หย่าร้ายพ่ายรัก นิยาย บท 7

ตอนที่ 7 รำคาญตา

ในตอนนี้มีเพียงสองคนเท่านั้นที่อยู่ในห้องอาหาร เลอศิลป์มองไปรอบๆ กายก่อนที่สายตาของเขาจะสะดุดกับลูกสาวตัวเอง เด็กหญิงตัวน้อยยังคงหงุดหงิดที่รษิการีบผละจากไป ดังนั้นเมื่อเธอเห็นพ่อของตนเอง ไม่เพียงแค่เธอจะไม่กลัว แต่เธอยังเบือนหน้าหนีไปด้วยความโกรธอีกด้วย ความบึ้งตึงปรากฏบนใบหน้าของเลอศิลป์ ด้วยรู้ดีว่าไอรดานั้นเป็นคนลึกลับซับซ้อนและยากที่จะรับมือเหมือนกับที่พ่อของเธอเป็น งานนี้จึงตกเป็นของครรชิต ผู้ช่วยของเลอศิลป์ที่ต้องเข้ามาจัดการ “คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ? คุณหนูไอรดา” เด็กหญิงตัวน้อยเหลือบมองเขานิดหนึ่งก่อนที่จะหันหน้าหนีไปอย่างโกรธเกรี้ยวอีกครั้ง ครรชิตมองสำรวจร่างกายเธอ และเมื่อเห็นว่าเธอปลอดภัยดี เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและหันไปรายงานเจ้านายของเขา เลอศิลป์หรี่ตาและหันหน้าไปมองผู้หญิงที่อยู่ข้างลูกสาวเขา เมธินีแน่นหน้าอกเมื่อสบตาเขา และเธอก็แอบบีบมือตัวเองไว้แน่นเพื่อตั้งสติให้มั่น “รษิกาอยู่ไหน?” ท่าทีของเลอศิลป์เคร่งขรึมขณะที่เขามองใบหน้าของเมธินี เขารู้ได้เลยหรือว่าเป็นเธอ? เมธินีรู้สึกกังวลใจแต่ก็รู้สึกโล่งใจไปในเวลาเดียวกัน ที่เพื่อนสนิทของเธอออกไปทันเวลา ชายคนนี้แผ่พลังงานออกมาจนเหลือจะทน! ฉันรู้สึกเหมือนกับจะหายใจไม่ออก ใครจะรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากรษิกายังอยู่ตรงนี้? “ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไรนะ! พวกคุณเป็นใครกัน? หยาบคายมากเลยนะที่เข้ามาโดยไม่เคาะประตูก่อนน่ะ” เมธินีพยายามข่มอารมณ์ตัวเองและปล่อยทักษะการแสดงอันแสนเลิศล้ำออกมา เธอดึงเด็กหญิงเข้ามาในอ้อมแขนขณะจ้องมองกลุ่มชายที่อยู่ตรงหน้าด้วยความระแวดระวัง รอยย่นระหว่างคิ้วของเลอศิลป์ยิ่งลึกขึ้น “ที่คุณกอดอยู่นั่นคือลูกสาวผม คุณเป็นคนที่โทรหาผมเหรอ?” เมธินีนิ่งไปครู่หนึ่ง “ใช่ ฉันเองแหละ” เธอตอบอย่างแข็งกร้าว เลอศิลป์จ้องเจออย่างไร้อารมณ์ก่อนจะกวาดตามองทุกอย่างภายในห้องอาหารแห่งนั้น เสียงเธออาจจะเหมือนผู้หญิงที่โทรมาหาเมื่อครู่นี้ แต่เธอคิดว่าจะหลอกฉันได้อย่างนั้นหรือ? อีกอย่าง สภาพของห้องนี้ก็เหมือนเพิ่งผ่านการพยายามซ่อนเร้นอะไรบางอย่างจนเห็นได้ชัด จริงอยู่ว่ามีชุดจานชามอยู่บนโต๊ะแค่สองชุด แต่เก้าอี้อีกสามตัวนั้นดูเหมือนเพิ่งถูกเคลื่อนย้าย ไม่มีทางที่พนักงานในร้านเทวภักษ์จะทำผิดพลาดเช่นนี้แน่นอน มันจะต้องมีคนนั่งอยู่ตรงนี้ก่อนที่ฉันจะมาถึง อาหารทั้งหมดบนโต๊ะนี้ก็ไม่น่าจะมีไว้สำหรับแค่ผู้หญิงหนึ่งคนและเด็กอีกคนเดียว หลังจากกวาดตามองไปทั่ว เขาก็จ้องหน้าเมธินีอีกครั้ง หญิงสาวรู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที วินาทีต่อมา เธอเห็นเลอศิลป์เอาโทรศัพท์มาจากผู้ช่วยของเขาและปัดเลื่อนหน้าจอก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเธอ ไม่นานนัก โทรศัพท์ที่รษิกาให้เธอมาก็ดังขึ้น เมธินีแทบจะกระโดดด้วยความตกใจ แต่เธอก็รีบตั้งสติและเหลือบมองโทรศัพท์ครู่หนึ่งก่อนจะหยิบมันขึ้นมากดตัดสาย “ในเมื่อคุณเป็นพ่อของเธอ ก็พาเธอกลับบ้านไปได้แล้ว” เธอพูดขณะสบตากับชายคนนั้น จากนั้น เธอก็ลูบหัวของเด็กน้อย ก่อนจะอุ้มเธอลงไปยืนที่พื้น และสะกิดให้เดินเข้าไปหาเลอศิลป์ คิ้วของเลอศิลป์ขมวดอยู่เล็กน้อยขณะที่เขาก้าวออกมาข้างหน้าสองสามก้าว ด้วยคิดว่าเขาจะเข้ามารับเด็กไป เมธินีก็กำลังจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่จู่ๆ เธอกลับได้ยินเขาพูดกับเธออีกครั้งหนึ่งด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังขา “ดูเหมือนคุณจะกินเยอะมากเลยนะ จากที่เห็นคุณสั่งอาหารมาทั้งโต๊ะแบบนี้ ทั้งที่มีแค่คุณกับเด็กตัวเล็กๆ อีกคนเท่านั้นเอง” ชายหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ข้างโต๊ะ คำพูดของเขาดูเหมือนจะมีนัยยะบางอย่างแฝงอยู่ เมธินีนิ่งเงียบไป หลังจากกลั้นหายใจอยู่พักหนึ่ง เธอก็ฝืนยิ้มออกมา “เรื่องอาหารการกินของฉันไม่น่าจะเป็นธุระกงการอะไรของคุณนะ อีกอย่าง ฉันสั่งอาหารมาเยอะเพราะฉันชวนเพื่อนมากินข้าวด้วยกัน แต่เพื่อนฉันยังไม่มาก็แค่นั้นแหละ” เลอศิลป์เลิกคิ้ว “แล้วคุณก็เริ่มกินข้าวเลยแทนที่จะรอเพื่อนมาก่อนงั้นเหรอ?” ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น เขาก็กวาดตามองอาหารทุกจานที่อยู่บนโต๊ะไปด้วย เมธินีรู้สึกเหมือนเธอกำลังจะตาย เธอใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งเพื่อตั้งสติก่อนจะหันไปยิ้มอย่างเหินห่างให้เขา “ก็ฉันสนิทกับเพื่อนพวกนี้มาก พวกเพื่อนฉันไม่รังเกียจหรอกถ้าฉันจะกินก่อน พวกเขาชินแล้วล่ะ” เธอหายใจเข้าลึกและเว้นวรรคให้เขาได้โอกาสพูดอีก “เอาล่ะ คุณคะ ฉันเจอลูกสาวคุณแล้วก็ใจดีโทรบอกคุณให้มารับเธอ ฉันถึงขนาดพาเธอมากินข้าวด้วยเพราะกลัวว่าเธอจะหิว คือมันก็ไม่เป็นไรหรอกนะถ้าคุณจะไม่ขอบคุณฉัน แต่ทำไมคุณมาซักไซ้ไล่เรียงอย่างกับฉันเป็นผู้ร้ายอย่างนี้ล่ะ? ฉันไปทำอะไรผิดมากนักเหรอถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้?” แม้น้ำเสียงเธอจะฟังดูขุ่นเคือง แต่ลึกๆ ในใจเมธินีอยากจะกรี๊ดออกมาให้สุดเสียง เลิกซักฟอกฉันสักทีเถอะ ถ้ายังขืนไล่ถามอยู่แบบนี้ มีหวังฉันได้พ่นความจริงออกไปจนหมดแน่! ใครมันจะไปทนผู้ชายคนนี้ได้กันนะ? ระหว่างนั้น รษิกาที่รออยู่ในลานจอดรถ เธอจับมือลูกๆ เอาไว้คนละข้าง ขณะที่พายุแห่งความไม่สงบหมุนวนอยู่รอบตัวเธอ เธอรู้จักเลอศิลป์ดีมากจนพอจะเข้าใจว่า แม้แต่เงื่อนงำเล็กๆ ก็เพียงพอจะปลุกเร้าความสงสัยของเขาได้แล้ว ฉันสงสัยจริงๆ ว่าเมธินีจะทนไหวสักแค่ไหน ถ้าเรื่องของเราถูกเปิดโปงขึ้นมา… ฉันจะทำยังไงถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ? หญิงสาวไม่อาจหาคำตอบได้ ไม่ว่าเธอจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม จู่ๆ เธอก็เม้มปากและเยาะเย้ยตัวเอง นี่ฉันกลัวอะไร? เขาอาจจะไม่ได้อยากเจอฉันอีกเลยก็ได้หลังจากที่ฉันทำแบบนั้นกับเขาเมื่อก่อนนี้ แม้ว่าเขาจะเห็นฉัน เขาก็อาจจะแสร้งทำเป็นไม่รู้จักหรือคิดว่าฉันเป็นแค่สิ่งที่น่ารำคาญตา แล้วดูสิว่าฉันยังไม่ทันได้เจอหน้าเขาจังๆ ด้วยซ้ำ แต่มานั่งทำให้ตัวเองกลัวอยู่แบบนี้ได้ยังไง?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้ายพ่ายรัก