พอเสิ่นเยว่ซีนึกถึงเขากับอู๋จิ้งหย่าอาจจะนอนด้วยกันเมื่อคืน หัวใจก็เหมือนถูกคนฉีกออกเป็นชิ้นๆ อย่างรุนแรง
กู้หยุนเซินได้ยินโทนเสียงเย็นชาห่างเหินของเธอ ก็อดถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่ได้
เขารู้ว่าเสิ่นเยว่ซีเข้าใจเขาผิดแล้ว แต่คิดว่าโทรศัพท์อาจจะโดนดักฟัง เขาจึงไม่ได้อธิบายอะไรมาก คิดว่ารอให้ทุกอย่างจบสิ้น เขาจะอธิบายกับเธอ ถึงตอนนั้นทั้งสองคนก็จะได้อยู่ด้วยกันอย่างแท้จริง
กู้หยุนเซินเปลี่ยนหัวข้อทันที “รายงานการตรวจร่างกายของแม่เธอ เธอคงเห็นแล้วสินะ!”
เมื่อพูดดังนี้ ความสนใจทั้งหมดของเสิ่นเยว่ซีก็ถูกเบี่ยงเบนในพริบตาเดียว
ก่อนไปฉองชิ่งเธอให้โรงพยาบาลทำการตรวจร่างกายทั่วไปให้คุณแม่ รายงานการตรวจออกมาแล้ว เธอยังไม่ทันได้เห็น
“แม่ฉันป่วยเป็นอะไรกันแน่?”
ในความทรงจำของเสิ่นเยว่ซีก่อนอายุ 12 ขวบ สุขภาพแม่เธอไม่เพียงแต่แข็งแรงมาก แต่ยังไม่เคยป่วยหนักอะไรมาก่อนเลย เธอไม่รู้ว่าสิบปีนี้แม่เธอเจอกับอะไรมากันแน่ อาทิตย์นี้แก้มแม่ก็ซีดเซียวไร้สี เวียนศีรษะคลื่นไส้อยู่บ่อยๆ พูดได้ไม่กี่ประโยคก็จะเหนื่อยหายใจหอบ แถมยังเป็นโรคเบื่ออาหารด้วย
โรคต่างๆ ทำให้เสิ่นเยว่ซีระทมทุกข์ตลอด เธอกว่าจะได้อยู่พร้อมหน้ากับแม่ ไม่อยากให้หล่อนเป็นอะไรอีก
“ฉันส่งผลรายงานให้เธอแล้ว เธอดูสิ”
ขณะที่กู้หยุนเซินพูด ก็ดึงรายงานผลการตรวจที่เพิ่งได้รับจากในโทรศัพท์ส่งให้เสิ่นเยว่ซี
เสิ่นเยว่ซีอ่านแต่ละแถวอย่างละเอียดรอบคอบ กลัวจะพลาดอะไรบางอย่างไป
ผลการตรวจไม่กี่รายการด้านหน้าถึงแม้จะไม่แข็งแรงเป็นพิเศษ แต่ก็ยังปกติ จนกระทั่งอ่านถึงรายการกรวยไต ดวงตาเสิ่นเยว่ซีก็หดตัวทันที
ขณะที่อ่านตัวเลขสถิติแต่ละแถวที่แตกต่างจากคนทั่วไป นิ้วมือก็สั่นระริกอย่างช่วยไม่ได้ อ่านถึงข้อวินิจฉัยหน้าสุดท้ายของรายงาน ทั้งร่างก็ตกตะลึง
“ไตวายระยะสุดท้าย……” เสิ่นเยว่ซีพึมพำเสียงเบา เธอหันไปปมองแม่ที่ยังหลับสนิทอยู่ ในดวงตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
เสิ่นเยว่ซีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพุ่งตัวเข้าไปในห้องน้ำ
บทสนทนาในโทรศัพท์ยังดำเนินต่อไป เสียงเสิ่นเยว่ซีเริ่มสั่นเทา ปนด้วยเสียงร้องไห้เบาบาง “เป็นแบบนี้ได้ยังไง แม่ฉันเธอเป็นโรคร้ายแรงแบบนี้ได้ยังไง กู้……กู้หยุนเซิน ฉัน……ฉันควรทำยังไงดี?”
“ฉันเชิญอายุรแพทย์ที่เชี่ยวชาญที่สุดจากต่างประเทศมาแล้ว จะมาถึงวันนี้บ่าย” กู้หยุนเซินฟังออกว่าเสียงเธอผิดปกติ ต้องการปลอบโยนเธอ แต่ต้องอดกลั้นไว้ เสียงเย็นชาเล็กน้อย
เสิ่นเยว่ซีไม่ได้รู้สึกถูกปลอบเลยสักนิด เธอเคยเรียนหมอมา รู้ดียิ่งกว่ากู้หยุนเซิน โรคไตวายเฉียบพลันยังไม่เท่าไร สามารถรักษาได้ แต่รายงานการตรวจของแม่เขียนไว้ว่าเป็นโรคไตวายเรื้อรัง ขับพิษออกทำได้เพียงการฟอกเลือดล้างไตเท่านั้น วิธีนี้เป็นแค่เพียงการลดระดับความรุนแรงแต่ไม่สามารถรักษาได้
สิ่งเดียวที่ทำได้ คือการผ่าตัดปลูกถ่ายไต
นิ้วมือเธอกระชับแน่น เสียงแหบพร่ามาก “ฉัน ฉันอยากจับคู่ปลูกถ่ายไตให้แม่”
ถึงแม้จะเป็นแม่แท้ๆ ของเธอก็เหมือนกัน
“ตอนบ่ายหมอเซียวจะมาถึง ตอนนั้นก็ฟังแผนการรักษาของเขา ทางฉันจะติดต่อโรงพยาบาลให้คอยดูแหล่งบริจาคไตที่เหมาะสม”
กู้หยุนเซินตัดสินใจโดยตรง ก่อนวางสายไป ก็ข่มขู่เสิ่นเยว่ซีว่า “ฉันจะสั่งการ หากฉันไม่อนุญาต ทุกโรงพยาบาลในเมืองจิ้นจะไม่ทำการผ่าตัดปลูกถ่ายไตให้เธอ ทางที่ดีเธอเก็บความคิดนี้ไปซะ”
ได้ยินเสียงตัดสายของอีกฝ่าย เสิ่นเยว่ซีก็ทนไม่ไหวในที่สุด ร่างไถลลงไปกับผนัง ศีรษะซุกลงบนเข่า น้ำตาไหลลงมาไม่หยุด
เธอกลัวแม่จะได้ยิน กัดปากแน่น ไม่กล้าเปล่งเสียงแม้แต่นิดเดียว ได้ยินแค่เสียงสะอื้นแว่วๆ
หลังจากร้องไห้มาอย่างหนัก ตาแดงก่ำ เธออยู่ในห้องน้ำเป็นเวลานานมาก หลังจากใช้ผ้าเย็นประคบแล้ว ก็ยิ้มอีกครั้งขณะเดินออกมา ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ในใจเป็นห่วงอาการป่วยของแม่อยู่ เธอใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตลอดช่วงเช้า กว่าจะถึงบ่ายสี่โมงกว่า ได้รับข่าวว่าหมอเซียวถึงโรงพยาบาลแล้ว ก็รีบไปที่ห้องทำงานเขา
หลังจากเคาะประตู ด้านในก็มีเสียงอ่อนโยนลอยมา “เข้ามา”
เสิ่นเยว่ซีอึ้งทันที รู้สึกว่าเสียงค่อนข้างคุ้นหู ผลักประตูเข้าไป เห็นชายสุภาพอ่อนโยนดุจหยกด้านหน้าโต๊ะทำงาน สีหน้าก็ตกตะลึงเล็กน้อย
“รุ่น……รุ่นพี่สวี่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานใจประธานเย็นชา