หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 228

หลังจากนั้นสามวัน

ชัชนันท์หลังจากผ่านการตรวจร่างกายอย่างเข้มงวด มั่นใจว่าทุกด้านปกติดีแล้ว ก็ถูกอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้

กชมนส่งธนกฤธมาช่วยจัดการขั้นตอนการออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่เช้าตรู่

นลินนำคนที่เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า มาขนของบำรุงที่ชัชนันท์ได้รับขึ้นรถรอบแล้วรอบเล่า

หลังจากที่เธอขนของขึ้นรถไปหมดแล้ว ฝั่งชัชนันท์และธนกฤธก็จัดการขั้นตอนเสร็จเรียบร้อย เขาไปเข็นรถเข็นมาหนึ่งคัน เข็นชัชนันท์ออกจากตึกโรงพยาบาลอย่างระมัดระวัง แล้วพยุงเธอขึ้นรถ

ในขณะเดียวกัน อีกฝั่งหนึ่ง ธนิดากำลังดูภาพบันทึกกล้องวงจรปิดหน้าประตูห้องผู้ป่วยของชัชนันท์ที่ผอ.พึ่งส่งมา

เธอเห็นอย่างชัดเจน ภาพที่ธนกฤธกำลังเข็นชัชนันท์ออกมาจากห้องผู้ป่วย

ขณะที่กำลังมองใบหน้าของธนกฤธนั้น คิ้วของธนิดาก็ขมวดเข้าด้วยกัน

คนๆนี้ มักจะมาบ้านพี่สะใภ้้เธอทุกวัน และทุกครั้งก็จะอยู่นานมาก

นอกจากคนๆนี้แล้ว ก็ไม่มีผู้ชายคนอื่นมาที่นี่

วันนี้พี่สะใภ้้เธอออกจากโรงพยาบาล เขาก็มาอีกแล้ว นี่มันหมายความว่าอะไร?

นี่มันก็หมายความว่าคนๆนี้ ก็คือมือที่สามที่มาแทรกกลางระหว่างพี่ห้าของเธอกับพี่สะใภ้ห้าไงเล่า!

พอคิดถึงตรงนี้ เธอก็รีบหยุดภาพนั้นไว้ ใช้มือต่อยไปที่ใบหน้าของธนกฤธบนภาพนั้นอย่างไม่พอใจ “ไอ้คนนิสัยไม่ดี รอดูว่าฉันจะจัดการนายยังไง แม่นายกับแม่ฉันเป็นเพื่อนกันดี แต่นายกลับมาแทงข้างหลังพี่ชายฉัน”

พอพูดจบ เธอก็โทรหาธนกฤธด้วยความโมโห

ไม่นานฝั่งธนกฤธก็รับสาย

ในเวลานี้ เขากำลังขับรถลัมโบร์กีนีสีเขียวของตัวเองอยู่ พาชัชนันท์ขับไปยังตำแหน่งบ้านของเธอ

“ธนกฤธ!คืนนี้นายต้องออกมา!ฉันอยากจะเจอนาย” ธนิดาพูดตรงๆไม่อ้อมค้อม

ใบหน้าของธนกฤธเต็มไปด้วยความงุนงง มือจับหูฟัง “เธอกลับจากต่างประเทศแล้ว? ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“ไม่เกี่ยวกับนาย ได้ยินไหม? ที่ฉันสั่งนายไป”

ธนกฤธขมวดคิ้วอย่างจนปัญญา สายตายังคงอ่อนโยนอยู่ “ได้สิ เจอที่ไหน?”

ฟังจากน้ำเสียงเธอ ราวกับตนเองไปติดหนี้อะไรเธอ เขาอดไม่ได้ที่จะคิด ว่าตัวเองทำอะไรผิด ได้ล่วงเกินอะไรองค์หญิงน้อยท่านนี้หรือเปล่า?

เหมือนว่าจะไม่มีนะ?

“โรงแรมฮิลตัน!ดาดฟ้า!ตอนเที่ยงสิบสองนาฬิกา ไม่เจอห้ามกลับ!” ธนิดาตอบทันทีด้วยความโมโห

ธนกฤธก็ยิ่งงุนงงเข้าไปใหญ่ “ดาดฟ้า…...? หนาวขนาดนี้ พวกเราจะไปที่ดาดฟ้าทำไม?”

“นายไม่กล้ามา?”

“ทำไมฉันต้องไม่กล้า?”

“งั้นก็เอาตามนี้ บาย”

ธนิดาวางสายโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว ไม่อยากจะเสวนากับธนกฤธแม้แต่คำเดียว

ธนกฤธคิดไม่ออกจริงๆทำไมเธอถึงต้องการแบบนี้ ก็เลยไม่คิดต่อ ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ แล้วเอามือถือเก็บเข้าไปในกระเป๋า

ธนิดาคนนี้ เดาใจยากจริงๆ

…………

หลังจากที่ถึงบ้าน ธนกฤธกับนลินก็ช่วยกันพยุงชัชนันท์เข้าไปในบ้าน

แล้วนลินก็ไปช่วยขนพวกของบำรุงที่ขนมาจากโรงพยาบาลต่อ พร้อมกับคนอื่นๆที่ถูกจัดเตรียมไว้ก่อนหน้านี้

ส่วนธนกฤธก็พยุงชัชนันท์มาที่โซฟา แล้วนั่งลงข้างๆเธอ

ครั้งนี้แผลบนตัวเธอหายดีมากแล้ว สามารถเดินได้ปกติ นั่งลงตรงนี้ก็ไม่รู้สึกถึงความเจ็บแล้วด้วย

เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นสบายขึ้นเยอะมาก

“กฤษ วันนี้ก็ขอบคุณที่มาช่วยนะ” ชัชนันท์ยิ้มแล้วพูด

“เกรงใจอะไร?” ใบหน้าของธนกฤธสบายๆ “เธอจะดื่มน้ำหน่อยไหม? ฉันไปรินมาให้?”

พอพูดจบ เขาก็มองไปรอบๆ ต้องการจะหาห้องครัว

ชัชนันท์ส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก นายไปทำงานของนายเถอะ ไม่ต้องสนใจฉัน”

“งั้นก็ได้ ฉันไปก่อนละกัน......” ธนกฤธยิ้มแล้วลุกขึ้น

ด้านนอก รถฮอนด้าสีดำคันหนึ่งค่อยๆจอดลง

ภายในรถ แทนไทมองนลินที่กำลังทักทายชายหนุ่มที่มาช่วยขนพวกของบำรุงเข้าบ้านอย่างเย็นชา หลังจากนั้นก็ลงจากรถด้วยท่าทางสง่า

เขาเปลี่ยนรองเท้า แล้วเดินไปเข้าที่ห้องรับแขกอย่างช้าๆ

ขณะที่มองเห็นธนกฤธ สายตาของเขาก็นิ่งขรึมขึ้นมา

ธนกฤธมองเห็นแทนไท ก็พยักหน้าให้ตามมารยาท แต่ติดที่ท่าทางระหว่างเขากับชัชนันท์ เลยไม่ได้เรียกชื่อเขา

แทนไทกลับไม่ได้ทักทายตอบ เดินตรงมาที่หน้าชัชนันท์ “คุณทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ทำไมไม่บอกผม?”

เมื่อครู่เขาพึ่งจะประชุมเสร็จ เลยรีบไปที่โรงพยาบาล คิดว่าวันนี้เธอออกจากโรงพยาบาล ต้องการความช่วยเหลือจากเขา

สุดท้าย เขากลับได้รับคำตอบว่า เธอออกจากโรงพยาบาลไปนานแล้ว

“ฉันคงไม่จำเป็นต้องรายงานคุณทุกเรื่องมั้งคะ?” ชัชนันท์พูดเสียงเรียบเฉย “ไม่งั้นคนเขาเข้าใจผิดกันจะทำยังไง?”

เขามีแฟนแล้ว เธอบอกเขาก็คงไม่ดี ไม่งั้นผู้หญิงของเขาเข้าใจผิดจะทำยังไง?

“เข้าใจผิด?” พอได้ยิน แทนไทก็ขมวดคิ้ว เหลือบตาไปมองธนกฤธที่อยู่ข้างๆ

ทำไม? เธอกลัวว่าธนกฤธจะเข้าใจผิด?

ชัดเจนอย่างมาก วันนี้ธนกฤธตั้งใจไปช่วยเธอทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลเป็นพิเศษ ดูแล้ว ที่เธอทำตัวเปลี่ยนไป เป็นเพราะธนกฤธจริงๆ

“อืม…...” ชัชนันท์ตอบกลับเสียงต่ำ หลังจากนั้นก็มองไปยังธนกฤธ “กฤษ ขับรถก็ระวังๆด้วยนะ”

ธนกฤธรับรู้ได้ถึงบรรยากาศระหว่างพวกเขาแปลกๆไป ในใจหนาวสั่น หลังจากนั้นก็พยักหน้า แล้วรีบเดินออกไป

เวลาที่เขานัดไว้กับธนิดาใกล้ถึงแล้ว เขาต้องรีบไป

“เหอะ กลัวว่าธนกฤธจะเข้าใจผิด?” แทนไทสบถออกมา

ใบหน้าของชัชนันท์งุนงง ทำไมเธอต้องกลัวว่าธนกฤธจะเข้าใจผิดด้วย?

เขาคิดไปถึงไหนแล้ว?

“ตู๊ดๆๆ…...” เธอกำลังจะอ้าปาก เสียงสั่นมือถือก็ดังขึ้นมา สายโทรศัพท์จากกชนิภาโทรเข้ามา

แทนไทมองเธอด้วยสายตาเรียบเฉย ดึงเนคไทสีดำที่อยู่บนคอเสื้ออย่างไม่สบอารมณ์ แล้วหมุนตัวเดินออกจากประตูไป

ตอนที่เขาเดินมาถึงประตู นลินก็กำลังหอบถั่งเช่าสามกล่องใหญ่เข้ามาพอดี เดินมาถึงที่หน้าประตูเช่นกัน

แทนไทขมวดคิ้วอย่างเย็นชา “ดูแลเธอให้ดี”

“ฉันจะดูแลให้ค่ะ” นลินพยักหน้า

เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ ขึ้นไปบนรถฮอนด้าสีดำด้วยสีหน้าเรียบเฉย เลื่อนเปิดเบอร์มือถือของธนกฤธ แล้วโทรไป

ไม่นานธนกฤธก็รับสาย

มือของเขาข้างหนึ่งจับหูฟัง อีกข้างหนึ่งจับพวงมาลัย แล้วถาม “พี่ห้า…...โทรหาผมมีธุระอะไรครับ?”

“ธนกฤธ ออกมาคุยกับฉันหน่อย……” น้ำเสียงเย็นชา เผด็จการ

ใบหน้าของธนกฤธงุนงง ไม่รู้ว่าตัวเองมีเรื่องอะไรให้น่าคุยกับแทนไท

น้ำเสียงฝั่งนั้น ทำให้เขาขนลุกอย่างไม่รู้ตัว “ได้สิครับ แต่คงช้าหน่อยนะ ตอนนี้ผมมีเรื่องสำคัญต้องทำ”

“ฉันให้เวลานายหนึ่งชั่วโมง จัดการธุระของนายซะ อีกหนึ่งชั่วโมงมาเจอฉันที่ที่ฉันส่งให้” ฝั่งนั้นพูดจบ ก็วางสายไป

ไม่นาน ฝั่งนั้นก็ส่งที่อยู่ที่นัดเจอมา

ธนกฤธเหลือบมองเวลา ที่นั่นอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมฮิลตัน พอเจอกับธนิดาเสร็จภายในหนึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นก็ค่อยไปหาเขา น่าจะได้อยู่

เพียงแต่ เขาไม่ค่อยเข้าใจ พวกเขาสองพี่น้องเป็นอะไรกัน? ถึงต้องการนัดเจอเขาทั้งสองคน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว