ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 59

ในขณะที่ความเงียบครอบงำ สายตาของทุกคนที่มองหวางลี่ก็เหมือนกำลังมองเทพองค์หนึ่งอยู่

ถ้าหากว่าการปรากฏตัวในครั้งแรกของหวางลี่เป็นแค่การเปิดตัวที่ทำให้ทุกคนต้องตกใจ แสดงว่าการหยุดกระสุน และการฆ่าคนด้วยอากาศก็เป็นแค่การเชือดไก่ให้ลิงดูเท่านั้น!

วิธีการที่น่ากลัวเช่นนี้ ทำเอาผู้คนต่างก็พากันกลัวจนตัวสั่นไปหมด

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผู้อาวุโสหวางทรงพลังจริงๆ ครับ ฝ่ามือกลางอากาศก็สามารถฆ่าคนทั้งคนได้ เจียงหนันที่กว้างใหญ่นี้จะมีใครทำได้อีก?”

เชิ่งหู่รู้สึกอารมณ์ดีมาก จากนั้นหันมองไปที่หลิวชิงอย่างเย็นชาและตะคอกขึ้น “หลิวชิง เพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่เราเป็นคู่แข่งกันมาตลอด คืนนี้ผู้อาวุโสหวางอารมณ์ดี จะไว้ชีวิตแกสักครั้ง รีบคุกเข่าต่อหน้าท่านซะ!”

ทันทีที่พูดจบ หลิวชิงก็สะท้านไปทั้งใจ

เขาเห็นฝีมือที่น่าตกใจของหวางลี่แล้ว และเขารู้ว่าตัวเขาไม่มีทางสู้กับศัตรูได้อย่างแน่นอน

ถ้าหากยังไม่รู้ทันเหตุการณ์ มั่นใจได้เลยว่าคนต่อไปที่ต้องตายก็คือเขา!

ซึ่งนี่ก็ทำให้เขาไม่กล้าคิดอะไรมากอีก และเขาก็เตรียมเดินเข้าไปเพื่อยอมจำนนต่อหน้าหวางลี่

ท้ายที่สุดแล้ว ในโลกนี้ใบนี้ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะได้รับการยกย่องได้ กำปั้นของใครแข็งแกร่งกว่า ผู้นั้นจึงจะมีอำนาจในการพูดมากกว่า

เสียงที่ดังกว่าย่อมสยบทุกสิ่ง!

“นักบู๊ระดับดำขั้นต่ำ ฝีมือของคุณถือว่าไม่เลวเลยนะ สามารถหยุดกระสุนได้ คงจะฝึกฝนทักษะกังฟูมาไม่น้อยเลยสิ?”

และในขณะนี้เอง เสียงแผ่วเบาก็ดังขึ้น

ทุกคนหันมองไปทันที หันมองไปจากเสียงที่ดังขึ้นนั้น และพวกเขาก็พบว่าเป็นเสียงของเย่เทียน!

จ้างตงยังคลานอยู่บนพื้น ก่อนหน้านี้เขาไม่กล้าส่งเสียงใดๆ เลย แต่จู่ ๆ เย่เทียนก็กล้าที่จะประเมินผู้แข็งแกร่งระดับดำแบบนี้ ถ้าไม่ระวังคำพูดแล้วทำให้อีกฝ่ายโกรธ มันจะไม่ทำให้ทุกคนต้องตายกันหมดหรือ?

“ไอ้หมอนี่ แกรู้อะไรบ้างไหม ยังกล้าประเมินความสามารถของผู้แข็งแกร่งระดับดำอีกเหรอ?”

เขาได้แต่คิดอยู่ในใจ แต่ไม่กล้าพูดออกมา คิดว่าเลือกที่จะนั่งดูเฉยๆ จะดีกว่า

ส่วนเหล่ยซิงไห่ที่ถูกเย่เทียนต่อยเหมือนหมาก็หัวเราะเยาะอย่างเงียบๆ และเฝ้าดูเย่เทียนที่กำลังสร้างความขุ่นเคืองกับหวางลี่

“ใช่ ข้าฝึกทักษะกังฟูมาไม่น้อย แต่ดูแล้วฝีมือของนายก็ไม่เลวเหมือนกันนะ เป็นศิษย์น้องของข้าน่าจะเหมาะสมที่สุด”

หวางลี่ไม่ได้โกรธ แต่พยักหน้าและพูดอย่างเย่อหยิ่ง

นักบู๊ระดับดำขั้นต่ำอย่างเขา ถึงแม้กระสุนจะไม่สามารถทำอะไรเขาได้ แต่ไม่มีอะไรง่ายอย่างที่คิด อย่างน้อยก็ต้องใช้ความพยายามมากเหมือนกัน

เย่เทียนที่ฟังคำพูดของเขาก็หัวเราะออกมาเบาๆ

คิดว่าเขาเป็นใครกันแน่? เขาเป็นถึงราชานักฆ่า หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของเทพสังหารเชียวนะ!

แต่หวางลี่คนนี้เป็นแค่หัวโบราณที่เอาแต่สั่งสอนรุ่นน้อง ช่างตลกสิ้นดี

หวางลี่สังเกตเห็นสีหน้าของเย่เทียนนั้นเปลี่ยนไป เขาจึงขมวดคิ้วแล้วถามอย่างไม่พอใจ "หัวเราะอะไรของนาย?"

“ผมหัวเราะคุณไง ฝีมือไม่เท่าไหร่ แต่อยากรับผมเป็นลูกศิษย์ นี่คุณเล่นตลกคณะไหนครับ?”

“เหอะ ๆ ฝีมือนายพอใช้ได้ก็จริง แต่ในสายตาข้ามันก็ไม่เท่าไหร่หรอก เพราะข้าเป็นถึงนักบู๊ในระดับดำ แล้วทำไมจะไม่มีสิทธิ์รับนายเป็นศิษย์ล่ะ?”

หวางลี่เหลือบมองเขาและถามด้วยความสงสัย

“น่าเสียดายเหมือนกัน เพราะในสายตาของผมแล้ว การที่จะเอาชนะนักบู๊ระดับดำนั้นก็แค่หมัดเดียวเท่านั้น”

เย่เทียนยักไหล่และตอบอย่างเฉยเมย

และคำพูดนี้ก็ทำให้ทุกคนต้องตะลึงอีกครั้ง

ต้องเข้าใจว่าทุกคนเพิ่งเห็นหวางลี่ฆ่าคนด้วยอากาศ และยังหยุดได้แม้แต่กระสุน ความแข็งแกร่งแบบนี้ใครจะเทียบได้

ส่วนเย่เทียนคนนี้ ถึงแม้เขาจะจัดการเหล่ยซิงไห่ไปแล้ว แต่ต่อให้เขาเก่งแค่ไหนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหวางลี่อยู่ดี

ในสถานการณ์แบบนี้แล้ว เขาคิดอย่างไงถึงกล้าพูดจาโอ้อวดแบบนี้!

“ไอ้หมอนี่รนหาที่ตายจริงๆ แหะ!”

จ้างตงตะโกนในใจดังๆ ราวกับว่าเขาได้เห็นชะตากรรมของเย่เทียนแล้ว และสายตาที่มองเย่เทียนก็เหมือนกำลังมองศพร่างหนึ่ง

เหล่ยซิงไห่ก็หัวเราะเยาะในใจเช่นกัน เขาก็คิดว่าเย่เทียนคนนี้ถึงคราวตายแน่

ฝีมืออย่างนักบู๊ระดับดำ คนธรรมดาทั่วไปจะต่อกรได้งั้นหรือ?

“เฮ้อ คุณเย่คงต้องตายแน่ แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะเขาตายด้วยน้ำมือของนักบู๊ระดับดำอย่างหวางลี่ เชื่อว่าถ้าตระกูลฉินรู้เรื่องนี้เข้า พวกเขาก็ไม่กล้าโทษเราหรอก”

หลิวชิงถอนหายใจและพึมพำกับตัวเองแต่ไม่กล้าพูดออกมา

ส่วนเชิ่งหู่นั้นรู้สึกโกรธจนลุกเป็นไฟ เขาเคยถูกเย่เทียนเล่นงานจนขายขี้หน้ามาแล้ว และเขาก็ไม่พอใจเย่เทียนคนนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่