หวางเฟยอัปลักษณ์พลิกชีวิต นิยาย บท 9

“เป็นใครกัน?!” ซ่งหวานหว่านตกใจ

“เป็นซุนซื่อ ซุนหรูอี้!” เซี่ยซื่อเล่าทวนความจำด้วยน้ำเสียงสั่น “ตอนที่ข้าตั้งท้องลูก ในจวนนอกจากนางแล้ว ยังไม่มีอนุอื่น นางมักจะเรียกข้าว่าพี่สาว ตอนข้าตั้งครรภ์ก็จะคอยส่งขนมมาให้ข้าเสมอ”

ซ่งหวานหว่านกำหมัดแน่น

ซุนซื่อ ซุนหรูอี้! ดีมาก!

นางหันหน้าไปมองมารดาแล้วถามว่า “ท่านแม่ หลายปีมานี้ท่านพ่อไม่เคยถามไถ่ถึงท่าน ทำให้ท่านได้รับความอัปยศอดสู ลูกขอถามท่าน ท่านยังมีเยื่อใยต่อเขา ต่อจวนโหวอยู่หรือไม่”

“ลูกเอ๋ย แม่อดกลั้นมาจนถึงตอนนี้ ล้วนเป็นเพราะเจ้า ส่วนบิดาเจ้ากับจวนโหวแห่งนี้ แม่ไม่สนใจมานานแล้ว เพียงแต่คิดจะจากไปคงไม่ง่ายดายปานนั้น”

“ขอเพียงท่านแม่ต้องการจะไป ข้าก็จะหาทางพาท่านไปให้จงได้เจ้าค่ะ จากนี้ไป เราสองแม่ลูกจะอยู่ด้วยกัน”

“เด็กโง่ พูดเรื่องอะไรของเจ้า เจ้ามีสามีแล้วนะ แม่จะไปเป็นภาระให้เจ้าได้อย่างไร ตัวแม่เองยังพอมีเงินทองอยู่บ้าง สามารถซื้อบ้านเล็กๆ สักหลังไว้อยู่อาศัยได้ ขอเพียงเจ้ามีเวลา มาเยี่ยมแม่บ้างก็พอแล้ว”

“ท่านแม่...” ซ่งหวานหว่านในใจเต็มไปด้วยความหดหู่ มารดาของเจ้าของร่างเดิมช่างดีเกินไปแล้ว ทั้งอ่อนโยนและใจดี

“เอาล่ะ พวกเราออกไปก่อนเถิด อย่าให้ท่านอ๋องรอนาน”

สองแม่ลูกเพิ่งจะออกมาจากห้องด้านใน ก็ได้ยินเจียงอู๋วั่งพูดว่า “ฮูหยิน  ท่านอยากจะไปพักอยู่กับเราที่จวนอ๋องชั่วคราวหรือไม่”

กำลังภายในของเขาล้ำลึก บทสนทนาที่พวกนางสองแม่ลูกคุยกันในห้องด้านใน เขาย่อมได้ยินชัดเจนเป็นพิเศษ

เซี่ยซื่อรู้สึกประหลาดใจซ่งหวานหว่านก็รู้สึกแปลกใจระคนยินดีเป็นอย่างมากเช่นกัน

ไฉนวันนี้บุรุษสุนัขถึงใจดีขนาดนี้กันนะ

“อยากสิ อยากแน่นอน!” ไม่รอให้เซี่ยซื่อปฏิเสธ ซ่งหวานหว่านก็ชิงตอบรับไปก่อนแล้ว พร้อมกับดันเซี่ยซื่อกลับไปยังห้องด้านในอย่างมีความสุข “ท่านแม่ รีบเก็บข้าวของเร็วเข้า ไปพักอยู่จวนอ๋องเป็นเพื่อนลูกสักหลายวัน”

เซี่ยซื่อไร้หนทางจะปฏิเสธ จึงได้แต่ยอมตกลง

ซ่งหวานหว่านเดินออกมา ครั้นเห็นเจียงอู๋วั่ง ดวงตาก็เปล่งประกายระยิบระยับ “ขอบพระทัยท่านอ๋องมากเพคะ ท่านอ๋องช่างเป็นคนดีจริงๆ”

“ไม่ต้องเยินยอ เปิ่นหวางมีเงื่อนไข” เจียงอู๋วั่งมองดวงตาสดใสคู่นั้นของนาง เหยียดริมฝีปากออกเล็กน้อย ก้นบึ้งในดวงตาฉายแววใคร่ครวญอยู่หลายส่วน

“หืม? เงื่อนไขอะไรเพคะ” ซ่งหวานหว่านรู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง

“เจ้าต้องช่วยข้าคิดหาวิธีชิง ‘เห็ดหิมะสามพันปี’ มาจากมือของฝ่าบาท”

ซ่งหวานหว่าน “...”

บ้าเอ๊ย นี่มันยากกว่าถอนฟันออกจากปากเสืออีกนะ

บุรุษสุนัขใจดำผู้นี้ นางว่าแล้วเชียว ไฉนจู่ๆ เขาถึงใจดีนัก ที่แท้ก็มีแผนการใหญ่!

“ข้าขอเปลี่ยนเงื่อนไขได้หรือไม่”

“เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า”

ซ่งหวานหว่าน “…”

เจ้าบุรุษสุนัข! ฝากไว้ก่อนเถอะ

เพียงไม่นาน เซี่ยซื่อก็เก็บสัมภาระเรียบร้อย จากนั้นก็เดินออกมาพร้อมห่อสัมภาระใบหนึ่ง

ซ่งหวานหว่านรับห่อสัมภาระมา กำลังเตรียมจะประคองนางออกจากประตู ก็เห็นซ่งเว่ยหลิงเดินอย่างรีบร้อนมาจากด้านนอกพอดี พอเขาเห็นเช่นนี้ก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ฮูหยิน นี่เจ้าจะไปไหนหรือ”

“ลูกมารับข้าไปพักที่จวนจ้านอ๋องสักหลายวัน รบกวนท่านโหวช่วยหลีกทางด้วย” เซี่ยซื่อกล่าวเสียงเรียบเย็น

“อะไรนะ เรื่องนี้ไยเจ้าไม่มาปรึกษาข้า” ซ่งเว่ยหลิงซักถามด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธ

“ไม่มีความจำเป็น เพราะอย่างไรสิบหกปีมานี้ ท่านโหวก็ไม่เคยมาปรึกษาเรื่องใดกับข้า ซ้ำตอนนี้หว่านเอ๋อร์ก็แต่งงานแล้ว ดังนั้นข้าต้องการแยกทางกับท่าน”

“แยกทาง? เจ้ากล้าหรือ! เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาเอ่ยเช่นนี้!” ซ่งเว่ยหลิงพูดพร้อมกับสะบัดแขนเสื้อด้วยความโกรธจัด “วันนี้ไม่มีคำอนุญาตจากข้า เจ้ากับนังลูกชั่วนั่นก็ห้ามไปไหนทั้งนั้น”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวางเฟยอัปลักษณ์พลิกชีวิต