ไม่นานมาวินก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ถอยออกมา
เขาเจ็บจนขมวดคิ้วปล่อยมือออกมาก่อน แทนไทปล่อยมือของเขาออกอย่างนิ่งเงียบ จากนั้นก็โอบชัชนันท์นั่งลง
มาวินแอบสะบัดมืออยู่ข้างหลัง แม้ว่าจะเจ็บมากแต่กลับไม่กล้าแสดงออกมา กลัวว่าจะขายขี้หน้า
แต่ถึงยังไงชลิตากลับไม่ได้กะที่จะปล่อยพวกเขาไปง่ายๆแบบนี้ ต่อให้พี่เขยของเธอคนนี้หน้าตาผ่านมาตรฐาน แต่หน้าที่การงานก็อาจจะไม่ผ่านก็ได้!จะเป็นพวกหนุ่มขายบริการในผับในบาร์หรือเปล่าก็ไม่มีใครรู้?
เธอหันมองแทนไททันทีพร้อมกับพูดขึ้น"พี่เขย พี่นันท์บอกว่าพี่เรียนแพทย์เหรอ? พี่ช่วยจับชีพจรให้น้าสะใภ้หน่อยสิ......ช่วงนี้เธอเอาแต่รู้สึกเหนื่อยหมดเรี่ยวหมดแรง ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไรหรือเปล่า"
จากนั้นชลิตาก็หันสายตามองไปที่หน้าของน้าสะใภ้ของตัวเองที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ก่อนจะส่งซิกให้กับเธอ
น้าสะใภ้ของชลิตารีบพยักหน้าทันที"ใช่ๆๆ ช่วงนี้น้าเอาแต่รู้สึกว่าตามตัวไม่มีเรี่ยวแรง อยากนอนอยู่ตลอดเวลา แถมไม่ค่อยรู้สึกอยากอาหารด้วย"
จากนั้นน้าสะใภ้ของชลิตาก็ย้ายเก้าอี้มาเบียดอยู่ตรงกลางระหว่างชัชนันท์กับแทนไทก่อนจะยื่นมือออกมาวางไว้บนโต๊ะอย่างกระตือรือร้น
"พี่เขยลองจับชีพจรดูสิ"ชลิตาสบถหึออกมาอย่างเย้ยหยัน ตั้งหน้าตั้งตารอดูแทนไทปล่อยไก่
จากนั้น เธอก็หันมองไปที่ผู้คนพร้อมกับพูดขึ้น"พี่เขยของฉันคนนี้ เป็นหมอเทวดาที่ฝีมือเก่งกาจมากๆเลย ฝีมือทางการรักษาของเขาก็เชี่ยวชาญมากๆด้วย ถ้าเกิดมีใครสนใจล่ะก็ สามารถเข้ามาดูได้เลยนะ"
ชลิตาพูดขนาดนี้ ก็ดึงดูดคนจากโต๊ะอื่นมาทันที แต่ละคนต่างก็อยากจะเห็นเขาจับวัดชีพจรกันทั้งนั้น
เธอยกริมฝีปากอย่างสะอกสะใจ มองดูทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้านี้ด้วยท่าทางสนใจ
แทนไทไม่ได้พูดอะไร แค่ดึงกระดาษทิชชูมาหนึ่งแผ่น คลุมลงไปบนข้อมือของน้าสะใภ้ของชลิตา จากนั้นนิ้วมือก็วางลงตรงบริเวณชีพจร
ชัชนันท์รู้สึกประหม่าอยู่ภายในใจ แม้จะรู้ว่าโรคนี้ มันไม่น่าจะยากสำหรับเขา แต่เธอก็ยังเป็นกังวลว่าจะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นอยู่ดี
หลังจากผ่านไปสองสามวินาที แทนไทก็ปล่อยเธอออกอย่างรวดเร็ว ทิ้งกระดาษทิชชู่ลงไปในถังขยะทันที มองเธอพร้อมกับพูดขึ้นมาอย่างนิ่งๆ"คุณมักจะมีกลิ่นปากตอนที่ตื่นขึ้นมาตอนเช้าใช่ไหม?"
น้าสะใภ้ของชลิตารู้สึกว่าอับอายสุดๆ แต่กลับฝืนพยักหน้าไปด้วยความไม่เต็มใจ
คนที่อยู่รอบๆต่างก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
"คุณไม่ได้ป่วยเป็นโรคอะไร แค่ในกระเพาะอาหารกับม้ามเกิดภาวะหยางพร่อง ใช้ยาฟู่จื่อลี่จงหยวนรักษาก็ได้แล้ว"แทนไทพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ
ความประหม่าในใจของชัชนันท์ก็ลดลงทันที
"น้าสะใภ้เขาพูดถูกไหมคะ? แพทย์แผนจีนที่คุณไปตรวจมา จ่ายยานี้ให้กับคุณไหม?"ชลิตาจงใจพูดถามขึ้นมา
น้าสะใภ้ของชลิตาพยักหน้าทันที"ยานี้แหละ"
ชลิตาแอบกัดฟันด้วยความโมโห ชัชนันท์ไม่ได้โกหกจริงๆเหรอ? ไม่สิ เธอไม่เชื่อ ของขั้นพื้นฐานขนาดนี้ อาจจะไปทำการบ้านมาก่อนก็ได้?
เธอหันมองไปที่แขนภาพร้อมกับพูดขึ้นมา"คุณลองตรวจดูให้แขนภาหน่อย ว่าเธอเป็นโรคอะไรบ้าง"
น้าสะใภ้ของชลิตาลุกขึ้นมาทันที เว้นที่ให้กับแขนภา
แขนภาวางแขนลงตรงหน้าของแทนไทแววตาที่จ้องมองเขาเต็มไปด้วยตะกละตะกลาม
เธอรู้สึกอาลัยอาวรณ์รูปลักษณ์ที่สวยงามนี้
พอมาดูหน้าของเขาใกล้ๆก็ยิ่งสมบูรณ์มากขึ้น ไร้ซึ่งข้อบกพร่องเลยจริงๆ
ผู้ชายคนเดียวทำไมถึงหล่อดูดีได้ขนาดนี้กันนะ ผิวดีขนาดนี้? ผู้หญิงที่ดูแลผิวพรรณอย่างทะนุถนอมในทุกๆวันแบบเธอยังต้องพ่าย!
แทนไทดึงกระดาษทิชชูออกมาอีกหนึ่งแผ่น วางลงบนแขนของแขนภา
"พี่สุดหล่อ จริงๆตอนนี้ก็ไม่ใช่ยุคสมัยโบราณแล้ว ฉันไม่ปฏิเสธที่จะแตะเนื้อต้องตัวหรอกนะคะ"แขนภาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ผมกับภรรยาของผมปฏิเสธ"เขาตอบกลับอย่างเย็นชา สามนิ้ววางลงบริเวณชีพจรของแขนภาเบาๆ
ชัชนันท์ยิ้มเล็กน้อย คิดในใจสามีคนนี้แสดงสวมบทบาทได้สุดยอดจริงๆ แถมยังไว้หน้าให้กับเธออีก
ผู้คนรอบข้างต่างก็พากันอิจฉาความหวานของทั้งสองคนนี้จนพูดอะไรไม่ออก
ในใจของพวกผู้หญิงเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว
บทที่ 244-339 หาอ่านได้ที่ไหนค่ะ...
คมสันกับขจีจบลงยังไงคะ...