ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1097

อยู่ต่อหน้าสายตาดั่งสัตว์ร้ายของแฟลิกส์ ออนนีฮานไม่ได้รู้สึกกลัวสักนิด แค่โค้งตัวอย่างนอบน้อม ไม่มีท่าทียั่วยุอีกฝ่ายแม้แต่น้อย

“หึ!”

แฟลิกส์ลอยมาอยู่ตรงหน้าออนนีฮาน ยื่นมือมาแล้วจับไปที่คอของออนนีฮาน จากนั้นก็ค่อยๆ ยกเข้าขึ้นมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า “แกพูดว่าไงนะ?”

ถึงออนนีฮานจะถูกแฟลิกส์บีบคอก็ไม่ได้แสดงความหวาดกลัวออกมาแต่อย่างใด แต่กลับยิ้มหนักยิ่งกว่าเดิม “เชคอฟกับชาวตะวันออกพวกนั้นต้องตาย! จริงด้วย ยังมีไอ้แก่พวกนั้นในเผาเลือดด้วย!”

“ฉันบอกแล้ว ทุกอย่างต้องรอหลังงานประชุมยอดมนุษย์ก่อน!” เสียงคำรามของแฟลิกส์เหมือนราวกับสิงโตที่โกรธเกรี้ยว

สะเทือนจนทั้งวิหารเกิดการสั่นไหวขึ้นมาเบาๆ

ออนนีฮานยังคงยิ้ม ไม่มีความสำนึกที่ถูกควบคุมแม้แต่น้อย “ผมจะฆ่าพวกมัน!”

แฟลิกส์เกลียดเรื่องที่ไม่ยอมอยู่ในการควบคุมแบบนี้ที่สุด ด้วยเหตุนี้เขาจึงออกแรงที่มือมากขึ้น เพื่อจะทำให้ออนนี้ฮานหวาดกลัว

เกล็ดขนาดเล็กชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นที่คอของออนนีฮาน ป้องกันแรงที่ส่งจากฝ่ามือของแฟลิกส์ การต่อต้านอันเงียบงันทำให้แฟลิกส์โมโหยิ่งกว่าเดิม

“หึ!”

สุดท้ายแฟลิกส์ก็ทำเสียงฮึดฮัด ท่านขุนผู้ตัดสินคดีความผู้เกรี้ยวกราดที่คนอื่นต่างรู้จักตอนนี้กลับยอมอ่อนข้อ!

“อย่าให้กระทบกับแผนการของสันตะปาปา!”

แฟลิกส์พูดออกมาอย่างไม่ชอบใจ จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วเดินจากไป ทิ้งออนนีฮานให้นั่งอยู่กลางวิหาร ออนนีฮานที่กำลังก้มหน้าได้เผยรอยยิ้มที่ไม่ปกติออกมา แววตาที่ดีใจไม่สามารถควบคุมได้ นี่มันเป็นการลองเชิง และการลองในครั้งนี้เขาเป็นฝ่ายชนะ!

โชคชะตาให้อยู่ในกำมือของตัวเองยังไงก็ดีกว่า!

ออนนีฮานยื่นมือออกไป ออนนีฮานยื่นมือขวาออกมา กลางฝ่ามือมีอักขระไฟสีทองปรากฏขึ้น แต่ข้างๆ ของอักขระไฟสีทองพวกนี้ มีเส้นใยสีแสดงมากมายล้อมรอบอยู่ เส้นใยพวกนี้คอยกัดเซาะอักขระไฟนั่นอย่างต่อเนื่อง

ทุกครั้งที่อักขระไฟกับเส้นใยสัมผัสกัน ร่างกายของออนนีฮานก็จะกระตุกเบาๆ แต่ใบหน้าของออนนีฮานกลับเผยรอยยิ้มที่บางเบาออกมา ไม่มีใครสามารถรับรู้ถึงความเจ็บปวดแบบนี้ แต่ความเจ็บปวดที่เขาเคยได้รับมันหนักหนากว่านี้เขาไม่สนใจ!

เมื่อเทียบกับทางฝั่งเย่เทียนที่กำลังวุ่นวาย ในโถงบาปกำเนิดของเผ่าเลือดถือว่าสงบเงียบเชียบ

ที่นี่มีเก้าอี้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่สิบสามตัว ด้านหลังของเก้าอี้ตัวนี้สามารถบดบังคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าได้สบาย ส่วนคนที่นังอยู่บนเก้าอี้ก็หลับตาไม่พูดไม่จา บรรยากาศที่ตึงเครียดปะทุขึ้นในห้องโถงทันที

“เราทำเรื่องที่ผิดพลาดเรื่องหนึ่ง!” ในขณะที่ทุกคนกำลังนั่งเงียบ ในที่สุดชายชราที่นั่งอยู่ตรงกลางก็ได้พูดขึ้น

ซึ่งเขาก็คือ เจ้าชายซาร์ตันที่สามารถต่อกรกับสมเด็จพระสันตะปาปาได้ เป็นเผ่าเลือดที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนี้ ผลงานในการต่อสู้ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขาก็คือปะทะกับเสาแห่งแสงของสมเด็จพระสันตะปาปากับผู้พิพากษาใหญ่แล้วไม่ตาย

แต่หลังจากนั้นในทุกๆ ปีเจ้าชายซาร์ตันต้องทนทรมานกับความเจ็บปวดที่วิญญาณถูกเผาไหม้เป็นเวลาประมาณหนึ่งเดือน

การร่วมมือกับสันตะปาปาในครั้งนี้เขากำลังซ่อนตัวจำศีลอยู่ในที่ที่ไม่มีใครรู้ เขาจึงไม่รู้เรื่องนี้

ในตอนที่เขาได้รู้เรื่องออนนีฮานก็ถูกโมปัสซองต์จับไปที่สำนักงานผู้พิพากษาแล้ว

“ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นพวกคุณคดอะไรอยู่ ถึงอยากไปร่วมมือกับพวกคริสตจักร ตอนนี้ผลเสียมันได้ปรากฏออกมาแล้วและเราก็รับรู้ได้ สมเด็จพระสันตะปาปากำลังทำการทดลองที่อันตรายอยู่!”

“ถ้าการทดลองของเขาสำเร็จ ถึงตอนนั้นพวกเราใครก็หนีไม่พ้นทั้งนั้น!” เจ้าชายซาร์ตันสบถออกมาอย่างไม่ชอบใจ “ในเมื่อชาวตะวันออกพวกนั้นมาเพราะเรื่องนี้ ดูจากเป้าหมายเราก็สามารถลองร่วมมือกันได้”

“แต่ดูแล้วตอนนี้อีกฝ่ายจะเชื่อใจพวกหมาป่ามากกว่า!” ดยุคโบโดพูดพร้อมขมวดคิ้ว

“ยังไงความผิดพลาดก็ต้องมีคนรับผิดชอบ!”

เจ้าชายซาร์ตันขำออกมาเบาๆ จากนั้นร่างกายของดยุคโบโดก็ถูกเลือดกลุ่มหนึ่งห่อหุ้มไว้ภายใน

รูม่านตาของดยุคโบโดหดเล็กลง “เจ้าชาย นี่มัน…..”

“ตอนนั้นคนที่เห็นชอบกับการร่วมมือก็คือคุณ ในเมื่อออนนีฮานได้ถูกทอดทิ้งไปแล้ว แล้วทำไมคุณถึงยังอยู่?” เสียงของ เจ้าชายซาร์ตันค่อนข้างอ่อนโยน สัมผัสถึงความอาฆาตไม่ได้เลย แต่ดยุคโบโดกลับรับรู้ถึงความอันตรายมากมายกำลังปกคลุมเขาเอาไว้

มันทำให้รูม่านตาของเขาหดเล็กลง ร่างกายก็เริ่มสั่นเทาขึ้นมา

“จี๊ดจี๊ด คุณกลัวเหรอ? ทำไมต้องกลัวด้วย?” เจ้าชายซาร์ตันเห็นสภาพของเขาแล้วอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ จากนั้นก็ดีดๆ เสื้อของตัวเอง “ผมรู้ว่าคุณอยากขึ้นมานั่งในตำแหน่งของผมมาโดยตลอด มีความทะเยอทะยานมันก็ดี แต่คุณก็ต้องมีความสามารถนี้ด้วย!”

พูดจบเจ้าชายซาร์ตันก็ดีดนิ้วทีหนึ่ง เลือดสีแดงๆ นั่นห่อหุ้มดยุคโบโดเข้าไปทันที ภายในของกลุ่มเลือดที่หดเข้าและคลายออกนั่นมีเสียงครวญครางอันน่าสยดสยองดังออกมา ทำเอาขนลุกไปหมดเลย

เจ้าชายซาร์ตันทำเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่น่าใส่ใจ แถมยังหันมาพยักหน้ากับทุกคนด้วยรอยยิ้ม เหลือไว้เพียงแค่เสียงกรีดร้องของดยุคโบโดไว้ในห้องโถง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่