หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 162

“ก็แค่นั้นเอง” แทนไทพูดกล่าว

“ไม่ใช่สักหน่อย ฉันเคยฟังคนมากมายร้องโคฟเวอร์เพลงนี้ ไม่มีใครร้องโคฟเวอร์ได้ดีไปกว่าธันวาเลย เสียงร้องเช่นนี้เหมาะสมกับใบหน้าเช่นนี้ เป็นการชมความงดงามซึ่งได้เกิดความสุขทางด้านสายตาและจิตใจเลย” ชัชนันท์ไม่เสียดายคำชื่นชมที่ตัวเองมีต่อธันวาเลยแม้แต่น้อย

เธอคิดว่า คืนนี้ธันวาจองการค้นหายอดนิยมอันดับหนึ่งไว้ล่วงหน้าแล้วแน่นอน

เวทีที่ปลุกเร้า ระเบิดระเบ้อขนาดนี้ โด่งดังได้โดยไม่ต้องลงแรงเยอะแล้ว

ต่อไปในช่วงระยะหนึ่งBilibili ติ๊กต็อก SnackVideo พวกแพลตฟอร์มใหญ่ๆเป็นต้น จะต้องถูกเพลง《ซื่อสัตย์ภักดี เสียสละ เพื่อประเทศชาติ》ของเขาสแปมหน้าจอแน่นอน

แทนไทเลิกคิ้วที่โค้งเรียวเหมือนดาบขึ้นเบาๆครู่หนึ่ง สีหน้าที่มองดูภาพในโทรทัศน์ค่อยๆขรึมลงแล้ว “ก็งั้นๆแหละ”

และในเวลานี้ ธันวาถูกเชิญให้มายืนข้างๆพิธีกร และถูกพิธีกรสัมภาษณ์แล้ว

ชัชนันท์ดูหน้าจอด้วยความสนใจเป็นอย่างยิ่ง คิดที่จะดูการสัมภาษณ์ต่อ

แต่แทนไทแอบปิดโทรทัศน์อย่างเงียบๆแล้ว

ในช่วงที่หน้าจอโทรทัศน์มืดสนิท ชัชนันท์ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “คุณห้า คุณทำอะไร?ฉันยังดูไม่จบเลยนะ”

“ควรนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องไปสวัสดีปีใหม่บ้านข้างๆไม่ใช่เหรอ?”แทนไทพูดกล่าว

“ฉันอยากดูสัมภาษณ์ให้จบก่อนแล้วค่อยนอน”

แต่เขากลับว่าหยิบรีโมทโทรทัศน์เดินไปบนทางเดินอย่างเผด็จการแล้ว “นอน……เชื่อฟัง……”

ชัชนันท์ดูถอนหายใจลากยาวอย่างไม่มีความสุข และหลังจากนั้นก็หยิบมือถือขึ้นมาเงียบๆ เดินตามเขาขึ้นไปชั้นบน

ปกติก็ไม่เห็นเขาจะเป็นเช่นนี้

วันนี้ เขาเป็นอะไรไป?

แต่ว่า เธอก็รู้สึกง่วงนิดหน่อยพอดี นอนเวลานี้ก็ได้

เพราะงั้น เธอก็ไม่มีอะไรมากมาย

กลับมาถึงห้อง เธอเห็นธันวาเหมือนกับที่เธอคิดไว้เลยยังไงอย่างนั้น #เพลง《ซื่อสัตย์ ภักดี เสียสละ เพื่อประเทศชาติ》ของธันวา# ขึ้นการค้นหายอดนิยมอันดับหนึ่งแล้ว ด้านหลังหัวข้อ มีคำว่ายอดนิยม

เธอรีบกดเข้าไปดูที่หัวข้ออย่างรวดเร็ว

ข้างในเป็นคลิปวิดีโอที่เขาร้องเพลงฒซื่อสัตย์ ภักดี เสียสละ เพื่อประเทศชาติ》 และการอวยจนเว่อร์ต่างๆนานาของแฟนคลับทั้งหมด

“อะอะอะอะ……ธันวาของฉันทำไมถึงได้ยอดเยี่ยมเช่นนี้นะ?ไม่รู้จริงๆว่าฉันจะต้องยอดเยี่ยมแบบไหน ถึงจะเข้าตาเขาได้”

“อะอะอะอะอะอะเห็นเขาเป็นแบบนี้ ฉันเริ่มอิจฉาผู้หญิงที่เขารักอย่างสุดซึ้งในอนาคตแล้วละสิ จะต้องโชคดีมากแค่ไหนกันถึงจะได้รับความรักจากเขาได้?”

“เสน่ห์ของไอดอลฆ่าฉันให้ตายแล้ว!ไอดอลของฉันเป็นคนที่สุดยอดที่สุดในโลกเลย อยากแต่งงานกับไอดอลของฉันเลย แง แง แง”

เธอมองดูอย่างง่ายๆแวบหนึ่งแล้ว หลังจากนั้นก็วางโทรศัพท์ลง เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำแล้ว

…………

เช้าวันรุ่งขึ้น ชัชนันท์และแทนไทไปสวัสดีปีใหม่บ้านข้างๆด้วยกันตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว

หลังจากนั้น ชัชนันท์อยู่เป็นเพื่อนคุยกับวันชัยที่รัตนากรกุลกรุ๊ปต่อ

แทนไทก็หาเหตุไปเรื่อยเปื่อยแล้ว ขับมาเซราติของชัชนันท์ กลับไปยังคฤหาสน์สไตล์ปราสาทในเขตชานเมืองของตัวเองเลย

ตอนที่เข้าประตูไป ในบ้านปลาบปลื้มยินดีเป็นที่สุด

ติดกระดาษสีแดงรูปมงคลต่างๆเต็มบ้านแล้ว

กชนิภและธันวาทั้งสองคนนั่งดูการฉายรายงานพิเศษคืนวันตรุษจีนอีกครั้งบนโซฟา แทะเมล็ดแตงโม มีความสุขสนุกสนาน

เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนเพิ่งตื่น ยังไม่ได้เก็บกวาด กชนิภไม่ได้แต่งหน้า สวมใส่ชุดอยู่บ้านผ้าไหมสีขาว

ส่วนธันวาสวมใส่ชุดอยู่บ้านผ้าไหมสีเขียวเข้ม เพิ่งสระผมเสร็จยังเป่าไม่แห้ง ปลายผมยังเปียกชื้นอยู่เลย

เห็นเข้าเดินเข้าประตูมา มุมปากของธันวาเผยรอยยิ้มที่อ่อนโยนขึ้นมาแล้ว “พี่……สวัสดีปีใหม่ครับ”

“อืม” เขาตอบกลับด้วยเสียงทุ้มต่ำ ก้าวเดินไปนั่งข้างๆธันวาแล้ว มองกชนิภพร้อมพูดว่า “แม่ สวัสดีปีใหม่ครับ”

กชนิภยิ้มพร้อมพยักหน้าแล้ว “อืม ลูกชายที่เชื่อฟัง แกสบายดีแม่สบายดี พวกเราทุกคนล้วนแต่สบายดี”

“ฉลองปีใหม่เสร็จ แม่ก็ควรจะกลับไปแล้วนะ?พ่อมาหาผมไม่รู้กี่ครั้งแล้ว” แทนไทพูดกล่าว

“ไม่ต้อง ตอนนี้พ่อแกสุขภาพดีแล้ว อีกสักระยะหนึ่งก็กลับประเทศแล้ว” กชนิภกล่าว

“แม่นี่ใช้ได้เลย……ทิ้งพ่อผมไว้กับคุณปู่ ไม่เห็นจะสนใจเลย” ธันวากล่าว

“ฝีมือการรักษาโรคของปู่แกสุดยอดขนาดนั้น อยู่ตรงนั้นเขาก็จะไม่เป็นอะไรมาก อีกอย่าง ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่กลับไปสักหน่อย ฉันเองก็มีธุระไม่ใช่เหรอ?” กชนิภพูดต่อ “ฉันก็อยากจะจับตามองพี่ชายของแกกับชัชนันท์อยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ?”

พูดถึงชัชนันท์รอยยิ้มที่มุมปากของธันวากลับหยุดนิ่งในทันที ประกายในดวงตาก็จางลง

ความหดหู่ใจหายไป อย่างรวดเร็วจนไม่มีใครสังเกตได้

“ผมเคยบอกแล้ว เรื่องของผม แม่ไม่ต้องมาห่วง” แทนไทกล่าว

“แกบอกว่าไม่ต้องการ ก็ไม่เอาเลยงั้นเหรอ? ฉันยินดีที่จะคอยเป็นห่วง แกห้ามฉันได้เหรอ?” กชนิภกล่าวอีก

แทนไทขมวดคิ้วอย่างจำใจ ไม่พูดอะไร

พูดจบแทนไท กชนิภเบนความสนใจไปยังธันวา “แกก็อีกคน ธันวา เมื่อไหร่จะมีแฟน?”

ธันวายิ้มและตอบสนอง “ผม ยังไม่รีบ รออีกสองปีแล้วกัน”

ผู้หญิงคนนั้นที่เขาอยากคบด้วยมากที่สุด เขาไร้วาสนาเคียงคู่ ดังนั้น ในโลกองเขา ไม่มีเป้าหมายที่จะมีความรักอีกต่อไป

“วัยของแก เป็นวัยที่เหมาะจะมีความรักได้ดีที่สุดแล้ว คบกันสัก2-3ปี จากนั้นก็แต่งงานมีลูก ดีจะมาก” พูดจบ กชนิภก็ถอนหายใจอย่างจำใจ พูดอย่างเรื่อยเปื่อยว่า “แกว่าแกดูดีขนาดนี้ ถ้าแกไม่มีความรัก นี่จะไม่เป็นการเสียทรัพยากรหนุ่มหล่อบนโลกแย่เหรอ?”

“หน้าตาดีขนาดนี้ วันๆกลับทำตัวเป็นพระถังซัมจั๋ง น่าสนุกนักหรือไง?” กชนิภกล่าวอีก

“ผมนึกออกแล้ว เดี๋ยวผมยังต้องออกไปข้างนอกอีก ต้องรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว พี่ คุณอยู่คุยเป็นเพื่อนแม่นะ” ธันวาถูกบ่นจนรำคาญแทบแย่ ลุกขึ้นและหนีไปเลย

กลับมาถึงห้องตัวเอง รอยยิ้มบนใบหน้าของธันวาก็หายไปโดยสิ้นเชิง

ประกายในดวงตาก็จางลงอีกครั้ง

เขาบีบมือถือไว้แน่น นั่งอยู่ข้างเตียง เปิดอัลบั้มรูปอย่างเงียบๆ และพบรูปถ่ายของเขาและชัชนันท์ที่งานแสดง ชาแนล

พวกเขาในภาพถ่าย ดูแล้วเหมาะสมกันมาก

มองดูชัชนันท์แล้ว สวยงามอย่างมาก

เขาอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปสัมผัสบนใบหน้าของเธอ “ผมต้องทำยังไงถึงจะเป็นเหมือนอย่างที่ผมพูด ทิ้งคุณไปเลย และเป็นเพื่อนดีกับคุณงั้นเหรอ?”

เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ตกหลุมรักใครสักคน

แต่ว่า กลับลิขิตไว้แล้วว่าให้จบแบบไม่มีข้อสรุป

ความรู้สึกเช่นนี้มันแย่สุดขีดเลย

…………

อีกทางฝั่งหนึ่ง ภารดรพาดวงพร มาวิน เมธี มาสวัสดีปีใหม่ที่บ้านของรัตนากรกุลกรุ๊ปด้วยกัน

ด้านหลังของพวกเขายังมีคนขับรถที่ถือของขวัญอีกนับไม่ถ้วน

สำหรับการมาถึงของพวกเขา ชัชนันท์กลับไม่รู้สึกว่ามีอะไรน่าเซอร์ไพรส์ วันนั้นพวกเขาได้ยินมากับหูว่าเซ็นเทอรี่ลองต้องการช่วยรัตนากรกุลกรุ๊ป ดังนั้นพวกเขาไม่มีทางตัดสายสัมพันธ์กับรัตนากรกุลกรุ๊ปไปอย่างง่ายดายหรอก

พวกเขากังวลว่าในอนาคตหลังจากที่รัตนากรกุลกรุ๊ปจะอาศัยเซ็นเทอรี่ลองในการก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว รัตนากรกุลกรุ๊ปจะไม่ร่วมมือกับพวกเขาด้วย

มาวินก้มหน้าลงตั้งแต่เข้าประตูมา และเขาไม่สบตามองใครเลย

ทุกย่างก้าว เขาก็ใช้นิ้วโป้งออกแรงหยิกตัวเอง เหมือนกับว่ากำลังใช้ความเจ็บปวดในการเบี่ยงเบนความสนใจ

เห็นเขาทำเช่นนี้ชัชนันท์ก็รู้เลย ว่าเขากำลังพยายามไม่ให้ตัวเองมองผู้หญิงข้างๆ พยายามไม่ให้ตัวเองสนใจไปที่ตัวของผู้หญิง

เห็นเขาเป็นเช่นนี้ เธอก็รู้สึกเวทนาอย่างยิ่ง ดูแล้วว่าคนในครอบครัวของเขาไม่รู้เรื่องของเขาเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่เขาทำเช่นนี้จะสามารถปิดบังได้นานสักเท่าไหร่เชียว?

แต่ว่า เมื่อเห็นเขาน่าเวทนา เธอก็รู้สึกอารมณ์ดี

“กริ๊งๆ ๆ——”

ครอบครัวของตระกูลวงศ์ดีประสิทธิ์เพิ่งเดินมาตรงหน้าพวกเขา ยังไม่ทันได้พูดจา โทรศัพท์วันชัยก็ดังขึ้นแล้ว

เป็นเบอร์เรือนจำที่โทรเข้ามา

เขากดรับสายทันที ไม่นานเสียงของตำรวจก็ดังมาจากในนั้น “สวัสดีครับ ขอสอบถามหน่อยใช่คุณวันชัยหรือเปล่า? ชลิตาลูกสาวของท่าน กำลังจะเสียชีวิตแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว