ถูซินเยว่โบกกำปั้นเล็ก ๆ ของเธอ
ภายใต้แสงแดด ดวงตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยแววเจ้าเล่ห์ พูดจาคล่องแคล่วเสียงสดใส ทำให้เหล่าฝีหนองบนหน้าเธอถูกลืมไปโดยปริยาย
จู่ ๆ ซูจื่อหังก็รู้สึกว่าถูซินเยว่ไม่ได้อัปลักษณ์ขนาดนั้นแล้ว
พวกเขาทั้งสองทำข้อตกลงกันโดยปริยายว่าจะไม่พูดถึงเรื่องของถูหมิงซวนและเหลียงปินอีก ด้วยกลัวว่ามันจะมืดค่ำเสียก่อน ทั้งสองจึงรีบก้าวเดินขึ้นภูเขา
หมู่บ้านต้าเย่อยู่ด้านหน้าภูเขาใหญ่ ด้านหลังเป็นภูเขาลึกและป่าเก่าแก่ที่มีใบไม้และพุ่มไม้เขียวชอุ่มอยู่ทุกหนทุกแห่ง
ทั้งสองกำลังเดินขึ้นไปบนภูเขา ถูซินเยว่ก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัยว่า "เจ้าจะไปเก็บอะไร? หรือว่าจะล่าสัตว์กลับไป?"
ซูจื่อหังซึ่งปกติอยู่แต่ในห้องหนังสือท่าทางองอาจผ่าเผยตอนนี้ขมวดคิ้วขึ้น รู้สึกจนปัญญาเล็กน้อย ที่จริงแล้วตั้งแต่จำความได้ นางหยูให้เขาอ่านหนังสืออยู่ในห้องหนังสือตลอด ปกติไม่เคยให้เขาต้องทำงานเหล่านี้เลย
ขึ้นเขามาครั้งนี้ ก็แค่เพราะเขาเคยเห็นคนในหมู่บ้านขึ้นมาล่าสัตว์ได้กลับไปเป็นครั้งคราว ดังนั้นเขาจึงอยากลองมาเสี่ยงโชคดูบ้าง
"บนเขานี้มีเลียงผา แต่ปกติไม่ค่อยได้เห็น ข้าลองมาเสี่ยงดวงดูน่ะ" ซูจื่อหังบอกความจริง
งั้นก็ตามนั้นเถอะ ถูซินเยว่ไม่สามารถกลั้นไว้ได้จึงหัวเราะออกมา
ซูจื่อหังหางตากระตุก เขาก็ไม่อยากเสียหน้าเช่นนี้ แต่เขาไม่มั่นใจจริง ๆ ว่าจะสามารถล่าอะไรกลับไปได้
ทั้งสองเดินขึ้นไปบนภูเขาได้สักพัก พื้นทางไม่เรียบทั้งยังลาดชัน ถูซินเยว่ที่ร่างกายเต็มไปด้วยไขมัน เดินไปได้ชั่วครูก็เหนื่อยจนหายใจหอบ
กัดฟันเดินต่ออย่างยากลำบากอยู่พักหนึ่ง แต่เธอไม่สามารถฝืนได้อีกต่อไป จึงนั่งลงบนก้อนหินใหญ่ข้าง ๆ
"ไม่ไหวแล้ว ๆ ข้าขอพักก่อน" ถูซินเยว่โบกมือ มองดูรูปร่างซูบผอมของซูจื่อหังแต่กลับไม่มีอาการเหนื่อยหอบเลยแม้แต่น้อย จึงรู้สึกหงุดหงิด นึกดูหมิ่นตัวเองอยู่ในใจอย่างเงียบ ๆ ในขณะเดียวกันก็คิดแผนอยู่ในใจ
ในเมื่อตอนนี้เธอได้รับช่วงต่อร่างกายมาจากเจ้าของคนก่อนแล้ว ต่อไปเธอจะต้องขยันออกกำลังกายอย่างขันแข็งเพื่อลดไขมันในร่างกายให้หมดไป ไม่เช่นนั้นต่อไปเดินก้าวสองก้าวก็เหนื่อยหอบแบบนี้ เธอคงทนไม่ไหวแน่ อีกทั้งยังไม่ดีต่อสุขภาพด้วย
หายใจเข้าลึกอยู่สองที ในที่สุดถูซินเยว่ก็รู้สึกดีขึ้น รับกาน้ำมาจากซูจื่อหังกำลังจะดื่ม จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงแทรกเข้ามาในหู
"ยายอ้วน ๆ ! มีหมูป่าอยู่ในลำธารทางซ้ายแน่ะ รีบไปเร็วเข้า!"
เสียงนั้นดังราวกับฟ้าร้อง ถูซินเยว่ตกใจจนเกือบสำลักน้ำ
"ใคร ใครพูดน่ะ?!"
เธอผลุนผลันลุกขึ้นยืน
ซูจื่อหังมองดูถูซินเยว่พูดพึมพำ ก็พูดขึ้นด้วยความงุนงง "ไม่มีใครพูดอะไรนี่"
"ไม่มีใครพูด?"
ไม่ใช่แล้ว! เมื่อกี้เห็นได้ชัดว่ามีคนตะโกนอยู่ข้างหูเธอนี่นา เสียงดังจนเกือบทำให้เธอหูหนวก
ถูซินเยว่ที่กำลังสงสัยอยู่ จู่ ๆ เสียงเมื่อครู่ที่ได้ยินก็ดังขึ้นอีกรอบ "ช่างเป็นมนุษย์ที่โง่เขลาเสียจริง รู้แบบนี้ข้าไม่พูดกับเจ้าตั้งแต่แรกแล้ว ข้าก็คือฉงเป่ายังไงเล่า ข้าเพิ่งคุยกับเจ้าเมื่อเช้า ลืมข้าง่ายขนาดนี้เลยรึ"
"ฉงเป่า?" ถูซินเยว่นึกอยู่นานกว่าจะจำได้ว่าเป็นแมลงอ้วนตัวใหญ่ที่เจอเมื่อเช้าตอนที่เข้าไปในมิติแห่งน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ดูเหมือนจะเรียกตัวเองว่าฉงเป่าอะไรนี่แหละ
ว่าแต่มันอยู่ที่ไหนกันล่ะ ทำไมถึงมาคุยกับตนได้?
"ข้าสื่อสารกับเจ้าผ่านทางจิต ดังนั้นสามีโดยบังเอิญของเจ้าจึงไม่ได้ยิน เจ้านี่มันโง่จริง ๆ " ฉงเป่าพูดด้วยท่าทางรังเกียจ
ถูซินเยว่บุ้ยปากถามอย่างหมดคำพูด "เมื่อกี้เจ้าจะบอกอะไรกับข้านะ?"
เมื่อครู่เสียงของฉงเป่าดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย อีกทั้งยังดังก้องเต็มหู ถูซินเยว่จึงไม่ทันได้ฟังถนัดนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง
รออยู่นะคะ...
รอ.....,....
รอ.........
แอดจ๋า...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ น่าสนุกมาก😭😭😭...
กำลังสนุกเลย ช่วยมาเพิ่มตอนให้ทีนะคะแอดมิน...
สนุกดี ไม่อัพต่อแล้วหรอค่ะ...