หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi] นิยาย บท 12

สรุปบท ตอนที่11: หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi]

อ่านสรุป ตอนที่11 จาก หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi] โดย mimi112233

บทที่ ตอนที่11 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi] ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย mimi112233 อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่11

#หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม

วันนี้มีนัดเข้าชมรมแต่เช้าเพื่อเข้ามาคุยถึงเรื่องไปเก็บตัวซ้อมใหญ่ที่ต่างจังหวัด มีหลายจังหวัดที่โค๊ชพูดชื่อออกมาเพื่อให้พวกเขาช่วยออกความเห็นว่าอยากจะไปที่ไหน เหล่าเพื่อนและรุ่นพี่ต่างวุ่นวายกันเสียงดังจนคินยังอดจะขำไม่ได้กับภาพตรงหน้า นั่งเงียบรอยกมือว่าจะไปจังหวัดอะไรแต่เพราะไม่ได้สนใจฟังมากนักเลยไม่รู้ว่ามีที่ไหนบ้าง รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่โค๊ชพูดชื่อจังหวัดแล้วว่าจะไปที่ไหน คินยังงุนงงอยู่ถึงได้มองไปที่ภู เห็นอีกคนยกมือเขาก็รีบยกตาม

เอ้าแล้วทำไมกลายเป็นว่ามีแค่เขาสองคนที่จะไปจังหวัดนี้หละเนี่ย

“อะใจเย็นเดี๋ยวรอว่างค่อยไปกันสองคนนะ เชียงใหม่อากาศหนาวๆน่าจะเหมาะอยู่” เสียงจากแบงค์ตะโกนแซวมา คินรีบลดแขนของตัวเองลงเห็นว่าภูก็มีสีหน้ากลืนไม่ได้คลายไม่ออกเหมือนกัน จนสุดท้ายก็ลงมติกันมาว่าจะไปที่กระบี่ มีโรงแรมที่หรูหราและมีสระเพียงพอให้พวกเขาซ้อมแถมยังมีทะเลอีกด้วย คินว่าก็น่าสนใจทะเลสวยก็ดี แต่เขาแค่ชอบภูเขามากกว่า

“สรุปก็ไปกระบี่กันนะ อาทิตย์หน้าเตรียมตัวให้พร้อม...ส่วนเรื่องเรียนจะจัดการลาให้” โค๊ชพูดออกมาต่ออีกครั้ง คินค่อนข้างมีสีหน้ากังวลเพราะเขาไม่อยากหยุดเรียนนานแต่ถึงอย่างนั้นมันก็จำเป็น ไว้คงต้องหาเวลามาเรียนย้อนหลังสินะ ประชุมกันเสร็จก็ถึงเวลาต้องไปซ้อมต่อ วันหยุดเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีเวลาได้ไปไหนมาไหนกับธารเหมือนเก่าเพราะกิจกรรมในชีวิตเยอะขึ้นมาก กว่าจะซ้อมเสร็จก็ทั้งวันผ่านไปแล้ว กลับมาถึงห้องคินตรงไปทิ้งตัวบนเตียงอย่างหมดแรง

เผลอหลับไป สะดุ้งตื่นมาอีกทีมองนาฬิกาพบว่าหนึ่งทุ่มแล้ว

“กินอะไรดีนะ” พึมพำขึ้นกับตัวเอง เรื่องที่น่าเบื่อที่สุดคงเป็นการคิดนี่แหละว่าจะกินอะไรดีในแต่ละมื้อ เลยจบลงที่การเดินออกไปหน้าปากซอยเพื่อหาอะไรทาน คินรีบทานข้าวในจานเพราะดูท่าเหมือนฝนจะตก ตอนนี้เริ่มลงเม็ดแล้วเด็กหนุ่มรีบคว้าเงินจ่ายพร้อมวิ่งตรงกลับคอนโดตัวเอง

...ซ่าาา!.. แต่เพิ่งครึ่งทางฝนกลับตกแรงขึ้น คินขมวดคิ้วตัดสินใจว่าจะไปต่อหรือกลับไปหลบฝนที่ร้านข้าวดี แต่มาขนาดนี้แล้วเขาขอเลือกที่จะวิ่งฝ่าฝนต่อไป ถึงห้องก็ค่อยอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเอาแล้วกัน

...ปี้นนๆๆๆ!!!... เสียงแตรรถจากด้านหลังทำคนที่วิ่งอยู่ต้องหันมอง ฝนตกแรงมากแต่ยังพอมองเห็นว่าเป็นใคร

“มึงไปไหนเนี่ย!”

“กลับห้องครับ!”

“ขึ้นรถ!!” เสียงตะโกนที่ดังมาจากอีกคนทำคินต้องรีบก้าวขาขึ้นคร่อมซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่สีขาว สถานการณ์เร่งรีบแบบนี้อย่าน้อยนั่งมอไซค์ไปก็คงจะดีกว่าวิ่งกลับแหละนะ ถึงอย่างนั้นแล้วก็เปียกปอนกันทั้งคู่ ขี่เข้ามาจอดที่หน้าคอนโดคินลงจากรถแต่ยังไม่ได้จะเดินหนีไปไหน

“อ้าว” แต่ยังไมได้ขอบคุณเลยภูกลับขี่รถฝ่าฝนออกไปแล้ว

ยังไม่ทันจะได้ถามเลยว่าทำไมถึงมาอยู่แถวนี้

“พรุ่งนี้ค่อยไปขอบคุณก็แล้วกัน”

................

แต่แล้วพีคไปอีกเมื่อตกเย็นมาซ้อมแต่ปรากฏว่าภูไม่ได้มา รู้ลึกไปอีกว่าภูไม่สบายเมื่อไปถามแบงค์เพราะอีกคนไม่มาเรียนตั้งแต่เช้าและโทรมาบอกว่าลาป่วย ตอนนี้คินไม่ได้รู้สึกผิดอะไรนะเพราะถึงไม่มาส่งเขาภูก็คงจะต้องขี่รถตากฝนอยู่แล้ว แต่ถ้าเอาตามจิตสำนึกเลยก็คือควรจะแวะไปเยี่ยมไง เพราะฉะนั้นถ้าเลิกซ้อมเขาจะลองไปชวนแบงค์ดู

“เย็นนี้มีนัดอะดิ” แต่ก็ได้คำตอบนี้มา...

งั้น... แวะไปเยี่ยมภูคนเดียวก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง

รู้ตัวอีกทีก็ขับรถเข้ามาจอดที่หน้าห้องพักของภูแล้ว ดวงตาคู่สวยมองไปยังตึกตรงหน้าพลางนั่งปรึกษากับตัวเองในใจว่าจะขึ้นไปดีไหม หันมองนมที่ซื้อมาตั้งหลายแพค เขาเอายามาด้วยเพราะคนอย่างภูไม่น่าจะสนใจดูแลตัวเองหรอก อย่างมากคงแค่นนอนพักแบบไม่ทานยาเลย เม้มปากเล็กน้อยแต่ในที่สุดก็ลงจากรถ

...ก็อกๆๆ..! มาจนถึงหน้าห้องจัดการเคาะประตู ไม่มีคนมาเปิดซักที

...แกร๊กกก... เลยลองเปิดเข้าไปแล้วพบว่าไม่ได้ล็อคอยู่ ข้างในห้องไม่ได้เปิดไฟเลยมืดมาก เงียบสนิทแต่มีภูที่นอนหลับอยู่บนเตียงโดยที่มีกะละมังใบเล็กและผ้าชุบน้ำวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง มีร่องรอยบนเตียงที่ชื้นนิดหน่อยดังนั้นคินเดาว่าภูคงจะเช็ดตัวด้วยตัวเอง เขาเดินไปเปิดไฟดวงเล็กที่ไม่ได้สว่างจนทำให้ภูตื่นแต่ก็ให้แสงสว่างพอให้มองเห็น

...หมับ... วางมือลงบนหน้าผากขาว

“โหตัวร้อนมาก” ก่อนต้องพึมพำประโยคนี้ขึ้นมา คินรีบวางของเอาไว้ก่อนเอากะละมังเข้าไปเปลี่ยนเอาน้ำมาใหม่ ลดระดับความเย็นของเครื่องปรับอากาศภายในห้อง กลับมาทิ้งตัวนั่งลงบนที่ว่างของเตียง ลองใช้มือลดผ้าห่มลงเขาแทบอยากจะปลุกภูมาด่า ป่วยขนาดนี้ยังจะนอนไม่ใส่เสื้ออีก แต่คินก็ลงมือเช็ดตัวให้ก่อนแล้วค่อยหาเสื้อให้อีกคนใส่แล้วกัน

วิญญาณหมอเข้าสิง

แต่คนไข้รายนี้ให้ความรู้สึกแตกต่าง...

“จมูกโด่งมาก...” เผลอพึมพำเมื่อแอบมองหน้าของภูในตอนหลับ

“ก็ทำมาหกหมื่น”

“.....!” กระทั่งเสียงของคนที่คิดว่าหลับดังขึ้นคินตกใจแทบจะตกเตียง ดีที่ยั้งตัวเอาไว้ได้ มองภูที่ก็กำลังมองมาเหมือนกันและในตอนนี้คินหน้าซีดเผือก เขาจะโดนข้อหาบุกรุกไหม...

“รู้ตั้งแต่เช็ดตัวให้ตอนแรกแล้ว”

“แล้วทำไมพี่ไม่บอกผมหละ”

“ก็สบายตัวดี จะบอกให้ดยุดทำไม” โดนภูถามกลับมาแบบนี้คินชักสีหน้าใส่ เตรียมจะวางของในมือไว้ที่เดิมแล้วกลับบ้านเพราะถ้าภูกวนประสาทเขาได้ก็คงหมายถึงไม่ได้ป่วยหนักอะไรแล้วหละ

และคินสะดุ้ง

“อ้ะ...” ส่งเสียงผะแผ่วในลำคอออกมา

..ผลั้ก!.. ก่อนที่มือขาวจะออกแรงปัดแขนของภูออก ผละตัวถอยออกห่าง เช่นเดียวกับภูที่เหมือนได้สติรีบพลิกตัวกลับไปนอนหงายเหมือนก่อนหน้า ต่างคนต่างเงียบแสดงสีหน้าเลิ่กลั่ก

“ผม...ผมซื้อยากับนมมาให้ พี่อย่าลืมกินด้วยนะ” ละล่ำละลั่กพูดไม่เป็นประโยค

“วันนี้กลับก่อนดีกว่า” รีบลุกออกจากเตียงคว้ากุญแจรถและกระเป๋าของตัวเอง ก่อนที่คินจะชะงักเมื่อนึกอะไรออก

“เมื่อวานขอบคุณที่มาส่งนะครับ” ความตั้งใจจริงที่จะมาหาภูวันนี้คือมาขอบคุณอีกคน

ไม่ใช่จะมาหาเพื่อที่ บ้าชะมัด....

...กึก... เสียงปิดประตูห้องดังขึ้นแล้ว ภูยกมือขึ้นกุมหัวของตัวเองแทบอยากจะตะโกนลั่นออกมาตอนนี้แต่ทำได้แค่โวยวายไร้เสียง เขาทำบ้าอะไรลงไปอีกแล้ว พักนี้เหมือนควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้เวลาที่อยู่กับคินสองต่อสอง

นอนคิดเรื่องนี้อยู่ทั้งคืน

และเสียงหอบหายใจดังออกมาจากห้องน้ำในกลางดึก

“อ่ะ...อื้มม..!!” เสียงครางต่ำในลำคอ มืออีกข้างที่จิกเข้ากับกำแพง ดวงตาคู่คมที่ปิดแน่น ริมฝีปากที่อ้าพ่นหอบหายใจ

เมื่อใกล้ถึงจุดหมายความเร็วของมือขยับรัว ดวงหน้าหล่อเชิดเงย

“อ๊า...!!” ก่อนเสียงครางจะดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับหยาดน้ำสีขาวขุ่นที่เยิ้มเต็มฝ่ามือ

“แม่งเอ้ย!” ภูสบถลั่น หงุดหงิดตัวเองที่ต้องจบทุกอย่างลงด้วยวิธีนี้

...มึงเล่นตลกอะไรกับกูอยู่เนี่ยไอ้คิน...

# # # # # # #

เกียมเป็นไอ้ลูกหมาจร้า 555555555

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi]