หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi] นิยาย บท 10

ตอนที่9

#หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม

ถึงวันที่ภูสามารถถอดเฝือกที่ข้อมือออกได้สมาชิกภายในชมรมต่างพากันดีใจ แสดงใบหน้าร่าเริงจนตอนนี้เป็นคินเสียเองที่มานั่งรู้สึกผิดที่ทำให้ภูต้องเจ็บตัว ไม่ใช่เพียงเป็นกัปตันแต่เหมือนภูจะเป็นความหวังของทีมรวมไปถึงการเป็นไอดอลของเด็กในชมรมด้วย คินยอมรับว่าก็เคยได้ยินชื่อของภูผ่านหูเหมือนกันสำหรับฝีมือในการว่ายน้ำที่ไม่ได้เป็นสองรองใคร เดินตามหลังกลุ่มสมาชิกในชมรมที่หัวเราะร่าเริงหลังจากที่ในตอนนี้ภูกลับมาเหมือนปกติอีกครั้ง นั่งทานข้าวด้วยกันเสียงพูดคุยดังไม่หยุดแล้วก็มีหลายครั้งที่คินแอบชำเลืองมองกัปตันทีมว่ายน้ำที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

จนที่อีกคนมองจ้องกลับมาพลางเลิกคิ้วให้คินถึงได้รีบเบือนสายตาหลบ

“ซ้อมเสร็จไปไหนกันต่ออะพวกมึง” แบงค์เป็นคนที่ตั้งคำถามนี้ขึ้น

“กลับไปนอน” และภูตอบประโยคนี้ก่อนที่จะโดนเพื่อนสนิทขยับเอาไหล่ชนสะกิดที่ช่วงต้นแขน

“แต่วันนี้วันศุกร์นะ ร่างกายไม่ต้องการแอลกอฮอล์หน่อยหรอ”

“พวกมึงอยากกินกันหรือไง” พอภูถามกลับมาแบบนี้ทุกคนต่างพากันตอบอย่างจริงจังว่า

“อยาก กิน!” เสียงประสานเสียงจนคนถามต้องหลุดส่งเสียงหัวเราะ เริ่มตกลงกันว่าจะไปเจอกันที่ไหนแล้วไปเจอตอนกี่โมง ทุกคนต่างตกลงรับปากว่าคืนนี้เจอกัน กระทั่งหลายสายตาเริ่มมองมาที่คิน เด็กหนุ่มมีสีหน้าสงสัยว่ามีอะไร

“มึงหละจะไปไหม”

“เอ่อ ผมมีนัดติวกับธารครับ คงไปไม่ได้”

“โหไรหว่า เบี้ยวซักวันคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง” แบงค์กำลังรบเร้าในขณะที่ด้านของคินก็ยืนยันชัดเจนว่าในรอบนี้คงต้องปฏิเสธเพราะว่าไม่สามารถไปได้จริงๆ ทำไงได้ พรุ่งนี้เขามีควิซย่อยเก็บคะแนน ขนาดทานข้าวเสร็จถึงเวลาที่ต้องไปซ้อมเหล่าเพื่อนและพี่ในชมรมยังคอยถามหลายครั้งจนคินปฏิเสธแล้วปฏิเสธอีก ผลัดกันเข้ามาวอแวจนคินไม่ได้ไปเปลี่ยนชุดซ้อมซักที

“แค่ไม่ไปกินเหล้าด้วยเอง” ระหว่างทางที่เดินมาห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเด็กหนุ่มพึมพำ มองประตูที่เปิดอยู่นั่นหมายความว่ายังมีคนเปลี่ยนชุดอยู่ในนั้น ไม่ได้คิดอะไรเดินตรงไปยังล็อกเกอร์ของตัวเองตามปกติ

…กึก… จนกระทั่งประตูล็อกเกอร์ถัดไปที่ในตอนแรกประตูตู้เปิดอยู่เลยไม่ได้เห็นว่าเป็นใคร

คราวนี้ได้ยินเสียงปิดคินถึงได้หันไปมอง

“……….” ถึงขั้นยืนเงียบ ไล่สายตามองคนตรงหน้าที่มีเหลือเพียงกางเกงว่ายน้ำ

“มองกูเก่งจังเลยนะมึงเนี่ย” เมื่อภูพูดสวนมาแบบนี้คินเหมือนได้สติถึงได้รีบหันหน้าหนี ตั้งใจบอกตัวเองว่าให้ทำเป็นมองไม่เห็นแล้วแค่ยืนเปลี่ยนเสื้อผ้าไปซะ แต่กับการที่ยืนถอดเสื้อแล้วมีคนมายืนกอดอกมองอยู่แบบนี้นี่มัน…

“แล้วทำไมพี่ไม่ออกไปหละครับ”

“อ้าวก็ทีมึงยังมองกูได้เลย กูก็ขอมองมึงกลับบ้างดิเดี๋ยวเสียเปรียบ” ได้ยินแบบนี้คินยืนเงียบจ้องหน้าอีกคน มองสายตาของภูที่กำลังไล่มองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนที่คนอายุมากกว่าจะเผยรอยยิ้มมุมปาก

“คงจะไม่ลืมนะว่าเคยท้าอะไรกูไว้”

“จะแข่งกันตอนนี้เลยไหมหละ” คินก็ไม่ได้ยอมเหมือนกัน

“ใจเย็น ช่วงนี้สนใจการซ้อมไปก่อน…แล้วเดี๋ยวหลังแข่งทีมจบ มึงมาแข่งตัวตัวกับกู”

“ได้ พี่เตรียมแพ้ผมได้เลย”

“โอเคครับ กลัวแพ้ใจจะขาดแล้วเนี่ย” ประโยคยียวนและหน้าตากวนประสาทจากภูคือสิ่งที่ได้รับมา ใครอีกคนเดินออกไปแล้วเหลือไว้แค่คินที่ยังเปลี่ยนชุดไม่เสร็จ เด็กหนุ่มบ่นงึมงำกับตัวเองด้วยใบหน้าหงุดหงิด ตอนแรกว่าดีกันแล้วนะแต่พอเอาเข้าจริงก็ยังไม่ชอบขี้หน้ากันอยู่ดี ไม่ได้ถึงขั้นเกลียดนะ แต่ว่า ความสัมพันธ์อะไรก็บอกไม่ถูกเหมือนกันเนี่ย

เดินกลับมายังสระว่ายน้ำอีกครั้งคินยืนมองคนที่เพิ่งจะกระโดดลงสระ

ไม่เคยเห็นภูว่ายน้ำ เพราะตอนนั้นคือแข่งกันแล้วเขาก็ไม่ได้มองด้วย

“เจ๋งอะดิ” แล้วเสียงที่ดังจากคนที่ไม่รู้เดินมาตอนไหนทำคินหันมอง พบว่าเป็นแบงค์เขายิ้ม

“เฉยๆครับไม่เห็นเท่าไหร่”

“แหม่ จะอวยแฟนหน่อยก็ได้มั้ง” โดนแบงค์แซวมาแบบนี้คินทำขมวดคิ้วไป เดินหนีออกมาท่ามกลางเสียงหัวเราะตามหลังจากรุ่นพีขี้เล่น ได้เวลาลงซ้อมแล้วหลังจากที่วอร์มอัพเสร็จ เขาว่ายอยู่สระข้างกันกับที่ภูกำลังว่ายอยู่ ไม่ได้อยากจะสังเกตนะแต่ว่าบังเอิญเห็นเอง แถมเหมือนคนอื่นก็ไม่ได้ทันมองด้วย

ภูกำลังเบ้หน้าแล้วมองข้อมือตัวเองด้วยใบหน้าหงุดหงิด

คงยังไม่หายดีสินะ…

“ที่จริงพี่ยังไม่ต้องพยายามจะซ้อมก็ได้นะ” ขึ้นมานั่งพักคินเดินมานั่งลงข้างกับภู

“อีกไม่ถึงเดือนก็แข่งแล้ว ไม่ซ้อมแล้วกูจะเอาอะไรไปสู้เขา”

“ก็มันยังไม่หายดีหนิ”

“แล้วใครทำหละ” โดนภูสวนมาแบบนี้คินเงียบ

“ผมขอโทษ” ก่อนพูดประโยคนี้ออกไปและนั่นทำคนฟังมีชะงักนิดหน่อย

“ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย” ไม่รู้เพราะคำขอโทษหรือเพราะหน้าตารู้สึกผิดเหมือนหมาหงอยของคินกันแน่ที่ทำให้ภูเลือกที่จะพูดประโยคนี้ไป ได้รับรอยยิ้มจากคนอายุน้อยกว่ากลับมา ภูไม่ได้พูดอะไรแต่ยกขวดน้ำขึ้นดื่มพลางมองตรงไปยังเบื้องหน้าที่มีคนบางส่วนที่ยังซ้อมกันอยู่ ชำเลืองมองคินอยู่หลายรอบเหมือนมีอะไรอยากพูด

“แล้ว…ไม่ไปหรอคืนนี้อะ” สุดท้ายก็ถามไปจนได้

“ไม่ไปครับ ไว้รอบหน้าแล้วกันนะ”

“อืม” จบการคุยกันลงแค่นั้นก่อนที่ภูจะลุกเดินออกไป คินยังคงนั่งอยู่ที่เดิม มองคนที่กระโดดลงในสระน้ำอีกครั้ง คิดว่าภูคงจดจ่ออยู่กับการว่ายน้ำแต่เปล่าเลยเพราะมีหลายครั้งที่เผลอสบตากันเสียอย่างงั้น

เลิ่กลั่กกันเลยทีเดียวจนคินต้องกระแอมไอแล้วยกน้ำขึ้นดื่มบ้าง

สถานการณ์แบบนี้ทำตัวลำบากแหะ…

“อ่านอะไรอยู่อะคิน ไม่ใช่เรื่องเรียนหนิ” กระทั่งที่ตกเย็นแล้วมานั่งติวหนังสืออยู่ที่คอนโดตัวเองกับเพื่อสนิทตัวน้อย

“อะไรอ่าเอามาดูมั้ง” ธารชะโงกหน้ามามองพบว่าเป็นวิดีโอที่สัมภาษณ์ใครบางคนอยู่

“ไอ้พี่ภูหนิ”

“………..”

“ทำไมคินถึงต้องนั่งดูพี่มันด้วยอะ” โดนถามมาแบบนี้คนถูกถามนิ่งคิด จะให้บอกไปว่าเพราะอยากรู้ว่าเมื่อก่อนอีกคนเป็นยังไงก็จะดูเหมือนเขาสนใจภูเกินไป เพราะฉะนั้นแล้ว…

“โค๊ชบอกให้ดูอะ เพราะว่าตอนพี่ภูปีหนึ่งเคยให้สัมภาษณ์ไว้”

“อ๋อ” ธารครางรับมาจนกลายเป็นว่าตอนนี้กำลังนั่งฟังสัมภาษณ์ของภู หัวข้อวิดีโอคือ

//สัมภาษณ์หนุ่มหล่อดีกรีนักกีฬามหาลัย น้องภูคนคิ้วท์//

แต่เอาเข้าจริงภูตอนปีหนึ่งก็คือดูใสกว่าตอนนี้เยอะไง…

“แล้วทำไมถึงมาว่ายน้ำได้หรอคะ?”

“พ่อผมครับ คือผมโดนบังคับให้เล่นกีฬาตั้งแต่ตอนนั้นที่….”

“ที่?”

“เอ่อที่ ตอนมอสาม…เที่ยว โดนตำรวจจับแล้วตรวจเจอสารเสพติดในเลือด” เหมือนภูจะไมได้ตื่นเต้นกับเรื่องของตัวเองเพราะมันคืออดีตที่ผ่านมาแล้วแต่กับธารและคินถึงขั้นหันมองหน้ากันก่อนกลับมาตั้งใจฟังต่ออีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi]