สรุปตอน ตอนที่5 – จากเรื่อง หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi] โดย mimi112233
ตอน ตอนที่5 ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi] โดยนักเขียน mimi112233 เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่5
#หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม
พักเที่ยงคินขับรถออกมาหาอะไรทานที่แถวร้านอาหารหน้ามหาลัยตามปกติ หนึ่งร่างที่มาพร้อมสีผิวขาวใสและใบหน้าที่ดูดีตามฉบับหนุ่มคนดังประจำคณะ มีหลายหัวข้อถกเถียงที่คินมักได้ยินประจำว่าคนอื่นจะชอบคิดว่าเขาและธารต่างคบหาดูใจกันอยู่ ตอนแรกยอมรับว่าหัวเสียแต่พอมากเข้าคินกลับเริ่มชินและคิดว่าเราไม่มีทางที่จะสามารถเข้าไปห้ามความคิดของคนอื่นได้
..กริ๊ง.. เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังบ่งบอกว่ามีคนใหม่เดินเข้ามา หันไปมองตามปกติก่อนสิ่งที่พบจะทำให้คินต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย ถ้าจำไม่ผิดผู้หญิงหน้าตาดีคนนี้คินจำได้ว่าเคยเจอเธอมาแล้วครั้งหนึ่งนะ หน้าคุ้นมากจนนั่งมองซักพักถึงได้นึกออกว่าแท้จริงคือแฟนเก่าของภูนั่นเองแถมในวันนี้เธอยังเดินเข้ามาพร้อมกับรุ่นพี่ในสาขาของเขาอีกด้วย เริ่มเข้าใจขึ้นนิดหน่อยว่าทำไมภูถึงเกลียดขี้หน้าพวกเด็กเรียนแพทย์อินเตอร์นัก ที่แท้ก็มีที่มาที่ไปนี่เอง
“ธารรู้จักพี่เขาหรอ เห็นมองอะ” คินขยับปากถามเพื่อนตัวน้อยที่นั่งฝั่งตรงข้ามซึ่งธารพยักหน้า
“รู้สิ นั่นพี่เอิร์ธ...เห็นเพื่อนผู้หญิงชอบพูดถึงพี่เขาอะ”
“พูดถึงในเชิงที่ว่า?”
“ก็บ้านมีเงิน ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า...แต่เห็นว่ากับคนใหม่จะคบแบบเปิดเผยนะ”
“คนนี้อะหรอ?” คินถามต่ออีก
“ใช่...อันนี้พี่แนทเป็นดาวคณะธุรกิจการบิน...แฟนเก่ากัปตันทีมว่ายน้ำของคินหนิ ใช่มะ” คราวนี้โดนถามกลับมาบ้างและคินพยักหน้ารับ แอบชำเลืองมองไปยังชายหญิงสองคนที่ดูเหมาะสมกันมาก แต่ถ้าเอาตามภายนอกขนาดคินเองยังต้องยอมรับเลยว่าแฟนใหม่ของหญิงสาวดูดีกว่าภูจริง อย่างมากก็ไม่ได้ดูพร้อมจะมีเรื่องกับคนอื่นตลอดเวลาแล้วกัน
..กริ๊ง... แต่แล้วเสียงกระดิ่งที่ประตูหน้าร้านดังขึ้นอีกครั้ง
“ซวยแล้วธาร” เป็นเสียงจากคินที่ดังขึ้นมาเมื่อพบว่าคนที่เดินเข้ามาใหม่คือใคร สายตาทั้งสองคู่หันไปมองซึ่งภาพที่ได้เห็นก็คือร่างของภูที่กำลังยืนท้าวแขนค้ำโต๊ะของแฟนเก่าตัวเองอยู่ แถมไม่ต้องให้เดาเลยด้วยว่าเหตุการณ์ต่อไปจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น และยังไม่ทันที่ธารและคินจะได้รีบเก็บของออกจากร้านเลย
..ผลั้วะ!... เสียงหมัดหนักๆที่กระแทกหน้าดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงของใครซักคนที่ล้มลงพื้น หันไปมองคินเบิกตากว้างเพราะอย่าลืมสิว่าภูเจ็บแขนอยู่แล้วเพราะงั้นเรื่องอะไรถึงจะไปต่อยคนอื่นเขาแล้วได้เปรียบ จะไม่เข้าไปช่วยเลยก็ไม่ได้เพราอย่างน้อยความเป็นคนของคินก็ยังมี
“อย่าครับพี่พอเถอะ!” เข้าไปตะโกนห้ามฝั่งของชายแปลกหน้าพร้อมเข้าไปกันตัวของภูไว้ด้วย
“มันมาหาเรื่องกูก่อน”
“ผมรู้ครับแต่ว่า งั้นผมขอโทษแทน...”
“มึงไม่ต้องไปขอโทษมัน!” ยังพูดไม่จบประโยคดีคินก็ถูกเสียงของภูตะโกนแทรกขึ้น เกือบจะได้ต่อยกันอีกรอบแต่ดีที่ทางแฟนเก่าของภูรีบออกแรงดึงให้คนรักใหม่ของเธอเดินหนีออกจากร้าน คินมองตามสองคนนั้นไป
..โครม!!!...
“เห้ย!!” ไม่ใช่เพียงเสียงของภูที่ร้องตกใจแต่คินยังเบิกตากว้างกับภาพที่รุ่นพี่ในคณะเดินเข้าไปถีบรถของภูที่จอดอยู่หน้าร้านจนล้มคว่ำลงกับพื้นถนน ถึงตรงนี้ภูรีบลุกจากพื้นแล้วตรงออกไปข้างนอกเช่นเดียวกับคินที่รีบตามออกไป
“มึงทำอะไรรถกู!”
“ก็เห็นหนิ แต่คันละแค่ไม่กี่บาทจะตกใจทำไม”
“เอิร์ธคะพอเถอะไปกันได้แล้ว” ในขณะที่ทางด้านของหญิงสาวตัวต้นเหตุเริ่มแสดงสีหน้าที่ไม่ดีออกมา
“ถึงพี่ภูเขาจะหาเรื่องพี่ก่อนแต่ก็ไม่เห็นจะต้องมาทำลายข้าวของกันเลยนะครับ” คราวนี้คินพูดขึ้นมาบ้าง
“อ๋อนี่เข้าข้างไอ้พวกกระจอกนี้หรอ...นี่มึงรวยจริงหรือสอบชิงทุนเข้ามาเรียนคณะกูได้วะ”
“ผมว่ามันไม่เห็นจะเกี่ยวเลยว่าถ้ารวยแล้วต้องนิสัยเสียแบบพี่”
“แถมยังสันดานเสียจ้องแต่จะแย่งเมียชาวบ้านเขา” เมื่อภูพูดประโยคนี้ขึ้นมาทางฝั่งนั้นกระตุกยิ้ม
“กูไม่ได้แย่งผู้หญิงเขาเข้ามาเอง ก็อย่างว่า...ใครจะไปอยากทนลำบากกับไอ้พวกไม่มีปัญญาเลี้ยงใคร”
“.........”
“รวยให้ได้ครึ่งกูก่อนแล้วค่อยมาอยากรู้ว่ากูมีดีกว่ามึงตรงไหน...ไปเถอะแนท อยู่นานๆเสนียดมันจะติด” ทิ้งถ้อยคำที่แสดงออกชัดเจนถึงนิสัยส่วนตัว สายตาของฝ่ายหญิงสาวที่ดูยังอาลัยอาวรณ์กันแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เลือกแล้วว่าต้องการเงินมากกว่าผู้ชายที่รักเธอ รถยนต์คันหรูที่ราคาหลายสิบล้านวิ่งผ่านหน้าไปด้วยความเร็วสูง ภูยังคงยืนนิ่งในขณะที่คินถอนหายใจออกมาแล้วหันไปยิ้มแห้งให้แก่เพื่อนตัวน้อยที่ยืนรออยู่ด้านหลัง
“ธารเขาเรียนก่อนก็ได้นะ พอดีเราว่าจะพาพี่เขาไปทำแผลแล้วก็...พาเอารถไปซ่อมด้วย”
“จะดีหรอคิน” ธารพึมพำกลับมาหน้าเครียด ยังคงไม่ไว้ใจภูนัก
“ยังไงก็กัปตันทีมเรานะธาร จะไม่ช่วยมันก็ดูไม่ดีอะ” ซุบซิบกันเสียงเบาจนในที่สุดธารยอมจะพยักหน้ารับแล้วเดินกลับไปที่รถของตัวเองก่อน กลับไปมองภูอีกครั้งพบว่าอีกคนกำลังเดนิตรงไปดึงรถของตัวเองขึ้น มีหลายส่วนที่แตกและร้าวเล็กน้อยเพราะรถคันใหญ่และล้มไปแรงขนาดนั้น
“พี่จะไปไหนครับ”
“ยุ่ง” เสียงที่ดังกลับมาไม่น่ายื่นมือเข้าไปช่วยเลยซักนิด
“เรียกช่างมาเอารถไปดีกว่าไหม แล้วเดี๋ยวผมไปส่งพี่ที่หอก็ได้”
“ไม่ต้อง”
“แต่ว่าพี่ควรไปทำแผล....”
..บรืนน!!!... คินถึงขั้นชักสีหน้าเพราะอีกคนไม่แม้แต่จะสนใจความช่วยเหลือจากเขาเลย มองตามมอเตอร์ไซค์ที่ถูกบิดออกไปด้วยความเร็วสูง ตัดสินใจที่จะเดินไปที่รถเพื่อกลับไปเรียนภาคบ่ายต่อ แต่ทั้งวันคินเรียนไม่รู้เรื่องเพราะในหัวคอยแต่หงุดหงิดในตอนที่นึกไปถึงหน้าของใครบางคน แถมวันนี้อาจารย์สอนเกินเวลามาเกือบสองชั่วโมง
จนมาถึงชมรมอีกทีก็ สองทุ่มเข้าไปแล้ว...
“ให้ไปส่งที่ไหนหรอครับ”
“เนี่ยซอยข้างหน้า เลี้ยวเข้าไป”
“แล้วผมจะกลับรถได้ไหม แล้วถนนมันขรุขระหรือ...”
“เชี่ยกูบอกว่าได้ก็ได้ดิวะ เลี้ยวเข้าไป!” โดนตะคอกใส่อีกคินเองก็เริ่มจะหัวเสียเหมือนกัน ขับเข้ามาในซอยที่เล็กและแคบมากจนกังวลว่าจะเผลอเอารถไปสีเข้ากับกำแพงไหม สุดท้ายก็เข้ามาจนสุดซอยและพบว่ามีอพาร์ตเม้นตั้งอยู่ ดูเก่าตามกาลเวลาแถมยังเงียบมากจนคินแอบหลอน ก็ที่คอนโดเขามันติดถนนใหญ่คนเลยพลุ่กพล่านตลอดนี่หน่า
“รถพี่เอาไปซ่อมหรอครับ?”
“เออ รู้แล้วมึงจะถามทำไม” ก่อนเปิดประตูลงจากรถยังไม่วายจะปากเสียใส่เขาอีก คินหละเหนื่อยใจ
ขับออกมารจนถึงคอนโดตัวเอง จังหวะที่จะเปิดประตูลงจากรถ
“เอ้า กระเป๋าไอ้พี่ภูนี่” หางตาของคินก็สบเข้ากับบางสิ่งบางอย่าง มาลืมกระเป๋าไว้บนรถเขาอีก...
...กึก... เข้ามาในห้องได้คินล็อคประตู ก่อนเดินตรงไปที่เตียงโดยที่มีหยิบกระเป๋าของภูมาด้วย อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะแต่เขาอยากจะรู้อะว่าวันหนึ่งภูเอาอะไรไปเรียนบ้าง อย่างเขาในกระเป๋าก็ต้องมีไอแพด มีบรรดาข้าวของอื่นอีกเยอะแยะมากมายตามประสาที่พ่อแม่ชอบซื้อให้ แต่ในกรณีของภูเนี่ย
“ปากกา สมุดเลคเชอร์” หยิบแต่ละชิ้นออกมา
“มีบุหรี่มีไฟแชค” ตอนนี้คินขมวดคิ้ว
“นาฬิกาข้อมือ” พึมพำกับตัวเองเพราะไม่เคยเห็นภูหยิบเจ้าสิ่งนี้ออกมาใส่เลย เขาเห็นใส่อีกเรือนตลอด พลิกซ้ายพลิกขวาเพราะสวยมากจนนึกอยากได้แล้วลองเสริจหาดูว่ายี่ห้ออะไรและรุ่นอะไร คราวนี้คินขมวดคิ้วหนัก
“เป็นของปลอมที่ก็อปเหมือนมากเลยนะ” พึมพำกับตัวเองเพราะราคาที่หาเจอมันคือเลขเจ็ดหลัก
หันมาสำรวจกระเป๋าของภูอีกครั้งก่อนต้องส่ายหน้า
“ถุงยางอนามัยไม่ได้ใช้เรียนนะ หมกมุ่น” นึกย้อนไปถึงภาพที่ภูหิ้วผู้หญิงแปลกหน้าแล้วคินขนลุก
นี่ถ้าสนิทกันกว่านี้เขาจะสอนพี่มันถึงเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ให้
ถึงใส่ถุงยางก็มีสิทธิติดได้หลายโรคนะ
...แต่ไม่น่าจะมีโอกาสได้สอนอะ เพราะไม่น่าจะได้สนิทกัน...
# # # # # # # #
อุ้บๆๆๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi]