หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 184

“ตู้ดๆๆ ……” วันชัยโทรศัพท์เข้ามา

ชัชนันท์กดรับสายทันที “ฮัลโหล พ่อ”

“นันท์ พ่อจะพาน้องเธอออกมาจากข้างใน พ่อเห็นน้องเธอเป็นแบบนั้น เจ็บปวดหัวใจมากจริงๆ นอนไม่หลับทั้งคืนเลย”

“ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นลูกสาวแท้ๆ ของพ่อ นันท์เข้าใจพ่อได้ใช่ไหม?” เสียงทางด้านวันชัยค่อนข้างแหบพร่า

ถึงจะผ่านสายโทรศัพท์ เธอยังคงรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดและไม่สบายใจของเขา

แค่ได้ยินเสียงแบบนี้ หัวใจเธอก็เริ่มเต้นตุ้บๆ อย่างรุนแรง ปลายจมูกเธอก็แสบตาม

“อืม ฉันเข้าใจได้ค่ะ” เธอผลุบเปลือกตาลง แล้วหายใจเข้ายาวๆ

“แค่กๆๆ ……นันท์ เธอเข้าใจได้ก็ดีมากเลย เธอไม่ต้องห่วงนะสถานะของเธอในตระกูลรัตนากรกุล จะไม่เปลี่ยนแปลงเพราะชลิตาออกมา บริษัทพ่อจะทิ้งไว้ให้เธอในอนาคต ทุกอย่างของพ่อจะเป็นของเธอหมดเลย” ทางด้านวันชัยไอไปด้วยพูดไปด้วย

“ตอนนี้ตาเสียความสามารถในการเล่นงานเธอแล้ว ร่างกายหล่อนไม่ปกติแล้ว นันท์ไม่ว่าระหว่างพวกเธอจะมีความแค้นอะไรกัน ตอนนี้ปล่อยวางเถอะนะ ไว้หน้าพ่อหน่อยได้ไหม?” วันชัยพูดอีกครั้ง สิ้นคำพูดก็เริ่มไออีกครั้งอย่างรุนแรง

ชัชนันท์หัวใจตึงเครียดทันที “พ่อ พ่อป่วยเหรอ?”

เธอควรคิดถึงเรื่องนี้นานแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ตาม นั่นก็ลูกสาวแท้ๆ ของเขา ลูกสาวสายเลือดเดียวกัน เห็นชลิตาเป็นแบบนั้นจริงๆ หัวใจเขาต้องเจ็บปวดเกินทนแน่นอน

“สองวันนี้เพื่อให้น้องสาวเธอออกมาได้ มันเหนื่อยมากจริงๆ อารมณ์ก็ไม่ดีเลย ตอนนี้พ่อป่วยอีก อยู่โรงพยาบาล” ขณะวันชัยพูดก็ถอนหายใจ

“ว่าไงนะ? ทำไมพ่อไม่บอกฉันเร็วกว่านี้?” ในใจชัชนันท์ยิ่งเครียด

“พ่ออาจจะเหนื่อยเกินไป” วันชัยพูดอีกครั้ง “พ่อทำพินัยกรรมไว้เรียบร้อย เอาให้ทนายพ่อรับรองแล้ว ถ้าวันหนึ่งพ่อตายไป เอารัตนากรกุลกรุ๊ปให้เธอรับช่วงต่อ ชลิตาและหทัยได้หุ้นรัตนากรกุลกรุ๊ปห้าเปอร์เซ็นต์ รวมถึงรถ บ้านและที่ดินภายใต้ชื่อพ่อ มีอีกพันล้าน”

เธอคิดไม่ถึงเรื่องที่ตัวเองรอคอยมากที่สุด จู่ๆ จะย่างกรายมาถึงในตอนนี้

จู่ๆ พ่อก็ทำพินัยกรรม กำหนดให้เธอเป็นผู้สืบทอด

เธอควรจะดีใจแทบบ้าสิ แต่ตอนนี้เธอไม่ดีใจเลย ในใจเธอแค่เจ็บปวดและกังวล เธอเป็นห่วงพ่อตัวเองมาก “พ่อ พ่ออยู่ห้องไหน?”

“ห้องเดียวกับน้องสาวลูก” ทางนั้นพูดจบก็เริ่มไออีกครั้งอย่างรุนแรง หายใจถี่ขึ้นเรื่อยๆ

“ฉันจะไปเยี่ยมพ่อเย็นหน่อยนะคะ” ชัชนันท์พูด

คุยโทรศัพท์เสร็จ ในใจชัชนันท์ก็ร้อนรนไม่สบายใจ หัวใจเหมือนถูกอะไรบางอย่างฉีกออกอย่างรุนแรง

ตอนนี้เทียบกับชลิตา เธอเป็นห่วงพ่อตัวเองมากกว่า

ในใจเธอเกิดความรู้สึกหลากหลาย เธอดีใจกับการแก้แค้นชลิตา แต่เห็นพ่อกลายเป็นแบบนี้เพราะชลิตาในตอนนี้ เธอก็รู้สึกผิดภายในใจ

อารมณ์ต่างๆ นานาผสมเข้าด้วยกัน ฉีกเธออย่างบ้าคลั่ง ทำให้เธอรู้สึกแย่สุดขีด

“อาป่วยเหรอ?” นลินจับชัชนันท์ไว้แล้วพูดอย่างเป็นห่วง

“อืม……นลิน ฉันว่าการแก้แค้นชลิตาควรจบลงตรงนี้แล้ว” ชัชนันท์ผลุบตาลง นัยน์ตาย้อมไปด้วยสีแดงเล็กน้อย

ชลิตาในตอนนี้ ถึงจะปล่อยออกมา ก็ไม่เหลืออะไรเลย

หย่ากับมาวินเป็นสิ่งที่แน่นอนแล้ว ถึงตอนนี้จะไม่หย่า มาวินก็ไม่สนใจไยดีเธอ ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องหย่า

เมื่อครู่นี้คุณพ่อบอกแล้วว่าจะมอบทุกอย่างของรัตนากรกุลกรุ๊ปให้เธอ ชลิตาไม่มีคุณสมบัติในการแก่งแย่งรัตนากรกุลกรุ๊ปกับเธอแล้ว คุณพ่อไม่ใช่คนที่พูดเลื่อนลอย พินัยกรรมของเขาทำขึ้นแล้ว จะไม่เปลี่ยนแปลงอีก

ตอนนี้ชลิตาก็เป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง บางทีชีวิตที่เหลืออยู่อาจจะไม่มีทางได้ใช้ชีวิตที่ดีเหมือนคนปกติแล้ว

นอกจากนี้ ชื่อเสียงชลิตาก็พังทลายสมบูรณ์แบบ ตอนนี้ทั้งประเทศZไม่มีใครไม่รู้ว่าเธอเป็นคนยังไง จุดด่างพร้อยเหล่านั้นจะติดตัวเธอไปตลอดชีวิต

ถึงแม้เธอจะได้รับอิสระอีกครั้ง เธอก็ถูกลิขิตให้เดินไปที่ไหนก็จะถูกนินทาลับหลัง

“แล้วแต่เธอ……เธอทำอะไรฉันก็สนับสนุนเธอหมด” นลินลูบผมเธออย่างอ่อนโยน

“ก๊อกๆๆ ……” เสียงเคาะประตูดังขึ้น

“เชิญเข้ามา” ชัชนันท์พูด

ไม่นานประตูก็เปิดออก แทนไทถือน้ำอุ่นและยาเข้ามา

หลังจากเขาวางถาดบนโต๊ะหัวเตียง ก็หยิบยาแก้ปวดเม็ดหนึ่ง ยาแก้อักเสบเม็ดหนึ่งออกมาจากในขวด แล้วก็ส่งเข้าปากชัชนันท์อย่างเป็นธรรมชาติ

แล้วก็ส่งแก้วน้ำไปที่ริมฝีปากเธออีกครั้ง

รสชาติขมฝาด ลุกลามไปทั่วช่องปากเธอ เธอรับแก้วน้ำมาดื่มอย่างรวดเร็ว กินเม็ดยาลงไป

หลังจากเม็ดยาลงไปแล้ว รสชาติขมฝาดก็ยังคงลุกลามอยู่ ทำให้เธอท้องไส้ปั่นป่วน

แทนไทหยิบลูกอมมิ้นท์เม็ดหนึ่งออกมาจากกระเป๋าช้าๆ ส่งเข้าปากเธอ “กินลูกอมสิ”

ทั้งๆ ที่เป็นการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ยิบย่อย กลับทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นมากมาย

“ขอบคุณ” เธอยิ้มขณะพูดขึ้น

“นันท์ ตอนนี้ฉันค่อนข้างกังวล ถ้าชลิตาออกมาแล้วหายดีเป็นปกติ จะทำร้ายเธออีกไหม? อาจจะร้ายแรงกว่าเดิม?” นัยน์ตานลินฉายแววกังวล

“เป็นไปได้” อารมณ์ร้อนของชลิตาเธอยังคงทราบดี “แต่ฉันไม่กลัว ถ้าเธอทำตัวถ่อมตนทำตัวดีๆ ฉันก็จะอยู่กับเธออย่างสันติ ถ้าเธอรนหาที่ตายจริงๆ ฉันก็จะเล่นด้วยให้ถึงที่สุด”

“ทำไมเธอต้องเป็นโรคซึมเศร้ารุนแรงด้วย? ถ้าไม่ได้เป็น ตอนนี้เธอคงนั่งแกร่วอยู่ในคุก” นลินขมวดคิ้วไม่พอใจ

“ถ้าตอนนี้เธออยากให้หล่อนนั่งแกร่วต่อไป ก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้” แทนไทมองชัชนันท์แล้วพูดขึ้น

“ช่างเถอะ……ตอนนี้ไม่อยากแล้ว ฉันเห็นพ่อฉันตายไม่ได้ เขาล้มป่วยเพราะชลิตาแล้ว” ชัชนันท์ขมวดคิ้วอย่างเจ็บปวด

“เขาป่วยเหรอ?” แทนไทถาม

“อืม เพราะชลิตาล้มป่วย เจตนาเขาคืออยากให้ชลิตาออกมาได้ เขาเห็นชลิตาเป็นแบบนั้นไม่ลง เขาบอกว่าตอนนี้อาการชลิตาแย่มาก ช่างเถอะ ให้จบลงตรงนี้แหละ” สิ้นคำพูด ชัชนันท์ก็ถือโอกาสวางแก้วไว้โต๊ะหัวเตียง

“งั้นแล้วแต่เธอ” แทนไทพูดเรียบๆ

“ตอนนี้ฉันต้องไปโรงพยาบาลแป๊บหนึ่ง ไปเยี่ยมพ่อฉัน” ชัชนันท์ขยับไปที่ข้างเตียงอย่างยากลำบาก เตรียมถอดรองเท้า

แทนไทคุกเข่าลงพื้นข้างหนึ่ง สวมรองเท้าให้เธออย่างตั้งใจ “ได้ ฉันจะขับรถพาเธอไป”

นลินจับแขนชัชนันท์อย่างประหม่า มองเขาแล้วพูดขึ้น “คุณห้า เธออยากก่อเรื่องไปทั่ว คุณยอมให้เธอทำได้ยังไง? ตอนนี้เธอไปนู่นไปนี่ได้ที่ไหนกัน?”

“ถ้าไม่ไป เธอจะไม่สบายใจ” แทนไทมองนลินเรียบๆ “และไม่มีความสุข”

“ตอนนี้ใช่เวลามาใส่ใจเรื่องมีความสุขไม่มีความสุขไหม?” นลินขมวดคิ้วดำเล็กน้อย ใบหน้ามีความไม่พอใจ “ถ้าเธอไปนู่นไปนี่ แล้วแผลเปิดจะทำยังไง?”

“ไม่ว่าจะเวลาไหน การที่เธอมีความสุขหรือไม่เป็นเรื่องสำคัญมาก” สิ้นคำพูด สายตาแทนไทก็มองหน้าชัชนันท์ช้าๆ

เมื่อสายตาประสานกัน ชัชนันท์รู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงกระแสอบอุ่นเข้าใกล้ห้องหัวใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว