หลังทานมื้อเที่ยงเสร็จ ซ่งหวานหว่านก็อยู่เป็นเพื่อนสนทนากับน่าหลันไท่เฟยครู่หนึ่ง ครั้นเห็นน่าหลันไท่เฟยเริ่มจะเหนื่อยแล้ว ก็ประคองนางไปงีบหลับบนเตียง
เจียงอู๋วั่งกำลังพูดอะไรสักอย่างกับเจียงเทาอยู่ในลานวัด ซ่งหวานหว่านจึงเดินเข้าไปถามว่า “ท่านอ๋อง ข้าขอยืมเจียงเทามาช่วยงานได้หรือไม่”
“เรื่องใด”
“ข้ารู้สึกว่ากำลังภายในของข้ากำลังจะทะลวงขั้นพลังแล้ว อยากจะขอให้เจียงเทาช่วยคุ้มกันข้าสักหน่อยเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกรบกวน เพราะฮวาอิ่งต้องดูแลเสี่ยวเถาจื่อ”
“เจียงเทา เจ้ารั้งอยู่ที่นี่ หากเสด็จแม่ทรงถามถึง ก็บอกว่าเปิ่นหวังออกไปเดินเล่นกับหวางเฟย”
“ข้าน้อยรับบัญชา!”
เจียงอู๋วั่งเบือนหน้ามามองซ่งหวานหว่านแวบหนึ่งแล้วกล่าวว่า “ไปเถอะ! เข้าไปด้านในภูเขา ตรงนี้ไม่ปลอดภัย”
เจียงอู๋วั่งลุกขึ้นยืน ใช้วิชาตัวเบาเหินเข้าไปในภูเขาโดยมีซ่งหวานหว่านตามหลังไปติดๆ เหินขึ้นลงอยู่สองสามครั้งก็หายลับไปจากสายตาของเจียงเทา
เจียงอู๋วั่งพาซ่งหวานหว่านมายังส่วนลึกของป่า หยุดอยู่บนต้นไม้โบราณต้นหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ลงไปเถิด เปิ่นหวังจะคอยคุ้มกันให้เอง”
“ขอบคุณท่านอ๋อง”
ซ่งหวานหว่านกระโดดลงจากต้นไม้เบาๆ ก่อนจะนั่งลงขัดสมาธิตรงใต้ต้นไม้ แล้วเริ่มโคจรพลังภายในไปตามเส้นลมปราณ
ปราณศักดิ์สิทธิ์ในภูเขาลึกมีอยู่เต็มเปี่ยม ซ่งหวานหว่านดูดกลืนปราณศักดิ์สิทธิ์อย่างบ้าคลั่งแล้วโคจรไปตามเส้นลมปราณ สุดท้ายแปรเปลี่ยนเป็นกำลังภายในกักเก็บไว้ในจุดตันเถียน
เพียงไม่นาน กำลังภายในในจุดตันเถียนก็ถูกกักเก็บไว้จนเต็ม ซ่งหวานหว่านทะลวงขั้นพลังระดับมหึมาสำเร็จภายในครั้งเดียวโดยไม่แม้แต่จะหยุดพัก
ทว่าเวลานี้ สิ่งที่นางไม่รู้คือในแหวนอวกาศของนาง ก็กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นเช่นกัน
ซ่งหวานหว่านลุกขึ้นยืน ปัดเศษหญ้าที่ติดอยู่ตรงบั้นท้ายออก รอยยิ้มเบิกบานประดับอยู่บนใบหน้าพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ข้าทะลวงขั้นพลังระดับมหึมาสำเร็จแล้ว พวกเรากลับกันเถิด”
“อืม ไปเถิด”
เจียงอู๋วั่งไม่ได้พูดอะไรมากอีก ใช้วิชาตัวเบาเหินไปยังทิศทางที่พวกเขาจากมา
เดิมซ่งหวานหว่านหมายจะพูดว่ารอข้าด้วยสักประโยค แต่คำพูดมาถึงริมฝีปากแล้วจำต้องกลืนกลับลงไปใหม่ ก่อนจะแตะปลายเท้าเบาๆ ตามหลังเจียงอู๋วั่งไปห่างๆ
ครั้นกลับมาถึงวัดจี๋ฝู น่าหลันไท่เฟยก็ตื่นแล้ว กำลังมองเสี่ยวเถาจื่อเล่นสนุกอยู่ในลานวัด ในดวงตาเต็มไปด้วยแววรักใคร่
“เสด็จแม่ ให้คนเก็บข้าวของสักหน่อย พรุ่งนี้เช้าก็เดินทางกลับเมืองหลวงแล้ว” เจียงอู๋วั่งเอ่ยปากทำลายบรรยากาศอันเงียบสงบลง
“ไม่มีอะไรให้ต้องเก็บมากมาย มีเพียงเสื้อผ้ากับของใช้นิดหน่อย แล้วก็เครื่องประทินผิวที่หว่านเอ๋อร์มอบให้เราก็ได้แล้ว”
น่าหลันไท่เฟยเงยหน้ามองเจียงอู๋วั่งแวบหนึ่ง แล้วค่อยผินหน้าไปสั่งสาวใช้ข้างกาย “ฮวนเอ๋อร์ เจ้าไปเก็บของสักหน่อย”
“เพคะ พระนางไท่เฟย” ฮวนเอ๋อร์หมุนกายกลับห้อง ไปเก็บของลงหีบสัมภาระ
“หว่านเอ๋อร์ มานั่งข้างๆ เรานี่ เราสั่งให้คนเตรียมอาหารแล้ว เจ้าอยากกินอะไรก็บอกกับแม่ แม่จะให้คนไปทำให้เจ้า” น่าหลันไท่เฟยโบกมือเรียกซ่งหวานหว่าน
ซ่งหวานหว่านเดินเข้าไปหาแต่ไม่ได้นั่งลง ทว่ายืนอยู่ข้างกายของน่าหลันไท่เฟยแทน ก่อนจะนวดไหล่เบาๆ ให้น่าหลันไท่เฟยพร้อมกับพูดว่า “เสด็จแม่ ข้ากินอะไรก็ได้เจ้าค่ะ ขอแค่อิ่มท้องก็พอแล้ว”
น่าหลันไท่เฟยถูกซ่งหวานหว่านนวดให้จนรู้สึกสบายยิ่ง ขณะดวงตาหรี่ปรือเสพสุข ก็คิดในใจว่าเด็กสาวผู้นี้ช่างไม่เลือกกินเลี้ยงง่ายโดยแท้
หลังมื้อเย็นผ่านไป ซ่งหวานหว่านก็อยู่เป็นเพื่อนคุยกับน่าหลันไท่เฟยเป็นเวลานาน น่าหลันไท่เฟยให้คนไปจัดห้องให้เจียงอู๋วั่งกับซ่งหวานหว่านเพื่อกลับห้องไปพักผ่อน
สิ่งที่ทำให้ซ่งหวานหว่านอับจนวาจาคือน่าหลันไท่เฟยจัดห้องให้พวกนางเพียงห้องเดียวเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวางเฟยอัปลักษณ์พลิกชีวิต
ไม่ต่อแล้วหรอออ...
5555555555...
ต่อไหมค่ะ...
สนุกมากกกค่ะ...