เสิ่นเยว่ซีงงไปหมด เธอมองกวนฉิงด้วยความตกใจ
เธอโตมากับคุณเม่ของตัวเอง เมื่อเธออายุสิบสอง จู่ๆแม่ของเธอก็หายตัวไป จากนั้นคนของตระกูลเสิ่นก็รับเธอกลับมา เธอถึงได้รู้ว่าตัวเองเป็นลูกนอกสมรสของตระกูลเสิ่น
สิบปีแล้ว เธอตามหาแม่มาสิบปีแล้ว แต่เธอก็ไม่รู้ว่าแม่ของเธอหายไปไหน
พวกเขามองดูเธอตามหาแม่ของเธอราวกับแมลงวันหัวขาดมาเป็นสิบปี แต่ตอนนี้กลับมาบอกเธอว่า แม่ของเธออยู่ในเงื้อมมือของตระกูลเสิ่น
เสิ่นเยว่ซียิ่งคิดก็ยิ่งแค้น เธอโมโหจนฟันสั่น
ในตอนนี้เอง จู่ๆเสิ่นมู่เจียงก็พูดว่า “ไม่ต้องห่วง แม่ของเธออยู่ในที่ที่ปลอดภัย แต่ว่าตอนนี้เธอไม่สบาย มีตระกูลเสิ่นคอยจ่ายค่ารักษาให้ตลอด แค่เธอรับปากว่าจะยอมช่วยตระกูลเสิ่น ฉันจะให้เธอเจอกับแม่ของเธอ!”
พูดจบ เขาก็หยิบวิดีโอแม่ของเสิ่นเยว่ซีที่กำลังรักษาตัวอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลออกมา
ในความทรงจำของเสิ่นเยว่ซี แม่ของเธอเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนและสวยงาม แต่ผู้หญิงที่อยู่ในวิดีโอนั้นผอมบางและซีดเซียว นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลเงียบๆ ถ้าไม่มีโครงร่างที่คุ้นเคย เธอคงจำไม่ได้ว่านี่คือแม่ของตัวเอง
นิ้วของเสิ่นเยว่ซีซีดขาว เธอทั้งเสียใจและโมโห “คุณรู้ตั้งแต่แรกว่าแม่ของหนูอยู่ที่ไหน รู้ว่าเธอไม่สบายแต่กลับไม่บอกหนู คุณพ่อวางแผนที่จะใช้คุณแม่มาขู่หนูใช่ไหม”
“เยว่ซี ฉันไม่มีทางเลือก!” สายตาของเสิ่นมู่เจียงเต็มไปด้วยความพอใจ เขาแสร้งทำท่าทีถอนหายใจ
“ตระกูลกู้อยากยกเลิกโปรเจกต์ที่ร่วมมือกับตระกูลเลิ่น ตอนนี้โปรเจกต์ที่ตระกูลเสิ่นสามารถทำกำไรได้ล้วนแต่ต้องการการสนับสนุนจากตระกูลกู้ ถ้ายกเลิกกะทันหัน ตระกูลเสิ่นก็จะล้มละลาย”
“เสิ่นเยว่ซี แม่ของเธอมีชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ได้ ล้วนแต่เป็นเพราะมีตระกูลเสิ่นคอยช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาพยาบาล ถ้าตระกูลเสิ่นล้มละลาย ไม่ใช่แค่เราที่พ่ายแพ้ แม่ของเธอก็จะตาย เธอป็นคนฉลาด คงรู้ใช่ไหมว่าควรเลือกยังไง!”
เสิ่นเยว่ซีก้มหน้าลงและกำหมัดแน่น เงียบไปพักหนึ่งแล้วพูดว่า “ได้ ฉันจะช่วย!”
ในสวนหลังบ้านตระกูลเสิ่น กู้หยุนเซินนั่งอยู่บนรถเข็น เอนหลังพิงเก้าอี้แล้วเงยหน้ามองท้องฟ้า ไม่มีท่าทีเย็นชาเหมือนเมื่อก่อน เขาดูขี้เกียจและผ่อนคลอาย
เสิ่นจื่อเสวียนแอบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ มองใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาด้วยสายตาที่หลงใหล
ตอนที่เธอรู้ว่าตัวเองหมั้นกับเขา เธอดีใจมาก แต่คงต้องโทษอุบัติเหตุครั้งนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุครั้งนั้น คนที่ได้เป็นคุณนายของตระกูลกู้ก็คือเธอ ไม่ใช่ยัยเสิ่นเยว่ซี
ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น เธอใช้เล็บจิกเปลือกต้นไม้จนทำให้เกิดเสียงดัง
กู้หยุนเซินขมวดคิ้วแล้วหันไปมองด้วยสายตาที่เฉียบแหลม “ใครอยู่ตรงนั้น”
เห็นว่าตัวเองถูกจับได้ เสิ่นจื่อเสวียนจัดกระโปรงตัวเองแล้วเดินออกมาจากหลังต้นไม้
เธอเม้มริมฝีปาก ทำสีหน้าเขินอาย “พี่หยุนเซิน ฉันเองค่ะ!”
“พี่หยุนเซิน?” กู้หยุนเซินหลับตาลง เคาะที่จับรถเข็นสองครั้ง “ผมจำได้ว่าเมื่อกี้คุณเรียกผมว่า 'คนพิการ'...”
เสิ่นจื่อเสวียนหน้าซีด ทำสีหน้าไร้เดียงสาและน่าสงสาร “พี่หยุนเซิน เสิ่นเยว่ซีจงใจยั่วโมโหฉัน ฉันเลยพูดไม่คิด... พี่ก็รู้ว่าฉันชอบพี่มาตลอด อยากแต่งงานกับพี่มาตลอด ถ้าไม่ใช่เพราะเสิ่นเยว่ซี ภรรยาของพี่ก็ต้องเป็นฉัน”
เธอพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้กู้หยุนเซิน ยื่นนิ้วไปทางใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา
ในสายตาของกู้หยุนเซินมีความรังเกียจ เขาขยับรถเข็นหลบมือเธอ
“คุณหนูเสิ่น ตอนนี้ผมเป็นน้องเขยของคุณ!”
เมื่อริมฝีปากแตะกัน เสิ่นเยว่ซีตกใจ เธอกำลังจะผลักเขาออกด้วยสัญชาตญาณ แต่กลับถูกเขาจับท้ายทอย และจูบเธอแรงขึ้นกว่าเดิม
เขาจูบแรงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับจะกอดเธอเข้าไปในตัวของตัวเอง
เสิ่นเยว่ซีถูกจูบจนมึนงง เธอค่อยๆยอมแพ้
เสิ่นจื่อเสวียนยืนมองพวกเขาสองคนจูบกันตรงหน้าตัวเองด้วยความตกใจ เธอโมโหจนหน้าแดง จากนั้นก็กรีดเสียงดัง “เสิ่นเยว่ซี ทำไมเธอถึงไร้ยางอายแบบนี้ ไร้ยางอายจริงๆ!”
หลังจากจูบเสร็จ กู้หยุนเซินปล่อยเสิ่นเยว่ซีออก เธอหน้าแดงไปหมด เห็นเสิ่นจื่อเสวียนด่าตัวเอง เธอก็หัวเราะเยาะ
“เขาเป็นสามีของฉัน ฉันอยากจะจูบยังไงก็ได้ ไม่เกี่ยวกับเธอ!”
พูดจบก็หันไปจูบกู้หยุนเซินเบาๆด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความพอใจ
เธอเอาแต่สนใจท่าทีโมโหของเสิ่นจื่อเสวียน แต่กลับสังเกตไม่เห็นว่ากู้หยุนเซินมองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง
เสิ่นจื่อเสวียนวิ่งออกไปด้วยความโมโห
เสิ่นเยว่ซีมีความสุข หลายปีที่ผ่านมา มีแต่เธอที่ถูกรังแก ครั้งนี้ในที่สุดเธอก็ได้เอาคืน
เธอยังไม่ได้หัวเราะ จู่ๆก็รู้สึกว่าเนื้อที่เอวถูกมือขนาดใหญ่หยิกเบาๆ
เสียงที่เย็นชาของกู้หยุนเซินก็ดังขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานใจประธานเย็นชา