ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 103

สรุปบท บทที่ 103 มีสิทธิ์อะไรมาวิจารณ์ที่นี่: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

บทที่ 103 มีสิทธิ์อะไรมาวิจารณ์ที่นี่ – ตอนที่ต้องอ่านของ ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

ตอนนี้ของ ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ โดย Light-Knight ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 103 มีสิทธิ์อะไรมาวิจารณ์ที่นี่ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“เย่เทียนคนนี้คือใครกันแน่?”

เยี่ยนจื่อเฉินมองดูเย่เทียนขับรถเข้าไปในคฤหาสน์ เขาแทบคลั่ง

ถึงกับสงสัยว่าข้อมูลของตัวเองมีอะไรผิดพลาดหรือไม่ ถ้าไม่อย่างนั้น ลำพังลูกชายที่ถูกตระกูลเย่ทอดทิ้งเพียงคนเดียว จะได้รับการปฏิบัติอย่างเคารพนับถือจากคุณชายใหญ่ตระกูลฉินได้อย่างไร?

หลินอ้าวเสว่ยังมองไปที่เงาร่างที่กำลังไกลห่างออกไปของเย่เทียนด้วยแววตาที่ซับซ้อน ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

“พี่จื่อเฉิน ฉันว่าคุณอย่าไปขัดแย้งกับเขาเลยดีกว่า”

ในเวลานี้ ฉินเจิงหรงส่งรอยยิ้มอันขมขื่นมาให้

เยี่ยนจื่อเฉินหันมองออกไปทันที แล้วถามเสียงต่ำ “เขาเป็นใครกันแน่?”

“อันที่จริงผมก็ไม่รู้อะไรมาก แต่ผมรู้อยู่เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือเย่เทียนช่วยชีวิตคุณปู่ของผมไว้! อีกอย่างความหมายของคุณปู่ ดูเหมือนว่ามีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถช่วยตระกูลฉินของเราได้ ดังนั้น…”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เยี่ยนจื่อเฉินก็เข้าใจในทันใด “ไม่น่าแปลกใจเลย คุณก็เลยไม่กล้าหาเรื่องเขาใช่ไหม?”

เขาหายสงสัยแล้ว เมื่อก่อนยังคิดว่าเย่เทียนมีภูมิหลังใหญ่โตอะไร ฉินเจิงหรงจึงปฏิบัติต่อเขาราวกับว่าเป็นพี่ชายแท้ๆ

ตอนนี้มาคิดๆ ดูก็คงมีเพียงเท่านี้ เย่เทียนยังคงเป็นคนตัวเล็กๆ อย่างดีก็ได้แค่ป้ายกำกับว่าเป็นคนที่รักษาโรคได้เพิ่มขึ้นมา

แต่หลินอ้าวเสว่กลับหน้านิ่วคิ้วขมวด เธออาศัยอยู่ในเจียงหนันมาหลายปี เรียกได้ว่าไปมาหาสู่กับเย่เทียนตลอดเวลา เมื่อครั้งยังเป็นนักเรียนก็ไม่ได้เรียนแพทย์ พูดอีกอย่าง ต่อให้เป็นแพทยศาสตร์ แต่ด้วยธรรมชาติของเย่เทียนที่ไม่มีความรู้ความสามารถ เขาจะเรียนรู้ทักษะทางการแพทย์ได้อย่างไร?

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องรักษาอาการป่วยของนายท่านฉินให้หายดีเลย!

หลินอ้าวเสว่รู้สึกโดยสัญชาตญาณว่าเย่เทียนมีความลับ แต่เธอนึกไม่ออกว่าความลับนี้มันคืออะไร

“ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ว่าแต่ว่า พี่จื่อเฉินทำไมจู่ๆ ถึงมาที่บ้านผมล่ะ?”

ฉินเจิงหรงจงใจเปลี่ยนเรื่อง ยิงคำถามใส่เยี่ยนจื่อเฉิน

เยี่ยนจื่อเฉินยักไหล่แล้วพูดว่า “ตอนแรกผมกำลังจะออกไปจากเจียงหนันแล้ว แต่พ่อของผมดันโทรมาหาก่อนไป บอกว่าเขาจะมาที่นี่เพื่อมาพบปรมาจารย์ปรุงยาท่านหนึ่ง หากเราสร้างสัมพันธ์อันดีกับปรมาจารย์ปรุงยาท่านนี้ได้ ตระกูลเยี่ยนของเราก็จะพัฒนาขึ้นอีกก้าว!”

พอพูดถึงเรื่องนี้ เยี่ยนจื่อเฉินก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

พ่อของเขาได้พูดไว้อย่างชัดเจน ยาที่ปรุงโดยปรมาจารย์ปรุงยาท่านนี้ล้ำค่ามาก ถึงขั้นสามารถเปลี่ยนร่างของนักบู๊ได้ ถ้าเขาสามารถดึงปรมาจารย์ปรุงยาท่านนี้ให้มาเป็นพวกได้ ตำแหน่งของเขาในตระกูลเยี่ยนก็จะเลื่อนสูงขึ้นอย่างแน่นอน!

“ฮึ! ลำพังแค่เย่เทียนคนเดียวเท่านั้น จะมีค่าอะไร? ปรมาจารย์ปรุงยาต่างหากสำคัญที่สุด!”

เยี่ยนจื่อเฉินแอบพ่นลมหายใจแรง คิดวางแผนจะชำระบัญชีกับเย่เทียนหลังจากที่เขาทำงานเสร็จ

“ปรมาจารย์ปรุงยา?”

ฉินเจิงหรงตกตะลึง เขารู้สึกเหมือนเคยได้ยินเรื่องนี้มาจากที่ไหนสักแห่ง แต่ตอนนี้นึกไม่ออก

……

ส่วนเย่เทียน ในเวลานี้เขาได้เข้าไปในคฤหาสน์แล้ว

เพราะเรื่อง “ปรมาจารย์ปรุงยา” ฉินเจิ้ง ซีเหวินชิง และผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนคนอื่นๆ จึงมารวมตัวอยู่ที่นี่

แต่เมื่อเย่เทียนเข้ามา ฉินเจิ้งก็ลุกขึ้นมาทันที แล้วกล่าวทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม “คุณเย่ คุณมาแล้ว”

เขาพูดพลางสาวเท้าก้าวไปข้างหน้า ท่าทีเช่นนี้แตกต่างไปจากครั้งที่แล้วโดยสิ้นเชิง

คนอื่นๆ ก็พากันยืนขึ้นเช่นกัน นำโดยซีเหวินชิง พร้อมใจกันคารวะแล้วกล่าวด้วยความเคารพ “หมอเทพเย่ได้โปรดชี้แนะ!”

“หมอเทพเย่ ครั้งที่แล้วพวกเราพูดจาหยาบคาย ได้โปรดอย่าลดตัวลงมาถือสาคนแก่อย่างพวกเราเลยนะคะ”

พวกเขาเรียกได้ว่าเป็นบุคคลผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีน เมื่อเผชิญหน้ากับเย่เทียน กลับเป็นเหมือนเด็กที่กระทำผิด

เย่เทียนอดหัวเราะไม่ได้ รู้ว่าตัวเองเป็นคนให้ยา ทำให้พวกเขาเปลี่ยนความคิดที่มีให้ตัวเขา

“มีแน่นอน หนึ่งคือหยุดการฝึกฝน สองคือฝึกฝนอย่างสมบูรณ์แบบ!”

เย่เทียนย้ำสิ่งที่เขาเคยพูดกับฉินโล่หยินอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อได้ยินดังนั้นฉินเจิ้งก็ฝืนยิ้มออกมา “ผมฝึกพลังภายในวรยุทธที่ทางตระกูลสืบทอดกันมาหลายสิบปี จะบอกให้เลิกง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง? ไม่ปิดบังคุณเย่ ผมพึ่งพาหมัดนี้เพื่อเอาชนะตระกูลฉินที่ยิ่งใหญ่ของผมมาทีละขั้น!”

“เพียงแต่ว่า เกรงว่าจะไม่มีใครในโลกนี้ที่สามารถฝึกฝนอย่างสมบูรณ์แบบได้ใช่ไหม?”

อย่างไรก็ตาม ในเส้นทางวรยุทธ การจะสร้างพลังภายในวรยุทธออกมา มันก็ไม่ง่ายแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการทำให้สมบูรณ์แบบเลย

หัวใจของเย่เทียนสั่นไหว เรื่องที่คนอื่นทำไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาทำไม่ได้

ในชาติก่อนเขาเป็นผู้แข็งแกร่งระดับฟ้า และ “คัมภีร์หวง” ที่เขาใช้ฝึกฝนนั้นกว้างขวางและลึกซึ้ง การฝึกฝนพลังภายในวรยุทธโดยทั่วไป เขาเพียงแค่มองปราดเดียว ก็สามารถรู้ข้อบกพร่องของมันได้แล้ว

เย่เทียนลองคิดดูแล้วพูดว่า “วิธีการฝึกฝนให้สมบูรณ์ไม่ถือว่ายากมากนัก ถ้านายท่านฉินเชื่อมั่นในตัวผม ผมจะลองดู”

“คุณสามารถทำให้วรยุทธที่สืบทอดต่อกันมาของตระกูลผมสมบูรณ์ได้งั้นหรือ?”

คราวนี้ฉินเจิ้งตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง

คนอื่นๆ ก็มีสีหน้าความประหลาดใจเช่นกัน มองมาที่เย่เทียนอย่างสงสัย

เขาไม่เพียงแต่เก่งด้านการแพทย์เท่านั้น แต่ยังเป็นผู้แข็งแกร่งด้านวรยุทธที่ไม่เปิดเผยตัวด้วยงั้นเหรอ?

“น่าขำ แค่เด็กตัวเล็กๆ คนเดียว ยังกล้าคุยโวแบบนี้อย่างคาดไม่ถึง คุณรู้ไหมว่าการฝึกวรยุทธให้สมบูรณ์ จำเป็นต้องบรรลุถึงวรยุทธระดับไหน? อย่าว่าแต่คุณเลย แม้แต่อาจารย์ของผมก็ยังไม่กล้าคุยโวเรื่องนี้ แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาพูดเรื่องไร้สาระที่นี่?”

ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงแสบแก้วหูดังออกมาจากประตูอย่างฉับพลัน!

ทุกคนหันกลับมามอง ก็เห็นชายหนุ่มรูปงามแต่งตัวหรูหรา เดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างผึ่งผาย!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่