หย่าร้ายพ่ายรัก นิยาย บท 2

ตอนที่ 2 ละทิ้งภรรยาและลูกๆ ของเขา

รษิการีบไปที่ห้องทำงานของหาญชัย หลังจากผลักประตูเข้าไป เธอก็เห็นเจ้าอันธพาลตัวน้อยทั้งสองคนอยู่ในห้อง พวกเขานั่งอยู่บนโซฟาในห้องทำงาน และแกว่งขาไปมาอย่างไม่ได้สนใจไยดีอะไร เด็กชายทั้งสองตาเป็นประกายเมื่อเห็นรษิกา พวกเขาตะเกียกตะกายลุกจากโซฟา ก่อนจะวิ่งมาหาเธอด้วยความตื่นเต้น “แม่ครับ ในที่สุดก็ทำงานเสร็จซะที ผมนึกว่าแม่จะอยู่ในแล็บไปตลอดกาลซะแล้ว!” “แม่ครับ แม่ทำงานหนักมากเลย! เหนื่อยไหมครับ? นั่งก่อนสิ เดี๋ยวผมนวดให้” พวกเขาพารษิกาไปนั่งที่โซฟา ขณะที่รษิกาเห็นว่าพวกเขาดูกังวลมากแค่ไหน จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าความผิดที่พวกเขาก่อไว้ต้องสมควรโดนดุอย่างแน่นอน “ว่านอนสอนง่ายอะไรปานนี้ ไม่เห็นเป็นแบบนี้เลยนะตอนที่แฮ็กคอมฉันเมื่อครู่นี้น่ะ!” หาญชัยโวยวายด้วยความหงุดหงิดมาจากโต๊ะทำงานของเขา อชิรีบอธิบาย “มันเป็นความผิดคุณหมดเลยแหละ ศาสตราจารย์หาญชัย! คุณชอบให้แม่ทำงานล่วงเวลาตลอดเลย ดูสิ แม่ขาดสารอาหารแย่แล้ว!” “จริงด้วย! แม่ก็เป็นคนปกติธรรมดานะครับ คุณให้แม่ทำงานทั้งวันทั้งคืนได้ไง?” เบนนี่เสริมเข้ามาขณะที่เขานวดไหล่ให้รษิกา อารมณ์ของหาญชัยเข้าขั้นฉุนเฉียว เขาระเบิดเสียงหัวเราะเยาะออกมาและตอบว่า “พวกเธอปกป้องแม่ตัวเองมากไป! ใครๆ ในสถาบันวิจัยนี่เขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ!” เมื่อพูดจบแล้ว หาญชัยก็ส่ายหน้าและหันมามองรษิกา “งานวิจัยเป็นไงบ้าง?” รษิกายิ้มให้เขาและตอบว่า “ราบรื่นดีค่ะ ฉันจะส่งข้อมูลให้คุณอีกทีนะคะ” เธอหยุดคิดนิดหนึ่งก่อนจะถามว่า “คุณกู้ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ได้หรือยังคะ?” หาญชัยเอามือเสยผมด้วยความหงุดหงิด “เป็นชั่วโมงแล้วเนี่ย แต่ยังกู้อะไรไม่ได้เลยสักอย่าง” รษิกาตีมือเบนนี่เบาๆ ด้วยความขบขัน “เบนนี่ ลูกไปกู้ข้อมูลคืนให้ศาสตราจารย์หาญชัยเดี๋ยวนี้เลย อย่าซนสิคะ จะเป็นยังไงถ้าข้อมูลสำคัญเกิดหายไปน่ะ?” เบนนี่รีบตอบทันที “ไม่มีทางฮะ ผมเตรียมสำรองข้อมูลและระบบรักษาความปลอดภัยไว้หลายระดับ เขาจะไม่เสียอะไรไปอย่างแน่นอน!' เมื่อพูดเช่นนั้นแล้ว เขาก็วิ่งเหยาะๆ เข้าไปหาหาญชัย ก่อนจะกู้ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของหาญชัยคืนมา นิ้วของเด็กชายตัวน้อยพิมพ์บางอย่างบนคีย์บอร์ดออกมาเป็นรหัสหลายบรรทัด สองสามนาทีต่อมา หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็กะพริบและกลับมาเป็นปกติได้ หาญชัยมองคอมพิวเตอร์ของเขาด้วยความชื่นชม เขาต้องยอมรับว่าลูกชายทั้งสองของแพทย์ฝึกหัดในความดูแลของเขานั้นเป็นอัจฉริยะจริงๆ ด้วยอายุเพียงแค่นี้ อชิก็เป็นอัจฉริยะทางการแพทย์แล้ว เขาสามารถแยกแยะสมุนไพรเป็นพันชนิดได้ ทั้งยังได้แสดงพรสวรรค์ทางการแพทย์มาหลายครั้ง และเขายังมีสายตาที่เฉียบคมในการลงทุนอีกด้วย ส่วนทางด้านเบนนี่ เขาสนใจการเขียนโปรแกรมมาก ตอนนี้เขาเป็นแฮ็กเกอร์ตัวน้อยที่ไวในเรื่องคณิตศาสตร์มากๆ และยังเก่งในด้านการลงทุนเหมือนกับพี่ชายของเขาไม่มีผิด อีกอย่าง เด็กทั้งสองก็น่ารัก มีความเป็นผู้ใหญ่ และทะเล้นอีกด้วย ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่เด็กๆ ดื้อหรือซน หาญชัยจึงไม่อยากดุพวกเขา แต่เขาจะไประบายความหงุดหงิดใส่รษิกาแทน รษิการีบขอโทษขอโพยทันที “ฉันขอโทษนะคะ ศาสตราจารย์หาญชัย อย่าถือโทษโกรธเคืองที่เด็กๆ เล่นแผลงๆ เลยค่ะ” อย่าตะคอกฉันด้วยเหมือนกัน ฉันเป็นแพะรับบาปแทนพวกเขาไปตลอดไม่ได้หรอก ใช่ไหมล่ะ? หาญชัยหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเธอ “ไม่ต้องกังวลไปหรอก ผมไม่ได้เรียกคุณมาดุด่าสักหน่อย ที่ผมเรียกมาเพราะว่าผมมีงานให้ทำ ฟังนะ ผมกำลังวางแผนจะตั้งสถาบันวิจัยในประเทศ โดยจะมุ่งเน้นไปยังการแพทย์แผนโบราณ แต่ว่าผมยังยุ่งอยู่กับที่นี่ก็เลยไปตอนนี้ไม่ได้ พอมาคิดดูดีๆ แล้ว ผมเลยตัดสินใจจะส่งคุณกลับไปแทน!” รษิกาไม่คิดว่าเขาจะพูดอย่างนั้น เธออึ้งไปและมีท่าทีลังเล กลับไปที่บ้านอย่างนั้นหรือ? เธอไม่เคยคิดจะกลับไปที่นั่นอีกเลยหลังจากหนีออกมาได้หกปีแล้ว เพราะอย่างไรเสีย เธอก็ไม่มีครอบครัวหรือใครที่เธอต้องใส่ใจดูแลเลยที่นั่น อีกอย่าง เธอก็เริ่มจะรักเมืองญาตนครไปแล้ว ปฏิกิริยาแรกของเธอคือการตอบปฏิเสธ “ศาสตราจารย์หาญชัยคะ ฉัน…” หาญชัยพูดแทรกทันที “รษิกา ผมรู้ว่าคุณไม่อยากกลับไป แต่ผมหวังว่าคุณจะพิจารณาคำแนะนำของผมนะ คุณเป็นนักเรียนของผมมาหลายปีแล้ว ผมจึงรู้ว่าคุณมีความรู้ทางศาสตร์การแพทย์แผนโบราณกว้างและลึกแค่ไหน ในประเทศชวาลานั้นมีสมุนไพรมากมายเท่าที่คุณต้องการ และคุณใช้มันวิจัยได้อย่างอิสระ และที่สำคัญที่สุดก็คือ ที่ประเทศชวาลายังมีคนหลายตระกูลทั้งที่มีชื่อเสียงและที่หลบซ่อนตัวอยู่มากมายที่มีทักษะทางการแพทย์แผนโบราณ ผมจำได้ว่าคุณสนใจเรื่องนี้มาก ใช่ไหมล่ะ? นั่นแหละเป็นเหตุผลที่ผมแนะนำให้คุณกลับไปชวาลานะ อนาคตที่สดใสรอคุณอยู่ที่นั่น อีกอย่างตอนนี้คุณก็เปลี่ยนไปแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือไปบังเอิญเจอใครเข้า ผมเชื่อว่าคุณจะนิ่งสงบและจัดการได้ทุกอย่าง จริงไหม?” เมื่อเขาพูดเช่นนั้น รษิกาก็เงียบไป เขาพูดถูก ฉันเปลี่ยนไปเป็นคนละคนแล้วในตอนนี้ ฉันสามารถเผชิญหน้าอุปสรรคได้ทุกอย่างโดยไม่หวาดกลัวเลย อีกอย่าง นี่มันก็หกปีผ่านมาแล้ว ผู้ชายคนนั้นอาจจะไปแต่งงานกับรักแรกของเขาแล้วก็ได้ ฉันจะกลัวไปทำไมล่ะ? ด้วยความคิดเช่นนั้น รษิกาก็หายใจเข้าลึกและพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “งั้นก็ได้ค่ะ ศาสตราจารย์หาญชัย ฉันจะฟังคำคุณและกลับไปที่ชวาลา” หาญชัยยินดีมาก “ผมดีใจที่คุณตัดสินใจได้รวดเร็ว ไม่ต้องกังวลหรอกนะ ผมจะให้ลลิตาไปกับคุณด้วย แล้วผมก็จัดคนช่วยเหลือเอาไว้ให้คุณแล้วที่นั่น” “ดีเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ศาสตราจารย์หาญชัย!” รษิกาพยักหน้า ขณะที่พวกเขาคุยกันอยู่ อชิกับเบนนี่ก็มองหน้ากัน พวกเขาสัมผัสได้ว่าต่างคนก็ต่างตื่นเต้น ในที่สุดแม่ก็กลับชวาลาสักที! อันที่จริง เด็กชายทั้งสองอยากกลับไปที่นั่นแทบตายมานานหลายปีแล้ว เพราะอย่างไรเสีย พ่อของพวกเขาก็อยู่ที่นั่น เด็กทั้งสองจึงอยากจะเจอหน้าพ่อ และแน่นอนว่าพวกเขาอยากจะสั่งสอนพ่อสักหน่อยที่ทอดทิ้งภรรยาและลูกๆ ของตัวเอง สองวันต่อมา รษิกาและเด็กๆ ก็ขึ้นเครื่องมาลงที่สนามบินนานาชาติในเมืองหัสดิน ในที่สุด รษิกาก็กลับมาที่ชวาลาหลังผ่านไปหกปี พอลงมาจากเครื่องบิน พวกเขาก็เดินไปตามโถงทางเดิน ทันใดนั้น เบนนี่ก็บีบขาตัวเองเข้าหากันก่อนจะดึงชายกระโปรงของรษิกาและบอกว่า “แม่ครับ ผมต้องไปฉี่แล้ว” รษิกาและอชิหัวเราะคิกคักเมื่อได้เห็นท่าทางรีบร้อนของเขา “โอเค งั้นก็รีบไปกันเถอะ” เธอเอื้อมมือไปขยี้ผมเบนนี่ ทันใดนั้น เบนนี่ก็ตัวสั่นอย่างรุนแรง “พอแล้ว แม่ครับ เดี๋ยวผมฉี่รดกางเกงนะ!” รษิการีบพาเขาไปยังห้องน้ำพลางหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นอชิก็เข้าห้องน้ำไปด้วย ขณะที่รษิกาเฝ้ากระเป๋ารออยู่ข้างนอก เธอไม่ลืมที่จะส่งข้อความแจ้งศาสตราจารย์ว่าพวกเธอมาถึงแล้ว และจู่ๆ เสียงที่คุ้นเคยก็ดังก้องมา “ไอ้โง่เอ๊ย! กี่ครั้งแล้วที่ดูแลเด็กหญิงตัวเล็กๆ ไม่ได้น่ะ? แกจะมีประโยชน์อะไรถ้าแค่ทำงานง่ายๆ แบบนี้ก็ไม่ได้?” ในน้ำเสียงที่ไพเราะ ทุ้มลึก และหนักแน่นของชายผู้นี้มีกลิ่นอายของความเกรี้ยวกราดซ่อนอยู่ ซึ่งมันฟังดูสะดุดหูมาก มือของรษิกาที่กำลังพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์ค้างแข็งไปทันทีทันใด หกปีผ่านไปแล้ว นับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เธอได้ยินเสียงนั้น แต่เธอก็ยังรู้สึกว่ามันคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด รษิกาเงยหน้ามอง และได้เห็นร่างสูงอยู่แต่ไกล คนที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลมากนักเป็นชายร่างสูง ชุดสูทสีดำของเขาขับเน้นช่วงขาที่เรียวยาวซึ่งเพิ่มความสง่างามให้เขาเป็นอย่างมาก แม้จะอยู่ท่ามกลางฝูงชน แต่เขาก็เป็นที่สะดุดตา สายตาของรษิกามองเห็นรูปลักษณ์ด้านข้างที่สมบูรณ์แบบของเขา จมูกที่โด่งเป็นสันราวกับรูปแกะสลักนั้นเป็นที่น่าอิจฉาของใครหลายคน อันที่จริง เขาเป็นคนหล่อเหลาคมคายมากจนดับรัศมีของชายคนอื่นเมื่อเทียบกับเขา เลอศิลป์ ฟ้าศิริสวัสดิ์! หัวใจของรษิกาบีบรัดแน่นเมื่อได้เห็นหน้าเขา เธอไม่คิดว่าจะมาบังเอิญเจอเขาในวันแรกที่กลับมาถึง ความรู้สึกที่เธอฝังเอาไว้มานานหลายปีปรากฏขึ้นมาในใจของเธอชั่ววูบหนึ่ง แต่เธอก็รีบกลบมันไว้ทันทีที่รู้สึกเช่นนั้น เธอจ้องค้างอยู่อย่างนั้น เธอไม่สามารถนิ่งเฉยได้เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ทันใดนั้น เด็กชายทั้งสองก็ออกมาจากห้องน้ำ “แม่ครับ เสร็จแล้วครับ!” พวกเขากล่าวอย่างร่าเริง รษิกาหลุดออกจากภวังค์ขณะที่เกือบจะหัวใจวายตาย ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวเธอคือต้องรีบไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ฉันจะไม่ยอมให้อชิกับเบนนี่เจอเขาเด็ดขาด พวกเด็กๆ หน้าเหมือนเขาราวกับแกะ ถ้าหากบังเอิญได้เจอกันเข้าล่ะก็ เขาต้องรู้แน่ว่ามีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น! รษิกาไม่อยากข้องแวะอะไรกับเขาอีกต่อไป เธอเร่งร้อนด้วยความอึดอัดใจ “เสร็จแล้วเหรอคะ? เอาล่ะ ไปกันเถอะ ลูกคงไม่อยากให้แม่ทูนหัวต้องรอนานหรอกนะ ใช่ไหม?” เธอลากกระเป๋าเดินออกไปจากตรงนั้นโดยไม่รอคำตอบจากลูกๆ เลย เลอศิลป์กำลังอยู่ระหว่างคุยโทรศัพท์อยู่ และเขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจึงหันมองข้ามไหล่ตัวเองไป จากหางตา เขาเห็นร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่คุ้นเคย รษิกา จารุวิทย์อย่างนั้นหรือ? ใช่เธอหรือเปล่า? เธอกลับมาแล้วหรือ? เลอศิลป์วิ่งตามเธอไปทันที แต่ร่างของเธอก็หายไปท่ามกลางฝูงชนเสียแล้ว แววตาของเขาเคร่งเครียดขึ้น เลอศิลป์กำลังจะบันดาลโทสะ เธอจากประเทศนี้ไปอย่างเด็ดเดี่ยว และยังทำแม้กระทั่งทิ้งลูกเอาไว้ ไม่มีทางหรอกที่เธอจะกลับมา!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้ายพ่ายรัก