หวานใจประธานเย็นชา นิยาย บท 5

กู้หยุนเซินมองดูเธอด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ ดวงตาที่มืดมนราวกับเหวที่ไร้ก้นบึ้ง เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความร้ายกาจ

เสิ่นจื่อเสวียนตกใจจนเหงื่อออกหลัง

“เสิ่นจื่อเสวียน พูดเหลวไหลอะไร!” เสิ่นมู่เจียงดุเธอ จากนั้นก็หันไปขอโทษกู้หยุนเซิน “จื่อเสวียนยังเด็ก ไม่รู้ความ พูดอะไรผิดไป หยุนเซินอย่าถือสาเธอเลย”

กู้หยุนเซินมองสองพ่อลูกด้วยสีหน้าที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “คุณหนูพูดถูก ผมเป็นแค่คนพิการคนหนึ่งจริงๆ ไม่คู่ควรกับเธอ โชคดีที่ยกเลิกงานหมั้น ไม่เช่นนั้น ผมคงจะเป็นอุปสรรคของผู้สืบทอดตระกูลเสิ่นไปตลอดชีวิต”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ทำให้สีหน้าของเสิ่นจื่อเสวียนดูแย่มากกว่าเดิม

“ไม่ ไม่ใช่...” เธออยากจะแก้ตัว แต่กู้หยุนเซินกลับไม่อยากฟัง เขาบอกให้เสิ่นเยว่ซีเข็นเขาออกไปจากห้องครัว

กวนฉิงจับมือเสิ่นจื่อเสวียนด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล “ทำไมลูกถึงพูดแบบนั้นออกมา ถึงแม้กู้หยุนเซินจะขาพิการ แต่เขาไม่ใช่คนที่ตระกูลเรายั่วยุได้”

เสิ่นเยว่ซีได้สติกลับมา เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉียบแหลมและเอาแต่ใจตัวเอง “คุณแม่ เมื่อกี้เสิ่นเยว่ซียั่วโมโหหนู ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ หนูไม่มีทางพูดแบบนั้นออกมา... เธอ มันคือความผิดของเธอ”

กวนฉิงตบไหล่ปลอบใจเธอ จากนั้นก็หันหน้าไปมองแผนหลังของเสิ่นเยว่ซีด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง

หลังจากกลับมาห้องรับแขก ความอ่อนโยนที่กู้หยุนเซินแสร้งทำก่อนหน้านี้ก็หายไป และถูกแทนที่ด้วยความเย็นชาและมืดมน พลังงานจากตัวเขาช่างน่ากลัว

เสิ่นเยว่ซีคิดว่าคำพูดของเสิ่นจื่อเสวียนทำให้เขาไม่พอใจ เธอกระซิบข้างหูเขาเบาๆ “คุณหมอบอกว่าขาของคุณรักษาได้คะ...”

“แล้วถ้ามันรักษาไม่ได้ล่ะ!”

กู้หยุนเซินขัดจังหวะเธอ

”ถ้ารักษาไม่ได้ ชีวิตนี้ผมต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต ทุกคนจะหัวเราะเยาะคุณ บอกว่าสามีคุณเป็นคนพิการ ถึงตอนนั้นคุณจะทำยังไง”

เขามองเสิ่นเยว่ซีด้วยสายตาที่ลึกซึ้งราวกับเหวที่ลึกและว่างเปล่า

จู่ๆเสิ่นเยว่ซีก็หัวเราะเบาๆ “ไม่เห็นเป็นอะไร คุณก็แค่ใช้รถเข็นเร็วกว่าฉันสองสามปี ต่อไปถ้าฉันแก่แล้ว อาจจะต้องให้คุณสอนฉันใช้รถเข็นก็ได้”

กู้หยุนเซินมองรอยยิ้มที่สดใสของเธอด้วยความตกใจ ความเสียใจในใจก็หายไปอย่างรวดเร็ว

เขายกมือขึ้นลูบผมเสิ่นเยว่ซีเบาๆด้วยสีหน้าพอใจ

ดูเหมือนว่าการเก็บเธอไว้ มันอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง

เสิ่นมู่เจียงกลับมาที่ห้องรับแขก เห็นพฤติกรรมของพวกเขาสองคน เขาก็รู้สึกโล่งใจ

“ประธานกู้เอ็นดูเยว่ซี คนเป็นพ่ออย่างผมก็หมดห่วงแล้ว เธอไม่ได้โตมากับผม แต่เยว่ซีเป็นคนสุขุมและอ่อนโยน เป็นลูกที่กตัญญูและรู้ความ เก่งกว่าลูกสาวคนโตที่ไม่เอาถ่านของผมซะอีก...”

ได้ยินคำชมที่จอมปลอม เสิ่นเยว่ซีรู้สึกอยากจะอ้วก เธออยู่ในบ้านตระกูลเสิ่นมาตั้งหลายปี ไม่เคยมีใครพูดจาดีกับเธอ แต่ตอนนี้กลับพูดจาน่าขยะแขยงแบบนี้ออกมาเพื่อเอาใจกู้หยุนเซิน

ตอนที่ให้เสิ่นเยว่ซีแต่งงานแทนเสิ่นจื่อเสวียน เรื่องที่เขาดีใจที่สุดก็คือหุ้น 15% ของตระกูลเสิ่นที่เขาสามารถเก็บไว้ได้ แต่กลับคิดไม่ถึงว่ากู้หยุนเซินเพิ่งจะฟื้น ก็เข้ามายุ่งกับหุ้นนี้ทันที เขาไม่ยอมเสียเปรียบแม้แต่น้อยจริงๆ

เสิ่นมู่เจียงเลือดไหลในใจ กำลังจะพูดอะไร ก็เห็นเสิ่นจื่อเสวียนพุ่งออกมาด้วยความโมโห

“คุณพ่อ ไม่ได้นะคะ หุ้นนั้นเป็นของหนู คุณพ่อจะเอาให้ยัยชั้นต่ำคนนี้ไม่ได้!”

“คุณหนูเสิ่นโปรดหุบปาก!” เสียงที่เคร่งขรึมของกู้หยุนเซินเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม เขามองเธอด้วยสายตาเย็นชา “ตอนนี้เย่ว่ซีเป็นภรรยาของผม เป็นคุณนายน้อยของตระกูลกู้ คุณเรียกเธอว่ายัยชั้นต่ำ คุณดูถูกตระกูลกู้ของผมอย่างนั้นเหรอ”

เสิ่นจื่อเสวียนตกใจจนตาแดง เธอรีบไปหลบอยู่หลังกวนฉิง “คุณแม่ เสิ่นเยว่ซีจะแย่งหุ้นของหนูไป คุณแม่บอกคุณพ่อสิคะ อย่าให้คุณพ่อตอบตกลงนะคะ”

กวนฉิงก็ตื่นตระหนก เธอจะปล่อยให้หุ้นนั้นตกอยู่ในมือของคนนอกไม่ได้ เธอเกลี้ยกล่อม “เรื่อง เรื่องใหญ่ขนาดนี้ เราควรปรึกษากันก่อนนะคะ...”

กู้หยุนเซินขัดจังหวะเธออย่างหมดความอดทน เขามองไปที่เสิ่นมู่เจียงแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าประธานเสิ่นจะตัดสินใจเรื่องของตระกูเลิ่นไม่ได้?”

เสิ่นมู่เจียงจะยอมเสียหน้าต่อหน้าเขาได้ยังไง เขาตำหนิสองแม่ลูก บอกให้พวกเธอหยุดพูด จากนั้นก็หันหน้ากลับมามองกู้หยุนเซินด้วยสายตาที่เอาใจ

“ประ ประธานกู้ ผมเคยเตรียมสินสอดไว้ให้เยว่ซีแล้ว!” เขาพูดอย่างคลุมเครือ ราวกับพยายามกลบกลื่อน

กู้หยุนเซินเข้ามาในแวววงธุริกิจตั้งแต่อายุสิบหก เขามองเสิ่นมู่เจียงออกตั้งนานแล้ว เขาถอนหายใจ “เยว่ซีไม่ได้อยากได้หุ้น15%นี้ แต่ผมได้ยินมาว่าตอนที่เยว่ซีไปบ้านตระกูลกู้ มีรถสีดำคันเล็กๆมาส่งเธอ แม้แต่เสื้อผ้าที่เอามาด้วยก็มีแค่ไม่กี่ชุด...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานใจประธานเย็นชา