“คุณเย่……”
เมื่อเห็นเย่เทียนที่ค่อยๆ เดินออกมา สีหน้าของหลิวชิงก็เปลี่ยนไปและอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
แม้จ้างตงก็หันมาและขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
"นี่แกอยากตายมาเลยเหรอ? ยังไม่รีบถอยกลับไปอีก!"
เขารู้เพียงเหล่ยซิงไห่คนนี้รับมือยากจริงๆ ส่วนเย่เทียนที่เดินออกมาคนนี้สงสัยอยากตายจริงๆ แล้ว?
"คนที่อยากตายไม่ใช่ผม แต่เป็นคุณมากกว่านะ"
เย่เทียนถอนหายใจและไม่ได้สนใจเขาด้วยซ้ำ เมื่อเดินผ่านผู้คน สายตาก็จับจ้องไปที่เหล่ยซิงไห่อย่างนิ่งสงบ
เหล่ยซิงไห่ที่กลับมาจากต่างประเทศ เพียงเพราะต้องการชำระแค้นกับหลิวชิงเท่านั้น
แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีคนรนหาที่ตายในเวลานี้ เขาได้แต่หัวเราะออกมาอย่างไม่คาดคิด
"แล้วแกเป็นใครอีก?"
"คุณไม่ต้องสนใจหรอก ว่าผมจะเป็นใคร ถ้าคืนนี้คุณยอมถอยไปแต่โดยดี แล้วรับปากว่าจะไม่กลับมาที่เจียงหนันอีก แล้วผมจะปล่อยคุณไป"
เย่เทียนตอบเบาๆ ราวกับว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องเล็กๆ เรื่องหนึ่ง
"จะให้ข้ายอมแพ้? แล้วแกจะปล่อยข้าไปงั้นเหรอ?"
เหล่ยซิงไห่ถึงกับตะลึง หลังจากตั้งสติได้ เขาก็หัวเราะออกมาดังๆ เหมือนกับว่ากำลังฟังเรื่องตลกที่สุดในโลกอย่างไรอย่างนั้น
ไม่นานหลังจากนั้น เสียงหัวเราะก็หยุดลง และดวงตาของเหล่ยซิงไห่ก็ค่อยๆ เย็นเยือกลง
"ไอ้หนู อายุน้อยๆ แต่ก็บ้าบิ่นไม่เบาเหมือนกันนะ! ในเมื่อเป็นแบบนี้ ข้าจะขอเชือดไก่ให้ลิงดูก็แล้วกัน"
ดวงตาของเหล่ยซิงไห่เต็มไปด้วยความเย็นชาและพูดต่ออย่างเคร่งขรึมว่า "แต่แกไม่ต้องห่วงหรอกนะ ข้าจะไม่ฆ่าแกหรอก แต่ข้าจะตัดแขนตัดขาของแกก่อน ปล่อยให้แกเป็นคนไร้ประโยชน์ไป! แล้วรอข้าจัดการกับคนทั้งหมดที่เหลือ แล้วข้าจะกลับมาทรมานแกให้ตายอย่างช้าๆ!"
"เป็นไงล่ะ รู้สึกน่าตื่นเต้นไม่เบาเลยใช่ไหม?"
เมื่อพูดจบ สีหน้าของผู้คนในที่เกิดเหตุก็เปลี่ยนไป
ในสถานการณ์แบบนี้ เหล่ยซิงไห่ยังกล้าพูดจาอวดดี ซึ่งมีสองเหตุผลเท่านั้น หนึ่งคือเขาเป็นคนโง่จริงๆ สองคือเขามีที่พึ่งพิงอยู่แล้ว!
หลิวชิงมองไปรอบๆ และรู้สึกได้ว่าเหล่ยซิงไห่ไม่ได้ล้อเล่นอย่างแน่นอน
จากนั้นเขาเอามือแตะเอวโดยจิตใต้สำนึกของเขา เพราะที่นั่นมีปืนพกของเขาซ่อนอยู่ ซึ่งก็เพื่อเหตุฉุกเฉินเท่านั้น
ส่วนจ้างตงได้แต่ขมวดคิ้วแน่นๆ และเกร็งไปทั้งตัวเพื่อเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ในทุกเมื่อ
ในสายตาของเขา เย่เทียนก็เหมือนคนมาเพื่อเล่นตลกเท่านั้น คนแบบนี้แค่หมัดเดียวก็ไม่อาจต้านทานได้หรอก
แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้คิดจะห้ามใคร
เพราะท้ายที่สุดแล้ว เหล่ยซิงไห่ก็ยังแข็งแกร่งมาก และเขาก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าจะเอาชนะเหล่ยซิงไห่ได้
แต่ถ้าเย่เทียนพอมีฝีมืออยู่บ้าง ให้เขาไปผลาญกำลังของศัตรูบ้างก็เป็นเรื่องไม่เลวเหมือนกัน
เย่เทียนถอนหายใจแล้วพูดว่า "คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผมหรอก ยอมแพ้ไปเถอะ"
เมื่อเหล่ยซิงไห่ได้ยินเช่นนี้ เขาก็โกรธมากและยิ้มพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแกงั้นเหรอ? แกรู้ไหมว่าข้าแข็งแกร่งแค่ไหน ข้าเรียนกับผู้แข็งแกร่งระดับดิน ฝึกฝนอย่างหนักในต่างประเทศมากว่าสิบปี ถึงแม้ความสามารถจะยังไม่เพียงพอ แต่ตอนนี้ฝีมือระดับดำก็อยู่แค่อ้อมเท่านั้นแล้ว”
"จะให้ฆ่าแกงั้นเหรอ ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากด้วยซ้ำ ไม่ต้องเสียแรงอะไรหรอก!"
เขาพูดอย่างตรงไปตรงมา และทำให้จ้างตงถึงกับยืนทื่ออยู่กับที่
“นักบู๊ระดับเหลืองขั้นสูงสุด?”
เขาถึงกับกลืนน้ำลาย ต้องรู้ว่ามีนักบู๊นั้นมีเป็นหมื่นๆ และหนึ่งในหมื่นเท่านั้นที่จะเข้าสู่นักบู๊ที่มีระดับได้!
จ้างตงที่เป็นศิษย์จากแก๊งซิงยี่และฝึกฝนอย่างหนักมามากกว่า 30 ปี เขาถึงจะก้าวสู่แดนเหลืองระดับล่างได้เท่านั้น
แต่ว่า เหล่ยซิงไห่ที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ เขากลับเป็นถึงยอดฝีมือระดับเหลืองชั้นสูงสุดเลยหรือ?
แม้ฝีมือระดับสูงกับระดับล่างจะต่างกันแค่ระดับเดียว แต่ฝีมือนั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
พูดง่ายๆ ก็คือ หมัดเดียวของนักบู๊แดนเหลืองระดับล่างนั้นสามารถสร้างความเสียหายให้กับกำแพงเพียงฟุตเดียวเท่านั้น
ส่วนระดับเหลืองชั้นสูงนั้น แค่ชกเบาๆ ก็สามารถเจาะทะลุกำแพงได้แล้ว และนี่ก็คือความแตกต่างที่ยากที่จะจินตนาการได้!
จ้างตงเริ่มสลดใจขึ้นเรื่อย ๆ
“พี่ใหญ่หลิว ถ้าเรื่องที่เขาพูดเป็นความจริง เกรงว่าพวกเราทุกคนต้องได้จบชีวิตที่นี่แน่!"
จ้างตงพูดอย่างขมขื่น สำหรับระดับเหลืองชั้นสูงนั้น ฝีมืออย่างเขาสิบคนก็ไม่อาจสู้ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่