหญ่ที่คอเสื้อ

ท่อนล่างเข้าคู่กับกระโปรงเอวสูงทรงเข้ารูปพอดีตัว กระโปรงอยู่เหนือเข่าสองเซ็นติเมตร รูปร่างที่สง่างามแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน

โดยเฉพาะขาคู่ยาวใต้กระโปรงทั้งเรียวและตรง ขาวเนียนราวกับว่ามีไฟไฮไลท์ที่ขา

ผิวขาวนวลเนียนทำให้เธอดูสูงส่งและบริสุทธิ์ ราวกับนางฟ้าที่บังเอิญตกลงมาอยู่ในโลกมนุษย์

ผมสีดำสลวยม้วนลอนใหญ่ดูธรรมชาติ เธอถือกระเป๋าของเธอแล้วขับรถไปที่ร้านอาหารตะวันตกที่เธอจองไว้ล่วงหน้า

ทันทีที่เธอเดินไปที่ประตูร้านอาหาร เสียงเกียจคร้านก็ดังขึ้นข้างหลังเธอ “นันท์คนสวย?”

เสียงนี้ดูเหมือนจะมาจากคมสัน

เธอหยุดเดินทันทีและมองไปยังเสียงนั้น

ก็เห็นคมสัน กรรณ และจิตริน เดินเข้ามาหาเธอด้วยรอยยิ้ม

คมสันเดินอยู่ด้านหน้าสุด แขนโอบขจีมาด้วย

กรรณและจิตรินตามหลังเขามา

ในบรรดาสี่คน คมสันสวมเสื้อผ้าที่หรูหราที่สุด ชุดสูทสีชมพูกับเสื้อเชิ้ตสีขาวและรองเท้าสีขาว

ดูโอ้อวดเสียไม่มี

ชัชนันท์พยักหน้าอย่างสุภาพต่อพวกเขา และรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอ “สวัสดีค่ะ”

หลายคนยืนอยู่ต่อหน้าเธอ

ขจีแสดงท่าทีถ่อมตัว เธอพยักหน้าไปทางชัชนันท์ด้วยรอยยิ้มแบบกุลสตรีที่มุมปากของเธอ

เธอสวมสูทผ้าขนสัตว์ชาแนลสีขาว มัดหางม้าสูงราวกับเป็นเด็กนักเรียน

เมื่อเห็นรอยยิ้มนี้ ชัชนันท์ก็รู้สึกโล่งใจมากและเธอก็พยักหน้าให้เธอด้วยรอยยิ้มทันที

“นันท์คนสวย เธอมาทานอาหารที่นี่ด้วยเหรอ เธอมากับใคร?” กรรณยิ้มและเอ่ยปากถาม

“ฉันมากับคุณห้า” ชัชนันท์พูดตามความจริงด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนและสุภาพที่มุมปากของเธอ

“จริงเหรอ? พวกเราไม่ได้เจอแทนมาหลายวันแล้ว เธอจะว่าอะไรไหมถ้าเราทุกคนจะทานอาหารด้วยกันที่ห้องส่วนตัว” คมสันที่โอบขจีอยู่อดแน่นขึ้นและถาม

เขาพูดขนาดนี้แล้ว เธอก็เกรงใจไม่กล้าจะหักหน้าเขา ดังนั้นเธอจึงพยักหน้า

มุมปากของคมสันค่อยๆยกยิ้มลึกขึ้นจนไม่เห็นฟัน

“ใช่แล้ว ขอแนะนำให้เธอรู้จัก นี่คือผู้หญิงของฉัน ขจี” คมสันชี้ไปที่ขจีแล้วพูดขึ้น เมื่อพูดจบคมสันก็ลูบผมเธออย่างอ่อนโยนและเป็นธรรมชาติ

มุมปากของขจียกยิ้มขึ้นทันที รูปลักษณ์ของเธออ่อนโยนราวกับน้ำ

ชัชนันท์คิดว่านิสัยเหมือนกับชื่อของเจ้าตัวจริงๆ

“ขจี นี่คือชัชนันท์ นันท์คนสวย” คมสันมองไปยังชัชนันท์แล้วพูดขึ้น

ขจียิ้มทันที จากนั้นจึงเอื้อมมือไปหาชัชนันท์ และพูดอย่างอ่อนโยนว่า “สวัสดีค่ะคุณนันท์ ฉันชื่อขจี”

“สวัสดีค่ะ” ชัชนันท์จับมือของขจีอย่างสุภาพ มุมปากก็ยังคงยกยิ้มอยู่

ตลอดขั้นตอนทั้งหมด ชัชนันท์วางตัวอย่างสง่างาม

ทั้งสองจับมือกัน และเมื่อพวกเขากล่าวทักทายกันเสร็จ รถฮอนด้าสีดำคันหนึ่งก็ขับเข้ามา

ไม่นานก็มีชายคนหนึ่งลงมาจากรถ

เทรนด์โค้ทลำลองสีดำ ด้านในสวมเสื้อเชิ้ตผ้าไหมลายทางขาวดำ กางเกงขายาวสีดำ และรองเท้าบูทมาร์ตินสีดำ

ผมหนาสั้นสีดำขลับ ทำให้ดูเป็นธรรมชาติไปหลายส่วน

ในความสูงส่งและหรูหรา ก็ยังมีความเกียจคร้านและความเป็นกันเองอยู่บ้าง

เวลาทานอาหาร ข้างถนนมีคนเดินเยอะพอสมควร เมื่อเห็นท่าทางของเขา ทุกคนก็จับจ้องมาที่เขา

ผู้ชายคนนี้เปรียบเสมือนร่างกายที่เปล่งประกายและสมบูรณ์แบบที่สุด เขาไม่ต้องทำอะไรเลยแค่ยืนอยู่ที่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนที่นั่นงุนงง

เขาเดินเข้าไปหาเธอทีละก้าว และทั้งสองก็เข้าใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ

ในเวลานี้ เธอก็รู้สึกว่าสีสันของทิวทัศน์กลางคืนที่สวยงามได้หายไป และเขาก็เป็นคนเดียวในโลกที่ส่องแสงเจิดจ้า

ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เขาเมินเฉยต่อคมสันและคนอื่นๆ เพียงแค่จ้องไปที่ใบหน้าของเธออย่างเงียบๆ "ขอโทษนะฉันมาสายไปหน่อย"

คมสันและคนอื่นๆรู้สึกไม่ค่อยพอใจกับการถูกเมิน คมสัน และกรรณอดไม่ได้ที่จะมองเขาอย่างว่างเปล่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว