ท่าทางเธอจริงจังและก็วิตกกังวล ทำให้กู้หยุนเซินที่ปกติเป็นคนไม่ค่อยจะแยแส และมีจิตใจที่เข้มแข็งอดไม่ได้ที่จะประหม่าตาม
“ใช่ค่ะ ฉันชอบคุณ ตั้งแต่วันที่คุณให้เค้กชิ้นนั้นกับฉัน ฉันก็ชอบคุณเลย หลายปีมานี้ ในสายตาฉันก็มีเพียงแต่คุณเท่านั้น แต่ว่าคุณสมบูรณ์แบบขนาดนั้น ฉันรู้สึกตัวเองไม่คู่ควรกับคุณ เลยไม่กล้าที่จะพูดว่าชอบคุณ ฉันกลัวว่าความชอบของฉันจะทำให้เป็นปัญหาและเป็นภาระสำหรับคุณ ฉันกลัวว่าคุณจะรังเกียจฉันเพราะเรื่องนี้!”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ เธอก็มองกู้หยุนเซินอย่างระมัดระวัง
“ตระกูลเสิ่นให้ฉันแต่งงานแทนพี่สาว ทั้งๆที่คุณโกรธมาก แต่กลับอนุญาตให้ฉันอยู่บ้านตระกูลกู้ต่อ แม้ว่าทุกครั้งคุณจะข่มขู่โดยการไล่ฉันออกไป แต่คุณก็ไม่ได้ทำมันจริงๆ หรือเวลาที่คนอื่นกลั่นแกล้งฉัน คุณก็มักจะช่วยฉัน คนอื่นว่าคุณเป็นคนเลือดเย็น แต่ฉันรู้สึกว่าคุณนั้นอ่อนโยนมาก อย่างน้อยคุณก็อ่อนโยนกับฉัน”
“กู้หยุนเซิน ฉันชอบคุณมากชอบคุณมากจริงๆ ชอบที่สุด ฉันเคยคิดว่าคงไม่มีโอกาสอยู่ใกล้กับคุณแล้ว แต่…...คิดไม่ถึงจะสามารถกลับมาเคียงข้างคุณอีกครั้ง ฉันไม่อยากให้ความขี้ขลาดของตัวเองทำให้ต้องเสียคุณไป”
เสิ่นเยว่ซีมองผู้ชายที่สูงใหญ่ตรงหน้า ตื่นเต้นจนมือกำลังสั่น “ฉันอยากจะใช้ทั้งชีวิตมาดูแลคุณ!”
หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านั้นบริสุทธิ์และสวยงาม แม้ว่าเธอจะเป็นลูกสาวแท้ๆของเสิ่นมู่เจียงแต่ไม่มีใครในตระกูลเสิ่นนับเธอเป็นญาติ สิ่งที่เธอเผชิญตั้งแต่เด็กจนโต มันทำให้เธอรู้สึกต่ำต้อย แต่ถึงกระนั้น เธอยังคงสารภาพว่าชอบเขาอย่างระมัดระวัง
กู้หยุนเซินกลิ้งลูกกระเดือกของเขาสองสามครั้ง หัวใจหวั่นไหว
หลายมาปีนี้ ผู้หญิงที่มาสารภาพรักและบอกชอบเขานั้นมีมากมายนับไม่ถ้วน แต่ไม่มีใครสามารถตราตรึงอยู่ในใจของเขาได้เลย
แสงในแววตาเธอช่างอบอุ่นนัก ทำให้เขาอยากจะเข้าใกล้
กู้หยุนเซินอยากจะเดิมพันสักครั้ง
เขาใช้มือกดศีรษะของเสิ่นเยว่ซีมาแนบตรงแผงอกของเขา ใบหูร้อนและแดงก่ำ “ผมอนุญาตให้อยู่เคียงข้างผม”
การแอบรักที่นานหลายปีในที่สุดก็ได้รับผลตอบรับแล้ว
ใต้หูก็คือหัวใจที่เต้นรัวของเขา เสิ่นเยว่ซีกอดเอวบางของเขาเอาไว้ ยิ้มจนตาหยีไปแล้ว
ตอนเด็ก แม่เคยบอกเธอ คนสองคนต่อให้ไม่มีวาสนา แต่ถ้าพยายามมากพอ ก็สามารถเชื่อมต่อวาสนาได้
ตอนที่เสิ่นจื่อเสวียนหมั้นกับเขา เธอคิดว่าวาสนาของเขาทั้งสองได้สิ้นสุดลงแล้ว เสิ่นเยว่ซีคิดไม่ถึงว่าสวรรค์จะใจดีกับเธอขนาดนี้
“กู้หยุนเซิน ต่อไปคุณห้ามทิ้งฉันไว้นะ” เธอพูดอย่างออดอ้อนเอาแก้มแนบไปที่อกของเขา พูดด้วยเสียงอ่อนโยน “ฉันจะกลัวได้”
“อืม”
หลังจากที่แต่งตัวเสร็จแล้ว กู้หยุนเซินที่นั่งอยู่บนรถเข็นได้ถูกเสิ่นเยว่ซีเข็นออกมา
เพื่อทำให้พวกอารองตายใจ กู้หยุนเซินต้องแกล้งทำเป็นพิการ ทั้งสองได้เก็บเรื่องที่เขาเดินได้ไว้ในใจ
ลุงหลินมองไปยังทั้งสองที่เดินเข้ามา รู้สึกว่าท่าทางของทั้งสองคนไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว จนกระทั่งเขาเห็นรอยจูบที่คอของเสิ่นเยว่ซี ใบหน้าจึงปรากฏขึ้นด้วยรอยยิ้ม
ดูแล้วคงได้อุ้มคุณชายน้อยในไม่ช้านี้แล้ว
ครั้งนี้รองผู้อำนวยการกับกู้หยุนเจ๋อสมคบคิดกัน เพื่อทำร้ายเสิ่นเยว่ซี กู้หยุนเซินไม่วางใจที่จะให้เธอทำงานต่อในโรงพยาบาล จึงให้เธออยู่บ้าน รอให้จัดการสองคนนั้นแล้ว ค่อยไปทำงาน
เสิ่นเยว่ซีที่ว่างงานในทันทีทันใด เดิมเธอก็เป็นเด็กสาวที่สวยและนิ่มนวลอยู่แล้ว เมื่อรู้ปฏิกิริยาของกู้หยุนเจ๋อแล้ว เมื่อต้องเผชิญกับใบหน้าที่เย็นชาของเขาก็สามารถยิ้มอย่างไม่กดดันแล้ว
ในช่วงสิบกว่าวันมานี้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด
ห้องหนังสือของกู้หยุนเซินเป็นพื้นที่ต้องห้ามในตระกูลกู้ คนรับใช้จะทำความสะอาดภายใต้การดูแลของลุงหลิน ตอนนี้มีคนสามารถเข้ามาในห้องหนังสือนี้ได้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน นั่นก็คือเสิ่นเยว่ซี
วันนี้กู้หยุนเซินกับลุงหลินออกมาคุยธุรกิจข้างนอก เพื่อเป็นการฆ่าเวลา เสิ่นเยว่ซีได้ถืออุปกรณ์ทำความสะอาดไปที่ห้องหนังสือของเขา ได้ทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกตู้หนังสือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานใจประธานเย็นชา