หวางเฟยอัปลักษณ์พลิกชีวิต นิยาย บท 4

เจียงอู๋วั่งหรี่ตาจ้องมองนางอยู่นาน ขณะที่ซ่งหวานหว่านกำลังคิดว่าตนเองคงจะจบชีวิตลงที่นี่แล้วจริงๆ เขาก็คลายมือออกในที่สุด

"แค่ก! แค่กๆๆ!" ซ่งหวานหว่านลุกขึ้นงอตัว ไออย่างรุนแรงจนใบหน้าแดงก่ำ

เจียงอู๋วั่งนั่งกลับลงไปบนรถเข็น จ้องมองนางอย่างเย็นชา “ทางที่ดีเจ้าไม่ควรโกหก มิฉะนั้นเปิ่นหวางจะทำให้เจ้าเสียใจที่มายังโลกนี้!”

"แค่ก……"

ซ่งหวานหว่านไออยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็หายเป็นปกติ

นางถลึงตาใส่บุรุษตรงหน้า ความโกรธแทบจะปะทุออกมาอยู่รอมร่อ

ไอ้เฮี่ย พูดจาไม่เข้าหูหน่อยเดียวก็ลงมือ เจ้าบุรุษสุนัขนี่!

คิดว่านางเป็นพวกกินมังสวิรัติจริงๆ หรือ

ลูกผู้หญิงแก้แค้นสิบปียังไม่สาย บุรุษสุนัข ฝากไว้ก่อน!

ซ่งหวานหว่านขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจครั้งหนึ่ง หลังปรับอารมณ์ให้เป็นปกติแล้ว ถึงค่อยเอ่ยปากกล่าวว่า“เรื่องที่ท่านอ๋องถูกพิษ ข้ามองออกได้เอง ข้ารู้วิชาแพทย์ และแก้พิษเป็นด้วย

 เจียงอู๋วั่งเหลือบมองนางแวบหนึ่ง กล่าวว่า “พูดต่อสิ”

“ดูจากสภาพชีพจรของท่าน ท่านถูกพิษมาเป็นเวลานาน อย่างน้อยสองปีเห็นจะได้ พิษนี้คือพิษประหลาดจากดินแดนตะวันตก ชื่อว่าผงสลายใจ หากไม่ใช่เพราะท่านอ๋องมีพลังภายในอันแข็งแกร่ง คอยสกัดกั้นเอาไว้ที่ส่วนขาเกรงว่าคงถึงแก่ชีวิตไปนานแล้ว""

“ทว่าตอนนี้ พิษร้ายจวนจะคุมไว้ไม่อยู่แล้ว หากพิษเกิดกำเริบ แม้แต่เทพเซียนก็ยากรักษา ไม่รู้ว่าที่ข้าพูดมาถูกต้องหรือไม่”

ดวงตาของเจียงอู๋วั่งจับจ้องอยู่ที่นาง สีหน้าแววตามืดครึ้มยากคาดเดา

ชั่วครู่ให้หลัง เจียงอู๋วั่งก็เอ่ยขึ้นว่า "เมื่อครู่เจ้าบอกว่าสามารถแก้พิษได้"

“ถูกต้อง พิษของผงสลายใจข้าสามารถแก้ได้ ขอเพียงท่านอ๋องเตรียมตัวยาที่ข้าต้องการได้ แต่ข้ามีเงื่อนไข”

"พูด"

"ข้าอยากทำการค้ากับท่านอ๋อง ท่านคงเคยสืบภูมิหลังของข้ามาแล้ว รู้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันของข้าน่ากระอักกระอ่วน เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งที่ไม่มีค่าให้เอ่ยถึง ถูกบดขยี้ได้ทุกเมื่อ”

"จวนเยียนซานโหวปฏิบัติกับข้าไม่ดีเท่าไหร่นัก ข้าสู้ฉวยโอกาสนี้มาพึ่งใบบุญท่านอ๋องไม่ดีกว่าหรือ ขอที่ซุกหัวนอนสักแห่ง และท่านอ๋องก็ต้องตอบรับเงื่อนไขของข้าเช่นกัน โดยยกเรื่องของเรือนหลังในจวนอ๋องให้ข้าเป็นคนจ้ดการ”

“ยิ่งไปกว่านั้น หากข้าเผชิญอันตรายจากทางฝั่งบิดาและฝ่าบาท ท่านอ๋องจะต้องออกหน้าปกป้องข้า”

เจียงอู๋วั่งจ้องนางอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “เจ้าอาศัยอะไรมาให้เปิ่นหวางเชื่อใจ”

“ข้อนี้ง่ายดายมาก ชีวิตของข้าอยู่ในกำมือท่านอ๋อง หากข้าแก้พิษไม่ได้และรักษาขาของท่านอ๋องไม่หาย ท่านอ๋องสามารถปลิดชีวิตข้าได้ทุกเมื่อ”

“โอ้ ชีวิตของเจ้า นับเป็นข้อต่อรองด้วยหรือ” เจียงอู๋วั่งเย้ยหยัน

ซ่งหวานหว่าน "..."

ไอ้บุรุษสุนัขนี้! ชีวิตของนางมีค่ามากนะ!

ซ่งหวานหว่านสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะกล่าวว่า “ยาและใบสั่งยาที่ข้ามอบให้ท่านอ๋อง ท่านสามารถหาหมอท่านอื่นที่ไว้ใจได้มาวินิจฉัยดูว่ามีปัญหาหรือไม่ อีกทั้งท่านอ๋องไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว รักษาม้าตายประหนึ่งม้าเป็น ไม่นับว่าเสียเปรียบ”

“เจ้ากล้าด่าเปิ่นหวางว่าม้าหรือ!”

ซ่งหวานหว่าน "..."

หากเจ้าไม่ใช่ม้า เจ้าก็คือคนบ้า! เฮอะ!

“เจ้าแน่ใจจริงๆ หรือว่าสามารถขจัดพิษนี้ได้” เจียงอู๋วั่งตั้งคำถามอีกครั้ง ดวงตาที่หรี่ลงเล็กน้อยเผยความอันตรายอันไร้ที่สิ้นสุดออกมา

เขาเสาะหาหมอเก่งๆ ไปทั่ว กลับไม่พบวิธีแก้ สตรีผู้นี้จะทำได้จริงหรือ?

ซ่งหวานหว่านตบอกกล่าวว่า "ข้าแน่ใจเสียยิ่งกว่าแน่ใจ! ขอเพียงท่านอ๋องสามารถหาตัวยาที่จำเป็นสำหรับการแก้พิษได้ครบ"

หลังเจียงอู๋วั่งขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขากล่าวขึ้นมาทื่อๆ ว่า "ได้"

หากนางแก้พิษได้จริง การค้าครั้งนี้ก็ไม่นับว่าขาดทุนสำหรับเขา เรื่องในเรือนหลังเขาไม่เคยสอดมือเข้ายุ่ง สตรีเหล่านั้นจะสร้างความลำบากให้นางหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวอะไรเช่นกัน

ที่เขาอยากรู้มากกว่าก็คือสตรีผู้นี้คิดจะเล่นลูกไม้อะไรกันแน่

เดิมทีเขาไม่ไว้ใจสตรีผู้นี้ แต่เจียงเทาเคยสืบประวัติของนางแล้ว นางไม่รู้วิชาแพทย์โดยสิ้นเชิง

ทว่าตอนนี้ นางไม่เพียงระบุชนิดของยาพิษประหลาดที่ฝังอยู่ในร่างเขาได้ ยังสามารถวินิจฉัยอาการปัจจุบันของเขาออกมาได้อีกด้วย

พึงรู้ไว้ว่า นอกจากหมอทหารจูเก่อซิวและเจียงเทาที่ติดตามเขาแล้ว ก็ไม่มีใครที่รู้ว่าสิ่งที่ฝังอยู่ในร่างเขาคือผงสลายใจของดินแดนตะวันตก สองคนนี้ไม่มีทางทรยศเขา

ต่อให้นางอยู่ฝ่ายมือสังหาร หากนางเข้าใกล้เขาไม่ได้ ย่อมไม่สามารถแจกแจงสถานการณ์ปัจจุบันของเขาออกมาได้อย่างละเอียด

เป็นไปได้ไหมว่านางจะรู้วิชาแพทย์จริงๆ แต่ซ่อนไว้ไม่ยอมเปิดเผย

ขณะที่เจียงอู๋วั่งกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ซ่งหวานหว่านได้หยิบยาเม็ดหนึ่งออกมาจากช่องอวกาศแล้ว

นี่คือยาแก้พิษที่เตรียมไว้ในชาติก่อน มีสรรพคุณแก้พิษผงสลายใจได้อย่างชะงัด

“ท่านทานสิ่งนี้ไปก่อน บรรเทาพิษได้ชั่วคราว อีกประเดี๋ยวข้าจะเขียนใบสั่งยา หลังท่านให้คนตรวจสอบว่าไม่มีอะไรผิดปกติแล้ว ก็เตรียมตัวยาตามใบสั่งยาได้เลย”

เจียงอู๋วั่งมองยาเม็ดเล็กจิ๋วที่อยู่ตรงปลายนิ้วของนางด้วยความประหลาดใจ เขารับมันไว้ แต่ไม่ได้กินในทันที

เมื่อเก็บยาไปแล้ว เขาก็สั่งให้เจียงเทาเข็นเขาออกไปจากที่นี่

ซ่งหวานหว่านเขียนตัวยาสมุนไพรจำนวนมากมายลงบนกระดาษอย่างคล่องแคล่ว แล้วพักไว้ให้แห้ง

ยังมีปากกาขนไก่เหลืออยู่อีกมาก นางคิดไปคิดมา ก็เปลี่ยนกระดาษอีกแผ่น เขียนลงไปว่า "หญ้าเจ็ดใบ" "ยอดเขาหิมะ" และตัวยาล้ำค่าอื่นๆ อีกหลายอย่าง แล้วยื่นให้สาวใช้ทั้งสอง

"ช่วยไปถามหน่อยว่า มีซื้อแบบนี้มาบ้างหรือไม่"

เหล่าสาวใช้มองดูแวบหนึ่ง ก็กล่าวว่า "หวางเฟย สองอย่างแรกไม่ค่อยรู้จักเจ้าค่ะ แต่อย่างหลังน่าจะแพงมาก... เราคงจ่ายไม่ไหว..."

“หือ? ข้าไม่มีทรัพย์สมบัติหรือเงินส่วนตัวอะไรเลยหรือ” ซ่งหวานหว่านรู้สึกประหลาดใจ

เสี่ยวชิงส่ายศีรษะ

ซ่งหวานหว่าน: "..."

ชีวิตจบเห่แล้ว!

นางยังต้องคิดวิธีหาเงินอีก! ฮือๆๆ!

*

อีกด้านหนึ่ง ในห้องหนังสือของจวนจ้านอ๋อง

เจียงอู๋วั่งสั่งให้คนไปตามหมอทหารจูเก่อซิวมาพบที่นี่ แล้วนำยาที่ซ่งหวานหว่านมอบให้ส่งให้เขา

"ตรวจสอบดูหน่อยว่ามีปัญหาหรือไม่"

จูเก่อซิวหยิบเม็ดยาขึ้นมา ก่อนจะดมกลิ่น ขูดออกมาเล็กน้อยแล้วใส่เข้าไปในปากเพื่อชิมรสดู ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป เริ่มตั้งหน้าตั้งตาศึกษาค้นคว้าทันที

ราวๆ ครึ่งเค่อผ่านไป เจียงอู๋วั่งก็ถามขึ้นว่า "เป็นอย่างไรบ้าง"

จูเก่อซิวเงยหน้า กล่าวด้วยความประหลาดใจเต็มใบหน้า “ท่านอ๋อง ยาเม็ดนี้ของท่านได้มาจากที่ใดกัน มันคือผลงานของหมอเทวดาโดยแท้! การจัดคู่ในใบสั่งยานี่ ช่างสมบูรณ์แบบเกินไปแล้ว ข้าน้อยเทียบไม่ติดเลยขอรับ! สรรพคุณของมันช่วยบรรเทาพิษที่อยู่ในร่างของท่านได้ดียิ่ง ท่านควรรีบกินมันเสีย!”

“สุดยอดขนาดนี้เชียว?” เจียงอู๋วั่งเลิกคิ้วรูปดาบขึ้นกล่าวว่า “เจ้าทำตามได้หรือไม่”

"นี่... ขอท่านอ๋องโปรดยกโทษที่ข้าน้อยไร้ความสามารถ ไม่อาจเข้าใจสิ่งมหัศจรรย์ที่ประกอบอยู่ในนั้นได้ชั่วคราว!"

เจียงอู๋วั่งเม้มริมฝีปาก

วิชาแพทย์ของจูเก่อซิวเข้าทราบดีที่สุด ในค่ายทหารจูเก่อซิวมักถูกยกย่องอยู่เสมอว่าเป็นหมอเทวดา

ยามเขาอยู่ต่อหน้ายาเม็ดนี้ ถึงกับบอกว่าตนไร้ความสามารถ ไม่อาจเทียบได้

สตรีผู้นั้น... หรือว่าจะรู้วิชาแพทย์จริงๆ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวางเฟยอัปลักษณ์พลิกชีวิต