หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 185

เขาเข้าใจเธอมากจริงๆ และคำนึงถึงเธอมากจริงๆ

ถึงแม้จะตัดสินใจเอาแต่ใจแบบนี้ เขาก็ยังยอมให้ความร่วมมือ

“ทางด้านคุณอามีคนดูแลเยอะมาก เธอค่อยไปพรุ่งนี้ดีกว่า” นลินไม่วางใจจริงๆ

แต่ชัชนันท์ตบบ่าเธอเบาๆ ทำหน้าอ่อนโยน “ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่ทำให้ตัวเองเป็นอะไร”

สิ้นคำพูด เธอก็หันหน้าไปมองเขา “รบกวนช่วยฉันหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางสีชมพูบนโต๊ะเครื่องแป้งหน่อย”

เพื่อไม่ให้พ่อดูออกว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บ เป็นห่วงตัวเอง เธอต้องแต่งหน้าดีๆ แต่งตัวให้ท่าทางกระฉับกระเฉงก่อนค่อยไป

นลินเห็นเธอตัดสินใจไปแล้ว ก็ไม่ได้ห้าม

หลังจากเธอแต่งหน้าเรียบร้อย เขาก็ขับรถพาเธอไปโรงพยาบาลราษฎรด้วยตัวเอง

หลังจากลงรถ ชัชนันท์ก็เดินตรงไปที่ตึกผู้ป่วย

แต่ทว่าเพิ่งเดินไม่กี่ก้าว แทนไทก็สาวเท้าไปข้างหน้า อุ้มเธอขึ้นมาในท่าแนวนอนอย่างเผด็จการ ไม่ให้โอกาสให้เธอตอบสนองเลยแม้แต่นิดเดียว

ชัชนันท์หัวใจเต้นรัวถึงคอ ทรวงอกหัวใจเต้นระรัว เธอเผลอมองคนที่เดินไปเดินมารอบๆ แล้วดิ้น “นาย……นายทำอะไร? ปล่อยฉัน คนมองตั้งเยอะ มันใช้ได้เหรอ?”

“ถ้าเธออยากประหยัดพลังกาย ไม่งั้นเดี๋ยวเธอจะแกล้งทำเป็นคนแข็งแรงเต็มที่ได้ยังไง?” แทนไทพูดเรียบๆ

สิ้นคำพูด ก็เริ่มก้าวเท้าเดินเข้าด้านใน

คนที่เดินเฉียดไหล่พวกเขามีเยอะมาก ฉากนี้ดึงดูดสายตาพวกเขาทุกคน

ถูกคนหล่อเลิศล้ำที่สุดในโลกอุ้มในท่าเจ้าสาวมาตลอดทาง ชัชนันท์ในตอนนี้กลายเป็นเป้าหมายให้พวกผู้หญิงทุกคนแอบอิจฉาในใจ

คนรอบๆ ให้ความสนใจพวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ ความเขินอายภายในใจชัชนันท์ก็ยิ่งมากขึ้น

เหลือบเห็นตำแหน่งข้างประตูมีรถเข็น เธอชี้ไปทางนั้นทันที แล้วยกสายตาขึ้นมองกรามสวยของชายหนุ่ม “คุณห้า ทางนั้นมีรถเข็น คุณใช้มันเข็นฉันไปเถอะ”

“ถ้าไม่ระวังเจอคนในครอบครัวเธอนอกห้องคนไข้ เธอจะบอกยังไง?” แทนไทผลุบตาลงมองเธอ แล้วถามเรียบๆ

“แล้ว……แล้วแบบนี้ เราเจอคนในครอบครัวฉัน ก็อธิบายยากเหมือนกันนะ คนปกติมีใครโดนอุ้มเข้ามาบ้าง ไม่ได้บาดเจ็บสักหน่อย”

แทนไทก้าวเท้าเดินไปด้านในต่อ สีหน้าไม่ปั่นป่วนสักนิด “สามีเธอหลงเธอ ชอบอุ้มเธอ มันจะเป็นอะไรไป?”

ทันใดนั้นชัชนันท์ก็หลงใหลประโยคนี้ของเขาอีกครั้ง

เย้ายวนโดยที่มองไม่เห็น มักจะน่าเย้ายวนใจที่สุด

เธอไม่อยากยอมรับ แต่เธอโดนเย้ายวนใจอีกแล้ว หน้าก็แดงตามนิดหน่อย

เหตุผลที่เขามอบให้มันดีมาก ในชั่วขณะหนึ่งเธอหาคำพูดมาหักล้างต่อไม่ได้เลยจริงๆ

“จริงๆ แล้วฉันเดินเองได้นะ”

“อย่าดื้อ เงียบๆ หืม?”

“…………”

เห็นเขาตัดสินใจแล้ว ชัชนันท์ก็ไม่อยากดิ้น กลัวไปโดนแผลตัวเอง

ตอนทั้งสองเดินมาถึงหน้าลิฟต์ ประตูลิฟต์เปิดออกพอดี ด้านในมีคนยืนกองหนึ่ง เมื่อเหล่านักเรียนหญิงเห็นฉากนี้ ความอิจฉาในดวงตาก็แทบจะเอ่อล้นออกมา

แทนไทก้าวเข้าไปในลิฟต์ทันที มองเธอแล้วพูดขึ้น “กดหน่อย……”

เธอยื่นมือไปกดชั้นที่ต้องการจะไปทันที

ในตอนนี้ มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งเดินมาข้างหน้า มองเขาอย่างลึกซึ้ง จากนั้นก็กดปิดประตู

ด้านหลังพวกเขา นักเรียนหญิงสามคนบ้าคลั่งสุดๆ มองแผ่นหลังตระหง่านของเขาเกิดความบ้าผู้ชาย ขณะที่แอบกระซิบกระซาบไปด้วย

“อ่า……โอ้พระเจ้า พี่คนนี้หล่อมากเลยอ่ะ”

“ไม่ใช่แค่หล่อ แต่ยังเอาอกเอาใจแฟนขนาดนี้ เป็นแฟนเขาออกจากบ้านไม่ต้องเอาขามาด้วยก็ได้ ฉันอิจฉาแทบบ้า”

“เธอจะอิจฉาเพื่ออะไรอ่ะ ถ้าพี่คนนี้ขาพิการล่ะ?”

เสียงพวกเธอเบามาก แต่ชัชนันท์และแทนไทกลับได้ยินอย่างชัดเจน

ทั้งสองขมวดคิ้วพร้อมกัน

ชัชนันท์หันไปมองพวกเธอสามคน ยิ้มแล้วพูดขึ้น “คือฉันไม่ได้พิการ”

“คุณไม่ได้พิการ ทำไมให้เขาอุ้มเดินล่ะ?” ผู้หญิงคนหนึ่งพูด

“เพราะฉันชอบอุ้มเธอเดิน” เขาพูด

ประโยคเดียว จบบทสนทนาของชัชนันท์กับเธออย่างแท้จริง ทำเอาคนเหม็นกลิ่นความรักไปทั้งลิฟต์

เหล่าหญิงสาว หัวใจหญิงสาวท่วมท้นอย่างสุดซึ้ง

หัวใจชัชนันท์ก็เริ่มเต้นเร็วขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ

ทั้งๆ ที่รู้ว่าประโยคนี้เขาพูดไปงั้นๆ แต่เธอรู้สึกดีเป็นพิเศษ

“อ๊ากกก……พี่สุดยอดเกินไปไหม?”

“ฉันกลัวจะตายตรงนี้ นี่มันแฟนหนุ่มเทพบุตรแบบไหนกัน?”

“อยากเข้าสิงพี่คนนั้นทำยังไงดี? รออยู่ ด่วนจี๋”

เหล่าผู้หญิงภายในลิฟต์ ช็อกกันหมด……

พวกเขาสองคนเหมือนเพชรสวยสมบูรณ์แบบสองชิ้น แสงปกคลุมทั่วทุกสิ่ง

ไม่นานลิฟต์ก็มาถึงชั้นพวกเขาก่อน

เขาอุ้มเธอตรงไปที่ประตูห้องผู้ป่วยชลิตา ระหว่างทางก็ดึงดูดสายตานับไม่ถ้วน

“พอแล้ว……นายวางฉันลงได้แล้ว” ชัชนันท์พูดเสียงทุ้ม ใบหน้ายังแดงเลือดฝาดเล็กน้อย เธอในตอนนี้เหมือนดอกกุหลาบแดงที่เบ่งบาน

เขาวางเธอลงอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็เคาะประตู

“เชิญเข้ามา……” เสียงหทัยดังขึ้น

แทนไทผลักประตูทันที จับมือชัชนันท์แล้วเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย

ภายในห้องผู้ป่วย มีสองเตียงวางอยู่

เตียงหนึ่ง ชลิตากำลังนอนหลับ คอ ข้อมือ และหน้าผากเธอพันด้วยผ้าก๊อซ ดูแล้วสยดสยองมาก

อีกเตียงหนึ่ง วันชัยกำลังพิงหัวเตียงให้น้ำเกลืออยู่ สีหน้าเขาซีดเซียวถึงขีดสุด ไอไม่หยุด ดูอ่อนแอมาก

หทัยนั่งข้างเขา กำลังปอกแอปเปิลอย่างตั้งใจ

เมื่อเห็นชัชนันท์และแทนไท สีหน้าหทัยก็เย็นชาขึ้นมาทันใด แค่วินาทีต่อมาก็กลายเป็นจริงใจและอ่อนโยนเต็มเปี่ยมเหมือนเดิม “นันท์ พ่อแทน พวกเธอมาแล้วเหรอ”

ชัชนันท์และแทนไทพยักหน้าให้เธออย่างสุภาพ

เห็นพ่อตัวเองเป็นแบบนี้ ชัชนันท์ก็รู้สึกหัวใจตัวเองเหมือนมีมือคู่หนึ่งฉีกมันออกจากกันอย่างโหดเหี้ยม

เธอควงแทนไทรีบเดินไปตรงหน้าเขา แล้วถามขึ้น “พ่อ พ่อรู้สึกยังไงบ้าง? หมอพูดว่ายังไง?”

“แค่กๆ ……พ่อไม่เป็นอะไร หมอบอกว่าพ่อเหนื่อยเกิน รวมถึงโมโหด้วย ก็เลยเป็นหวัด” วันชัยไอไปด้วยพูดไปด้วย

ตอนเขาไอ หายใจยากลำบากมาก สีหน้าก็แดงก่ำขึ้น

ชัชนันท์ลูบหลังเขาเบาๆ ด้วยใบหน้าสงสาร

“นันท์อ่า……ขอบคุณที่เธอเข้าใจ” วันชัยจับมือชัชนันท์ รู้สึกซาบซึ้งใจเต็มตา

“เข้าใจพ่อเป็นเรื่องที่ควรค่ะ” เบ้าตาชัชนันท์แดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “พ่อกินยาฉีดยาให้ดี ช่วงนี้อย่ากินของเผ็ด กินของอ่อนๆ หน่อย พ่ออยากกินอะไรไหม? ฉันจะทำให้พ่อ”

“ไม่ต้องหรอก เรื่องอาหารคุณป้าเธอเป็นคนทำ” วันชัยพูด

“งั้นก็ดีค่ะ……” ชัชนันท์พยักหน้า

“ต่อไปน้องเธอจะกลับไปอยู่บ้าน สภาพจิตใจหล่อนไม่ดีเลย ถ้าตอนเธอกลับบ้านไป หล่อนเผลอล่วงเกินเธอ ก็หวังว่าเธอจะไม่ถือสานะ” วันชัยพูดอีกครั้ง

“ฉันไม่ถือสาค่ะ” ชัชนันท์พูด

“เมื่อกี้ทนายฉันโทรมาหาฉัน บอกว่ารับรองพินัยกรรมเสร็จแล้ว” วันชัยยิ้มขณะหายใจหอบพูดขึ้น “นันท์ของพ่อ ตอนนี้เป็นผู้สืบทอดบริษัทแล้วนะ ในอนาคตพ่อจะต้องสอนอะไรบางอย่างกับเธอเยอะๆ”

น้ำเสียงเขาอ่อนโยนสุดขีด

เตียงข้างๆ ชลิตาพลิกตัวหันหลังให้ทุกคน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว