หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 191

หลังจากเข้าไป ชัชนันท์ก็เห็นแอคปล่อยข่าวจำนวนมากแสดงภาพธันวาที่ถูกพบในห้องโถงใหญ่ของโรงแรมเมื่อครู่นี้

ภาพที่ทุกคนปล่อยคือรูปที่อัพเก้าช่อง เนื้อหารูปภาพไม่ต่างกันมากนัก

มีภาพธันวาถูกบอดี้การ์ดและพนักงานกรูกันเข้าไป

มีภาพธันวาคุยกับเธอและคุณห้า รวมถึงภาพที่เขาโดนแฟนคลับดักล้อมขอลายเซ็นที่ห้องโถงใหญ่ด้วย

ทุกภาพเป็นรูปภาพต้นฉบับ

ธันวาในทุกๆ รูป หล่อจนละสายตาไปไม่ได้เลย

และภาพที่เธอ คุณห้าและธันวาอยู่ในเฟรมเดียวกัน เป็นภาพที่ดูดีที่สุด หน้าตาของพวกเขาทั้งสามคนในรูปฆ่าทุกคนที่ผ่านไปผ่านมาให้ตายได้เลย

สายตาเธอก็หยุดอยู่ที่ใบนั้นเป็นเวลานาน

ดูในรูป รูปภาพที่เธอกับคุณห้าอยู่ด้วยกัน มันช่างน่างดงาม เหมาะสมกันเป็นพิเศษ แถมยังมีความคล้ายคลึงกันระหว่างสามีภรรยา

คิดถึงตรงนี้ เธอก็รีบตบศีรษะตัวเองเบาๆ อดไม่ได้ที่จะถามตัวเองในใจ ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่?

ธันวาก็เป็นเช่นนั้น รูปต้นฉบับเขาดูดีมากอยู่แล้ว ไม่มีทางเลือก ก็เกิดมาเพื่อดูดี

บางคนเกิดมาเพื่อกินข้าวชามนี้ เช่นธันวา ใบหน้านั้น หุ่นและบุคลิกนิสัย เป็นผู้กินอาหารที่พระเจ้าประทานให้อย่างสมบูรณ์

ในหัวข้อ เหล่าแฟนคลับและผู้ที่สัญจรไปมา เดือดพล่านกันหมด

“กรี๊ดดดดดด……ธันวาน่าทึ่งเกินไปไหม? คนที่ธันวาคุยในเฟรมเดียวกัน ใช่ชัชนันท์หรือเปล่ากรี๊ดดดด……คนที่ประสานสิบนิ้วอยู่ข้างๆ พี่สาว ใช่สามีเธอไหมกรี๊ดดด……สามีเธอก็สุดยอดมาก! สุดยอดกว่าธันวาอีก!”

“ธันวา แม่รักหนู ลูกแม่ รักจะตายอยู่แล้ว! แล้วก็ชัชนันท์กับสามีเธอเหมาะสมกันมากเลย หนุ่มสาวบริสุทธิ์ไร้เดียงสา เหมาะสมกันมาก”

“ใช้ชีวิตมาแก่ป่านนี้ ไม่เคยอิจฉาใครมาก่อน แต่ตอนนี้ฉันอยากบอกว่าฉันอิจฉาชัชนันท์……ผู้หญิงคนนี้มีโชคชะตาเทพอะไรกันนะ? เป็นผู้ชนะในการใช้ชีวิตครบครัน น่าอิจฉา”

สายตาเธอหยุดที่ความคิดเห็นที่ว่าเธอกับสามีเหมาะสมกันหลายวินาที จากนั้นก็วางโทรศัพท์ลง

กำลังจะเข้าห้องน้ำไปเช็ดตัว โทรศัพท์เธอก็สั่นขึ้นมา

เห็นว่าเป็นสายจากนลิน เธอก็กดรับทันที “ทำไมเหรอนลิน?”

“ไม่มีอะไรแค่อยากบอกเธอว่าพรุ่งนี้《ไอดอลวัยเยาว์》จะออนไลน์ที่เว็บบริษัททีซีแล้ว ยังเหมือนเดิม สองทุ่ม” ทางด้านนลินพูดอีกครั้ง “ฉันได้รับแจ้งมาตอนบ่าย ตอนนั้นอยากบอกเธอเลย แต่มีธุระก่อนเลยล่าช้า”

รายการนี้ เดิมทีแล้วกำหนดลงออนไลน์วันที่ 20 มกราคม แต่ต่อมาเพราะผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งในนั้นเกิดข่าวอื้อฉาวบางอย่าง บริษัทพวกเขาจึงเปลี่ยนคนชั่วคราว และเลื่อนเวลาออกไป

“ตอนพวกเขาบันทึกเทปตอนแรก ฉันไปดูสถานที่มา กลุ่มคนในบริษัทเรา เวทีของทยาวรกับเกตน์แสดงออกมาได้ดีสุดเลย”

“พวกเขาไม่ใช่แค่เก่งที่สุดในบริษัทเรา แต่เก่งที่สุดในบรรดาเด็กผู้ชายที่เข้าร่วมประกวดทุกคนด้วยซ้ำ ใช้สายตาคาดคะเนตอนสุดท้ายสองคนนี้น่าจะแข่งกันเป็นเซนเตอร์”

ปลายสายโทรศัพท์ นลินอธิบายเน้นต่อไป ไม่ขี้เหนียวคำชมที่ตัวเองมีต่อเกตน์และทยาวรเลยสักนิด

ได้ยินดังนั้น ชัชนันท์ก็รู้สึกปลื้มใจ “งั้นก็ดี”

“ครั้งนี้ถ้าแสดงได้ดี บริษัทเราคงฉวยโอกาสนี้ปั้นพวกเขาสองคนให้เป็นกระแสตัวท็อปคนใหม่” ในคำพูดนลินมีความตื่นเต้นเล็กน้อย

แค่ได้ยินเสียง เธอก็เดาได้ นลินในตอนนี้จะต้องมีท่าทางฮึกเหิมอยู่แน่นอน

ในใจชัชนันท์ก็รู้สึกดีอกดีใจเหมือนกัน “อืม……ถึงตอนนั้นก็ดูการแสดงพวกเขาในตอนหลัง ถ้าดีก็ตั้งใจปั้นเต็มที่”

“อืม……พรุ่งนี้ตอนกลางวัน พวกเขาต้องไปบันทึกเทปรายการ เธออยากไปดูสถานที่หน่อยไหม?” ทางด้านนลินพูดจบ ก็รีบพูดอีกครั้ง “ช่างมันดีกว่า แผลเธอเพิ่งหายดี อย่าไปไหนมาไหนเลย……คิดซะว่าฉันไม่ได้พูด”

“ไม่เป็นไร ฉันไปได้ พรุ่งนี้เธอมารับฉันนะ แค่ฉันไม่ขับรถก็พอ” ชัชนันท์พูด

“ไม่เอาดีกว่า เมื่อกี้ฉันคิดไม่รอบคอบ”

“เอา ฉันอยากไปเห็นว่าที่เบอร์หนึ่งจากปากเธอ แล้วไปพูดคุยกับพวกเขา” ชัชนันท์ยิ้ม

“งั้น……ก็ได้ ถึงตอนนั้นฉันจะไปรับเธอ”

“อืม……” ขณะที่พูดชัชนันท์ก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ บีบยาสีฟัน แปรงฟันพลางฟังนลินพูดต่อ

“ฉันเห็นข่าวแล้ว คนในตระกูลอัครกุลถูกตัดสินหมดแล้ว ฉันเห็นแล้วดีใจแทบตาย” ทางด้านนลินพูดจบ ก็หัวเราะเบาๆ

“ฉันก็เหมือนกัน นี่คือจุดจบที่คนชั่วสมควรได้รับ” มุมปากชัชนันท์วาดโค้งโดยไม่รู้ตัว

“ถูกต้อง เดี๋ยวฉันจะเตรียมคนบางส่วน ไปสั่งสอนพงศ์พรข้างในหน่อย”

“โอเค”

หลังจากแปรงฟันเสร็จ ชัชนันท์ก็อาบน้ำง่ายๆ แล้วทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องเก็บเสื้อผ้า ว่าจะหาชุดนอนหนึ่งชุด

เมื่อสายตาหยุดที่กล่องเครื่องประดับกำมะหยี่สีดำในตู้เก็บเครื่องประดับ เธอก็รีบเดินไปหยิบกล่องออกมาทันที

นี่มันเครื่องประดับที่กชนิภเคยมอบให้เธอ เพราะเกิดเรื่องนั้นขึ้น จึงยังไม่ได้ส่งคืน

ตอนนี้ร่างกายเธอหายดีแล้ว เธอคิดว่าตัวเองควรส่งคืนเครื่องประดับ

เธอตัดสินใจว่าคืนพรุ่งนี้จะนัดกชนิภ

ก่อนหน้านี้กชนิภมอบเสื้อผ้าจำนวนมากให้เธอ เธอก็มักรู้สึกติดหนี้น้ำใจอีกฝ่ายแล้ว ถ้าหากไม่รีบคืนมัน ในใจมักจะรู้สึกไม่สบายใจ

เธอคนนี้ ไม่ชอบติดหนี้น้ำใจคนอื่นมากที่สุด

…………

อีกด้านหนึ่งหลังจากนลินคุยโทรศัพท์กับชัชนันท์เสร็จ ก็ล็อกอินเข้าเกมส์อุ่นสุราใต้หล้า เริ่มทำเควสประจำวันที่ตัวเองเหลือไว้

ตอนกำลังทำเควส ตรงกลางสุดของจอเกม ก็เด้งข้อความอวดเบ่งขึ้นมา “ฟาดฟันเมฆทหารกล้าอันดับหนึ่ง เข้าเกมแล้ว!”

เธอมองแจ้งเตือนอันอวดเบ่งนั้น ในใจก็อดไม่ได้ที่จะปลง มหาเทพในเกมนี้ตั้งตนเป็นใหญ่จริง

ในเกมนี้จะแบ่งออกเป็นสามอาชีพ มีนักยุทธศาสตร์ นักเล่นแปรธาตุ และทหารกล้า

จัดอันดับตามพลังรบในสามอาชีพ แบ่งออกเป็นได้รับการขนานนามว่านักยุทธศาสตร์อันดับหนึ่ง นักเล่นแปรธาตุอันดับหนึ่งและทหารกล้าอันดับหนึ่ง

และผู้เล่นที่ควรได้รับการขนานนาม เมื่อเข้าเกมจะมีการแจ้งเตือนทุกแคว้น และวางพาดบนหน้าจอเกมในแนวนอน ช่างอวดเบ่งอย่างยิ่ง

ชื่อฟาดฟันเมฆนี้ เธอรู้สึกชอบมันมาก จึงมองมันเยอะหน่อย

ถึงเธอจะเป็นผู้เล่นธรรมดา ไม่เคยพูดคุยกับมหาเทพตัวท็อปแบบนี้มาก่อน ไม่เคยเล่นด้วยกันด้วยซ้ำไป แต่ความประทับใจที่เธอมีต่อคนคนนี้ดีมากเป็นพิเศษ

ไม่มีเหตุผลอื่น เพราะชื่อ เธอชอบมันมาก เธอรู้สึกว่ามันเพราะดี

ในเวลานี้ ฟาดฟันเมฆของเธอจู่ๆ ก็เดินมาหาเธอ เพื่อขอร่วมทีม……

อีกฝ่ายสวมชุดคลุมสีแดงสด ขณะขี่มังกรที่แพงสุดในเกม ช่างโอหังเหลือเกิน

ตอนเห็นคำเชิญขอร่วมทีม เธอก็ตกตะลึง

มหาเทพตัวท็อปแบบนี้ ไม่คิดเลยว่าจะอยากร่วมทีมกับเธอ? เขาทำทำไม?

เธอกดตกลงโดยไม่รู้ตัว

ในตอนนี้ อีกฝ่ายก็ส่งคำขอเป็นเพื่อนอีกครั้ง……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว