ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1123

ผู้คนไม่ค่อยคุ้นเคยกับเย่เทียน เพราะเย่เทียนได้วางแผนที่จะปกปิดตัวตนของเขาในครั้งนี้ บวกกับท่านจ้าวและคนอื่นๆ ได้มีน้ำใจนำทางให้ ดังนั้นเย่เทียนจึงเป็นคนแปลกหน้าสำหรับพวกเขา

แต่สำหรับกานโนเซน นากะนั้นไม่เหมือนกัน

ชายผู้นี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นหนุ่มสังคม ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องโถง ก็ไม่หยุดแจกนามบัตร อาจกล่าวได้ว่าขายตัวเองจนหมดเปลือก เกือบทุกคนในที่นี้รู้ว่านี่คือกลุ่มตัวแทนของประเทศหยิง

และดูเหมือนว่าเย่เทียนก็กระโดดออกมาจากตำแหน่งนี้เช่นกัน ให้ตายสิ? ถึงเวลาที่ประเทศหยิงจะมีนักรบที่แข็งแกร่งเช่นนี้ในประเทศแล้ว

ตอนนี้กานโนเซน นากะรู้สึกตัวแล้ว จากสายตาของเย่เทียน สายตานับไม่ถ้วนล้วนจับจ้องอยู่ที่เขา คนอื่นๆ จะพูดอะไรได้ พวกเขาแค่อิจฉาหรืองุนงง และบาทหลวงที่อยู่บนสังเวียนนั้นก็ไม่เหมือนเดิม

กานโนเซน นากะที่เคยคิดว่าตัวเองจะชนะมาโดยตลอดได้สติกลับมาแล้ว เจ้าหนุ่มนี่กำลังพยายามจะใส่ร้ายเขา! ชายผู้นี้ร้ายกาจจริงๆ!

กานโนเซน นากะอยากจะด่ากราดเสียเหลือเกิน แต่เมื่อเผชิญกับสีหน้าของทุกคน เขาทำได้เพียงพยักหน้าและยิ้ม

นานาโกะรู้อยู่แล้วว่าเย่เทียนหน้าด้านแค่ไหน แต่ตอนนี้เธอพบว่าตัวเองประมาทอีกฝ่ายเกินไป

เย่เทียนได้รับการยอมรับจากทุกคนโดยใช้ความสามารถของตัวเอง อย่างน้อยในตอนนี้ก็ไม่มีคนงี่เง่ามายั่วยุเขาเหมือนเปียสกปรก สำหรับการต่อสู้กับบาทหลวง เรียกได้ว่าเป็นม้าตีนต้นเริ่มต้นดีแต่แผ่วปลาย ทั้งสองฝ่ายรู้สึกว่ายังไม่สะใจเพียงพอ

แต่วันนี้มันพิเศษมาก ไม่สามารถทำลายแผนของเขาได้!

สำหรับเย่เทียนเรียกได้ว่าเกิดความคาดหมาย ที่ไม่มีทางเกิดขึ้นในครั้งต่อไป!

“ยังมีผู้กล้าหาญท่านไหนอยากลองประมืออีกไหม?”

เมเจอร์รับตำแหน่งพิธีกรอย่างยิ้มแย้ม ทันทีที่เขาพูดจบ หลายคนก็คนจำนวนไม่น้อยก็เริ่มเคลื่อนไหว

ประตูห้องโถงอีกด้านถูกผลักเปิดออกก่อนที่ทุกคนจะกระโดดออกไปต่อสู้กับบาทหลวง

ทันใดนั้นทุกคนก็หันกลับมา เมเจอร์มือไม้สั่นเมื่อเห็นคนที่มา เขาคือหัวหน้าผู้พิพากษา แฟลิกส์!

เกิดอะไรขึ้น! เขามาปรากฏตัวขึ้นที่นี่อย่างปลอดภัยได้อย่างไร!

จิตใจของเมเจอร์ดำดิ่งลง เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาเยือกเย็นของแฟลิกส์ ก็รู้สึกราวกับว่าถูกดึงเข้าไปในวิชาเข้าฌาน ตรงกันข้ามบาทหลวงเลียมุมปากตัวเองเบาๆ ดูมีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อย่างล้นเหลือ

เมื่อเห็นแฟลิกส์มาถึง หลายคนก็เผยสีหน้าอึดอัด

เมื่อเทียบกับเมเจอร์ที่อ่อนโยนมีชั้นเชิง ทุกคนในที่นี้รู้ดีว่าแฟลิกส์ แข็งแกร่งแค่ไหน หลายคนเคยได้ยินหรือได้เห็นความโหดเหี้ยมของเขามาแล้ว ดังนั้นภาพที่อึกทึกครึมโครมได้เงียบสงบลงทันที

เมื่อแฟลิกส์ก้าวไปข้างหน้า คนเหล่านี้ก็เริ่มถอยหนีโดยไม่รู้ตัว เพื่อเปิดทางให้เขา

“ท่านหัวหน้าผู้พิพากษ!” แม้ว่าเมเจอร์จะหวาดหวั่น แต่เขาก็แสร้งทำเป็นสบายมาก พอเห็นแฟลิกส์เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงโค้งคำนับด้วยความเคารพ ซึ่งไม่ต่างจากเมื่อก่อนเลย

สิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงก็คือแฟลิกส์ไม่ได้มีการแสดงออกที่บ่งบอกว่าโกรธ กิริยาของเขากลับยิ้มอย่างเป็นมิตร พยักหน้าให้เขาเบาๆ เหมือนเช่นที่ผ่านมา

ในขณะที่ทั้งสองต่างฝ่ายต่างรู้กัน เจ้าคนขี้หึงกานโนเซน นากะก็เดินเข้ามาอย่างอุกอาจ แยกทั้งสองออกจากกัน จ้องมองที่เย่เทียนอย่างโกรธเคือง

เขายอมรับว่าเย่เทียนแข็งแกร่งมาก แต่อิทธิพลเบื้องหลังเขาก็แข็งแกร่งไม่ใช่หรือ? เขาตัวคนเดียวไม่คู่ควรแก่การเป็นคู่ต่อสู้ของเย่เทียนอย่างแน่นอน แต่หากเขาใช้อิทธิพลที่อยู่เบื้องหลัง เขาจะไม่มีวันกลัวเย่เทียนแน่!

“ปล่อยบิชอป เมเจอร์!”

บาทหลวงอุทานด้วยความตกใจเมื่อเห็นภาพนี้ จากนั้นแสงศักดิ์สิทธิ์มหาศาลก็ควบแน่นเป็นหอกยาว พุ่งตรงไปยังทิศทางของแฟลิกส์ แฟลิกส์ไม่ได้หลบหลีกใดๆ ปล่อยให้หอกแสงศักดิ์สิทธิ์แทงทะลุหน้าอกของตัวเอง แต่รอยยิ้มกลับปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา “คุณเป็นชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์ แต่ก็มีแต่พรสวรรค์เท่านั้น ตามผมมา แล้วคุณจะได้สัมผัสกับการตรัสรู้ของอาจารย์ ทำผิดแล้วรู้จักกลับตัว แกะน้อย”

ขณะที่แฟลิกส์กำลังพูด เปลวไฟสีดำได้เข้ามาล้อมรอบหอกแสงศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ตรงหน้าอกเขา

เปลวไฟสีดำแผดเผา แสงที่เปล่งออกมาจากหอกแสงศักดิ์สิทธิ์เริ่มกระจายไปทีละน้อย ขณะเปลวไฟสีดำแข็งแกร่งขึ้นและลอยอยู่ต่อหน้าแฟลิกส์ เมเจอร์ได้กลายเป็นศพแห้งกรังแล้ว

เขาตายแล้ว เขาเป็นถึงอาร์ชบิชอปของสำนักวาติกัน! คนโง่ก็รู้ว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล คนฉลาดบางคนเริ่มกวาดสายตามองไปที่ประตูที่อยู่ไม่ไกล

แต่ปัญหาคือทางสำนักวาติกันจะปล่อยคนออกมาหรือไม่? หรือจะบอกว่าแฟลิกส์กำลังเตรียมปล่อยคนออกไป?

สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นจำนวนที่ยังไม่รู้ในสูตรสมการ หลายคนมองโลกในแง่ดี ท้ายที่สุดก็ยังมีคนจำนวนมากที่มาพักที่นี่ แม้ว่าแฟลิกส์อยากทำอะไรสักอย่าง อย่าบอกนะว่าเขาไม่กลัวคนพวกนี้ต่อต้าน?

บางทียอดมนุษย์สองคนสำหรับแฟลิกส์แล้วเพียงแค่โบกมือก็ย่อยยับ แต่หากมียอดมนุษย์นับร้อยคนล่ะ? ในกรณีนั้นมันจะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

การเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของปริมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเหล่านี้ที่ได้รับการขนานนามว่าอยู่ในระดับถล่มสวรรค์จมผืนดิน แฟลิกส์น่าจะไม่โง่พอที่คิดจะฆ่าพวกมันให้หมด!