เอซกระโจนเข้าใส่เย่เทียนราวกับสัตว์ป่าตัวหนึ่ง แต่การโจมตีของเอซค่อนข้างเฉียบคม ไม่ว่าจะเป็นท่าทางหรือพละกำลังต่างก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
แต่เขากลับมองข้ามเรื่องหนึ่งไป นั่นก็คือฝีมือของเย่เทียน
การมาอิตาลีในครั้งนี้ของเย่เทียนนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องเจอกับผู้มีพลังพิเศษหลากหลายรูปแบบ แถมคนเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นมิตรกับเขา ครั้งนี้ได้พบกับโอกาสที่หายากที่จะได้ศึกษาสายเลือดพิเศษ เขาจึงยังไม่ได้แสดงพลังที่แท้จริงออกมาไม่อย่างนั้น ถ้าเขาเกิดลงมือแล้วทำให้อีกฝ่ายเละขึ้นมา แล้วยังจะให้ศึกษาอะไรอีก!
“ความเร็วใช้ได้ แค่แรงน้อยไปหน่อย!” เย่เทียนเริ่มวิจารณ์อย่างใจเย็น พร้อมทำการหลบออกอย่างสบายๆ
พอเห็นอย่างนั้น รูม่านตาของเอซก็หดเล็กลง เกิดอะไรขึ้น ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้แล้ว แต่ทำไมหมอนี่ยังยิ้มออกมาได้อีก?
ประเด็นคือเขามองไม่เห็นความหวาดกลัวในแววตาของเย่เทียนเลย!
จุดนี้ต่างหากที่ทำให้เขารับไม่ได้ที่สุด
“บัดซบ! ทำไมแกยังหลบได้อีก!” เอซคำรามออกมาอย่างไม่พอใจ คนบ้านเดียวกันย่อมรู้เรื่องของคนบ้านเดียวกันดี พลังจากบรรพบุรุษแห่งเขาในตัวเขาสามารถเพิ่มพลังโจมตีให้เขาได้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ นี่ถือเป็นผู้มีพรสวรรค์ในตระกูลที่พบเจอได้ยากแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่มีทางได้เลื่อนเป็นมาร์คริสหรอก
สายเลือดบริสุทธิ์กับฝีมือที่เก่งกาจทำให้เขาภาคภูมิใจในตัวเองมาก แต่วันนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่เทียนกลับถูกทำร้ายอย่างไม่ปรานี ไอ้หมอนี่มันเอาแต่ยิ้ม แต่ทำไมรอยยิ้มนั่นมันถึงดูบัดซบก็ไม่รู้!
เย่เทียนหรี่ตาลง “พูดแล้วคุณอาจจะไม่เชื่อ แบบคุณนี่ผมใช้แค่มือเดียวก็สู้ได้แปดคนเลย!”
“ขี้โม้!” เอซยื่นมือไปหาไม้เท้าที่อยู่ข้างๆ ภายใต้การดึงดูดของก๊าซเลือดทำให้มันลอยเข้ามาในมือ จากนั้นก็กระแทกเบาๆ กระบี่สีเลือดเล่มยาวก็ถูกเขาดึงออกมา
“เอ๋? น่าสนใจนี่!” พอเย่เทียนได้เห็นอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลง จังหวะที่สวนกันก็เหลือบไปเห็นดาบถังเล่มหนึ่งวางอยู่บนเตาผิง
เป็นดาบถังแบบจีนของแท้ แถมดูแล้วยังค่อนข้างเก่าแก่ด้วย
เย่เทียนสับขาอย่างต่อเนื่อง อาศัยจังหวะที่หลบการโจมตีเขี่ยดาบถังที่อยู่บนเตาผิงขึ้นมา ใช้มือกะน้ำหนักดูแล้วพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
พอฝีมือพัฒนามาถึงขั้นนี้ ความเข้าใจในอาวุธของเย่เทียนก็เพิ่มขึ้นอีกระดับ ถึงเขาจะถนัดการใช้หมัดสู้มากกว่า แต่เดิมทีการต่อสู้มันก็เป็นการผสมผสานกันอยู่แล้ว
ดาบถังสะเทือน เย่เทียนชิงโจมตีก่อน
ด้วยฝีมือของเขา ในสายตาของเอซการโจมตีจากดาบถังเป็นเพียงแค่ลำแสงเยือกเย็นที่พุ่งผ่าน จากนั้นก็รู้สึกตกใจ จากนั้นก็ยกแขนขึ้นมาปัดดาบถังที่แทงเข้ามาทิ้ง
เอซสบถออกมาในใจอย่างจนปัญญา หมอนี่เป็นใครกันแน่ ทำไมถึงแข็งแกร่งขนาดนี้!
หรือครั้งนี้เขาจะถูกคนหลอกเข้าแล้ว? ต้องรู้ก่อนว่าฝีมือที่เย่เทียนแสดงออกมานั้นมันทำให้รู้สึกสิ้นหวังแค่ไหน ไม่ว่าเขาจะปลดปล่อยพลังออกมามากแค่ไหน อีกฝ่ายก็เหมือนจะไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร
ท่าทางนั่นไม่ต่างอะไรกับแมวที่จับเหยื่อได้ ทั้งๆที่สามารถกัดให้ตายในทีเดียว แต่กลับมีความสุขกับการที่ได้เห็นเหยื่อตัวสั่นอยู่ที่ปลายนิ้ว
เขาที่เป็นถึงผู้มีพรสวรรค์ของสายเลือดพิเศษกลับถูกมองเป็นแค่เหยื่อ เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง!
ภายใต้ความรู้สึกที่ขุ่นเคือง ดูเหมือนว่าพลังของเอซจะเพิ่มพูนขึ้น กระบี่สีเลือดในมือโบกสะบัดอย่างใช้ได้ ส่วนทางเย่เทียนก็กำลังทำความคุ้นเคยกับดาบถังในมือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่