ไม่ต้องให้ถูซินเยว่รอนาน ซูจื่อหังลุกขึ้นยืนที่ข้างเตียงแล้ว
เขาหันศีรษะมา สีหน้าเย็นชาเล็กน้อย นัยน์ตาแจ่มชัดจ้องมองไปยังซูเฟิ่งอี๋ แล้วเอ่ยถาม "พวกท่านเสียเงินไปเปล่า ๆ เพื่อส่งเสียข้าเรียนหนังสืองั้นหรือ? แล้วเงินเบี้ยเลี้ยงห้าร้อยอีแปะที่ได้รับจากอำเภอทุกเดือนล่ะ ไม่ใช่ว่าเข้ากระเป๋าพวกท่านหรอกหรือ? เงินที่ข้าแต่งภรรยา พวกท่านได้ควักสักแดงเดียวหรือ?"
นี่เป็นครั้งแรกที่ซูเฟิ่งอี๋เห็นซูจื่อหังแสดงสีหน้าเยือกเย็นเช่นนี้ เธอสะดุ้งไปเล็กน้อย แต่ก็โต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้ "ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เจ้าจะให้พวกข้าเลี้ยงนางหยูไว้อย่างเปล่าประโยชน์ไม่ได้ แล้วยังต้องเสียเงินค่ารักษาให้นางอีก"
"ถูกต้อง" แม่เฒ่าตระกูลซูยิ้มเยาะ "มือของแม่เจ้าพิการ ต่อไปก็ไม่สามารถเชือดหมูเชือดไก่ หรือทำนาได้อีก แล้วจะเลี้ยงนางไว้ทำไม? หมอหลี่บอกแล้วไม่ใช่รึว่าคงไม่ตายเร็ว ๆ นี้ ยังดึงดันจะมาเสียเงินซื้อยาให้นางอีก ตระกูลซูของเรายากจน ไม่มีเงินซื้อยาให้นางหรอก"
เมื่อกล่าวถึงตอนนี้ แม่เฒ่าตระกูลซูจู่ ๆ ก็เปลี่ยนเป็นเสียงประชดประชันว่า "จื่อหัง จิตใจกตัญญูที่จะดูแลรักษาแม่ที่ป่วยของเจ้า พวกข้าไม่ขัดขวาง เพียงแต่ว่าเงินพวกนั้น ข้าไม่มีทางให้เจ้าเด็ดขาด แม้แต่แดงเดียว"
แม่เฒ่าตระกูลซูยืนพิงไม้เท้าอยู่ข้าง ๆ ใบหน้าแก่ ๆ ของนางเต็มไปด้วยความเย็นชา
ซูจื่อหังสูดลมหายใจเข้าลึก นิ่งงันอยู่นาน ในที่สุดก็พูดขึ้นว่า "ได้ ค่ายาของแม่ข้า ข้าจะไม่เอาจากพวกท่านแม้แต่อีแปะเดียว แต่เงินห้าร้อยอีแปะที่อำเภอส่งมา ข้าก็จะไม่มอบมันให้แก่พวกท่านอีก"
"อะไรนะ?" เมื่อได้ยินประโยคนี้ ซูเฟิ่งอี๋ก็เกือบกระโจนขึ้นมา ส่ายหน้าด้วยความขุ่นเคือง "ไม่ได้ ๆ บ้านตระกูลซูยังไม่ได้แยกครอบครัวกัน เงินห้าร้อยอีแปะนี้เจ้ามีสิทธิ์อะไรที่จะไม่ให้!"
เสื้อผ้าชุดใหม่ที่เธอสวมใส่ทุกเดือน แป้งหอมต่าง ๆ ที่เพิ่งซื้อใหม่ต่างต้องอาศัยเงินห้าร้อยอีแปะนี้ทั้งนั้น
ซูจื่อหังเหลือบมองใบหน้าที่น่าเกลียดของป้าตัวเอง แล้วพูดอย่างเย็นชา "ข้าจะเก็บเงินไว้รักษาแม่ข้า"
"จื่อหัง มันจะมากไปแล้วนะ!" ซูเฟิ่งอี๋พับแขนเสื้อขึ้น ท่าทางดุร้ายอำมหิต ที่หน้าประตูทันใดนั้นถูซินเยว่ก็ผลักประตูเปิดออก ขยับร่างอ้วน ๆ ของเธอเข้าไปหาซูจื่อหังทีละก้าว แล้วพูดด้วยรอยยิ้มโง่ ๆ "นี่ ข้าให้เจ้า"
"นังอ้วนไสหัวไป" ซูเฟิ่งอี๋ขมวดคิ้วสาปแช่ง หญิงอ้วนอัปลักษณ์นี่บดบังสายตานาง
ถูซินเยว่ไม่ใส่ใจนางแม้แต่น้อย ไขมันบนร่างเธอแกว่งไปมา รูม่านตาในดวงตาน้อยทอประกายสดใส มองดูซูจื่อหังที่อยู่ตรงหน้าเธอ
ซูจื่อหังก้มลงมืองดูในที่สุด ที่มองถูซินเยว่ไม่ใช่เพราะรังเกียจ แค่รู้สึกงุนงงเล็กน้อย
"อะไรหรือ?" ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขามักจะรู้สึกอยู่เสมอว่าแม้ว่าหญิงสาวตรงหน้าเขาจะดูเลอะเลือนสติไม่ดี แต่ดูเธอเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
ซูจื่อหังไม่แน่ใจ ได้แต่ถามขึ้นอย่างมีความหวัง เนื่องจากมีข่าวลืออยู่บ่อย ๆ ว่าถูซินเยว่มักมีอารมณ์ฉุนเฉียวชอบทุบตีเด็ก ๆ ไม่แน่ว่าบางทีวินาทีถัดไปอาการบ้าของนางอาจจะกำเริบขึ้นมา ทุบหัวเขาจนเลือดสาดก็เป็นได้...
แต่ว่าซูจื่อหังต้องประหลาดใจ เพราะถูซินเยว่ไม่เพียงแต่มีดวงตาอันแน่วแน่ ทั้งยับจับมือเขาไว้อย่างปกติดี จากนั้นจึงหยิบกระเป๋าเงินออกจากหน้าอกแล้ววางลงบนมือของเขา
กระเป๋าทำจากผ้าใยป่านซึ่งตัดเย็บอย่างดี ขอบกระเป๋ามีด้ายหลุดรุ่ยออกเป็นขน ดูเหมือนว่าจะผ่านการใช้งานมาหลายปีแล้ว
ซูจื่อหังกะน้ำหนักกระเป๋าเงินในมือ และทันใดนั้นก็เหลือบมองที่ถูซินเยว่ด้วยความประหลาดใจ นัยน์ตาแวววาวระคนตกใจ กระเป๋าใบนี้มีเงินอยู่เต็ม!
ถูซินเยว่ไปเอาเงินมาจากที่ไหน?
ก่อนที่ซูจื่อหังจะได้ทันตั้งตัว ซูเฟิ่งอี๋ก็เห็นกระเป๋าเงินในมือเขาแล้ว
นางส่งเสียงครวญคราง กระโจนเข้าใส่พร้อมกับตะโกนว่า "นี่มันเงินของข้า นังคนสารเลวกล้าดียังไงมาขโมยเงินข้า!"
ดูจากท่าทางของซูเฟิ่งอี๋แล้ว เห็นได้ชัดว่านางต้องการจะฉกกระเป๋าเงินกลับไป
ขณะที่ซูเฟิ่งอี๋กระโจนเข้าใส่ซูจื่อหังนั้น ถูซินเยว่ใบหน้าโง่ทึ่มที่กำลังยืนดูดนิ้วอยู่ข้าง ๆ ก็เหยียดเท้าอ้วน ๆ ออกมาอย่างหน้าตาเฉย
"ว้าย!" ซูเฟิ่งอี๋ล้มหน้าคว่ำ
"สนุกจังเล้ย สนุกจริง ๆ !"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง
รออยู่นะคะ...
รอ.....,....
รอ.........
แอดจ๋า...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ น่าสนุกมาก😭😭😭...
กำลังสนุกเลย ช่วยมาเพิ่มตอนให้ทีนะคะแอดมิน...
สนุกดี ไม่อัพต่อแล้วหรอค่ะ...