ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1114

วินซ์ยืนสบกับสายตาของบิชอปจำนวนมากขนาดนี้ก็ไม่ได้รู้สึกตื่นมาก ทั้งยังโค้งคำนับอย่างสุภาพ หลังจากนั้นก็หยิบเอาขวดที่บรรจุของเหลวสีน้ำเงินเต็มขวดใบหนึ่งออกมา

“ยาในขวดนี้ข้าเรียกมันว่ายาหลอนมรณะ！” วินซ์มองยาในขวดด้วยสายตาดูเคลิบเคลิ้ม “ผลข้อมูลที่ข้าได้มาจากห้องทดลอง ยาหลอนมรณะนี้มีฤทธิ์ทางยาได้ขนาดทำให้ท่านผู้พิพากษาที่เคารพอย่างสูงของพวกเราเข้าสู่ภวังค์หลับสนิท！”

ดูจากรอยยิ้มที่แสดงบนใบหน้าของวินซ์ พวกกลุ่มคนที่เคยชินอยู่ในวงการร้อยเล่ห์พันเหลี่ยมเหล่านี้ยังให้รู้สึกหนาว เด็กหนุ่มที่น่ากลัว เด็กหนุ่มที่ใจใฝ่สูง！

แต่ก็ต้องพูดกลับมาอีกที ถ้าไม่ใช่คนใจใฝ่สูงแล้วมีหรือจะเข้าตาพวกเขา？

“เจ้ามีความมั่นใจอย่างเด็ดขาดเลยหรือ？” เมเจอร์ขมวดคิ้วย่นเข้ามานิดหนึ่ง ถามย้ำให้ยืนยันอีกครั้ง

“ถูกต้อง！ความจริงข้าก็ได้ทดลองกับตัวของท่านผู้พิพากษาเองไปแล้ว โดยที่ท่านก็ไม่รู้ตัวเลย！” สายตาของวินซ์ทอประกายคึกคัก

“เจ้าบุ่มบ่ามเกินไปแล้ว！” เมเจอร์ได้ยินแล้วส่งเสียงฮึออกจมูกเบา ๆ วินซ์เป็นเด็กหนุ่มรุ่นใหม่ที่ดูดีที่สุดเท่าที่เห็นในหลายปีนี้ เพียงแต่หุนหันพลันแล่นไปหน่อยตามประสาวัยรุ่น ถ้าไม่ขัดเกลาให้ดีจะมีโอกาสผิดพลาดได้ง่าย

“น้อมรับการอบรมท่านบิชอป！” วินซ์รีบโค้งคำนับ ท่าทีนอบน้อม

“ถ้าหากเดินตามแผนจะต้องใช้เวลาแค่ไหน？”

“ช่วงนี้ท่านผู้พิพากษาร้อนใจมาก ก็ด้วยเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกองกำลังครูเสดแห่งคริสตจักรที่ท่านยากที่จะทำใจได้ ฉะนั้นตามที่ข้าคาดเดา พรุ่งนี้ท่านผู้พิพากษาจะต้องไปที่ห้องทดลองแน่นอน！” วินซ์โค้งตัวแล้วตอบ

“ดี！ถ้างั้นก็ให้เขาอยู่ที่นั่นเสียเลย！” เมเจอร์นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูด

บิชอปที่อยู่ข้างตัวของเขาท่านหนึ่งลังเลนิดหนึ่ง “ท่านสมเด็จพระสันตะปาปาดูเหมือนได้มีพระบัญชาให้แฟลิกส์เป็นผู้ดำเนินการงานประชุมใหญ่ยอดมนุษย์ ถ้าในระหว่างนี้มีอะไรผิดพลาดจะมีปัญหาอะไรไหม？”

พระสันตะปาปาในสายตาของพวกเขานั้นเปรียบดั่งจุติเทพ พวกเขาทำแบบนี้มีใครรับรองได้ว่าสมเด็จท่านจะไม่รู้？

“ทางด้านสมเด็จนั้นข้าจะไปทูลท่านเอง！วินซ์ อย่าให้มีการแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด！”

“ไม่มีเด็ดขาดขอรับ！” วินซ์ตอบด้วยสีหน้าหยิ่งด้วยศักดิ์ศรี

“ครั้งนี้เราจะมีอะไรผิดพลาดไม่ได้！ศักดานุภาพของกองทัพศักดิ์สิทธิ์จะต้องแสดงพลังให้ประจักษ์ ทุกท่านจะต้องอย่าทำอะไรให้มีการผิดพลาดเด็ดขาด！” เมเจอร์กวาดตามองรอบบริเวณด้วยสายตาหนาวเยือก แล้วก็โบกมือให้กับทุกคน

ประตูห้องลับที่ปิดสนิทอยู่เปิดออก บรรดาเหล่าบิชอปสูงอำนาจทั้งหลายแยกย้ายกันจากไป คงเหลือแต่เมเจอร์เอง

แต่เมเจอร์ก็ไม่ได้คิดที่จะติดต่อสมเด็จพระสันตะปาปาเลย เป็นคนที่อยู่ในสายสมเด็จพระสันตะปาปา เขาย่อมรู้เรื่องของสมเด็จพระสันตะปาปาดีมากกว่าแฟลิกส์

ความจริงแล้วในงานครั้งนี้สมเด็จพระสันตะปาปาไม่มีทางเสด็จออกมาได้！

นี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาทำอะไรออกไปอย่างย่ามใจ

ขอเพียงสามารถควบคุมแฟลิกส์ไว้อยู่ จัดการงานประชุมใหญ่ยอดมนุษย์นี้ให้ดำเนินไป ก็เทียบฐานะเท่ากับสมเด็จพระสันตะปาปาที่ไม่ค่อยได้ปรากฏให้เห็น เขาก็จะได้รับเกียรติภูมิที่สูงยิ่งขึ้น ถึงขั้นก้าวไปสู่การรับสวมมงกุฎ

ไม่มีใครยอมจะเป็นข้าทาสไปทั้งชาติ เมเจอร์อยู่ในตำแหน่งว่าที่สมเด็จพระสันตะปาปามาหกสิบปีแล้วเต็ม ๆ ！

ก็ยังดีว่า ในครั้งนี้สมเด็จพระสันตะปาปาหลงใหลอยู่กับหนังสือโบราณเล่มหนึ่ง จึงได้เปิดเป็นโอกาสให้กับเขา

ไม่เคยมีใครรู้ว่าเมเจอร์มีความคิดอะไรแบบนี้อยู่ มิฉะนั้นคงไม่มีบิชอปไหนกล้ามาร่วมวงกับเขาด้วยมากมายขนาดนี้ ล้มล้างสมเด็จพระสันตะปาปา？ความคิดนี้มันบ้าสิ้นดีจริงๆ ใครที่เป็นคนในคริสตจักรล้วนมีแต่จะไม่เห็นด้วย！