หลังจากกลับมาถึงวิลล่า เย่เทียนเริ่มคิดย้อนกลับไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเดินไปที่หน้าต่างและมองดูทิวทัศน์ยามค่ำคืนริมแม่น้ำในระยะไกล และอดที่จะหัวเราะไม่ได้ “ยิ่งอยู่ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ”
ร่างกายของเขาสั่นเล็กน้อย และสีหน้าของเย่เทียนก็แปลกไปเล็กน้อยเช่นกัน
นับตั้งแต่สงครามเมื่อสามปีที่แล้ว คัมภีร์หวงได้ซ่อมแซมเส้นลมปราณของเขามาโดยตลอด จนกระทั่งพลังชี่แท้ในร่างกายของเขาได้รับการซ่อมแซมทั้งหมด
นั่นหมายความว่าตอนนี้ความแข็งแกร่งของเย่เทียนเป็นเพียงนักบู๊ระดับดำเท่านั้น
เป็นระดับนั้นค่อนข้างต่ำ แต่ระบบการฝึกฝนนั้นแตกต่างกัน เพราะเขายังมีคัมภีร์โบราณอยู่ในมือ หากจะต่อสู้กันจริง ๆ ถึงแม้ว่าจะเจอนักบู๊ระดับดิน เขาก็มีพลังการต่อสู้
“ทะลวงแล้ว? ดูเหมือนว่าการเข้าฌานไม่ใช่ทางเลือกที่ดี!”
เย่เทียนรับรู้ถึงความการไหลเวียนในร่างกายที่หายไปนาน เขาก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนว่าคราวนี้จะมีเรื่องดี ๆ ให้ดูแล้ว
วันรุ่งขึ้น
เย่เทียนมาที่บริษัทแซ่เฉิน มีคนมากมายเห็นเหตุการณ์เมื่อวาน แต่โชคดีที่เขาสวมหมวก ทำให้ไม่มีใครสามารถจำเขาได้
“สวัสดีค่ะ คุณเย่ซา ใช่ไหมคะ” หญิงสาวตัวสวมแว่นกรอบกว้างและถือเอกสารอยู่ในมือ เดินไปอยู่ด้านข้างและถามด้วยความขี้อาย
วันนี้เย่เทียนยังคงปลอมตัวเหมือนเดิม ถึงแม้ว่ามองแล้วจะไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่เพียงแค่อาศัยรูปร่างก็สามารถกล่าวได้ว่าเขาเป็นคนหล่อแล้ว ซึ่งทำให้ใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นแดงระรื่น
“ผมเองครับ!”
“ฉันชื่อเยว่หยาจากฝ่ายบุคคล ประธานเฉินให้ฉันมารับคุณ!”
“เธอไม่มาผมเหรอ?” เย่เทียนถามด้วยความสงสัย
เยว่หยาแอบแปลกใจว่าคนนี้เป็นใคร? ถึงได้กล้าถามเรื่องของประธานเฉิน?
“ฉันไม่รู้ เมื่อสักครู่ฉันเพิ่งได้รับโทรศัพท์ว่าให้มารับคุณ!” ถึงแม้เยว่หยาจะเป็นซื่อ ๆ แต่เธอทำงานได้ไม่เลว
“นี่คือห้องรักษาความปลอดภัย และคนนี้ชื่อกัวหมิงเลี่ยง คนที่ดูแลรับผิดชอบห้องรักษาความปลอดภัย!”
“โอ้ เสี่ยวเย่วเย่ว! ทำไมวันนี้คุณถึงได้มีเวลาว่างมาหาพี่กัวล่ะ?” คนที่พูดนั้นเป็นชายหัวโล้น และหน้าของเขามีรอยยิ้มหื่น
ภาพนี้ทำให้เย่เทียนขมวดคิ้วตามสัญชาตญาณ
มันอะไรกันนี่? ทำไมตระกูลเฉินถึงได้รับคนเช่นนี้เป็นผู้ดูแลรับผิดห้องรักษาความปลอดภัย? น่าขบขันสิ้นดี!
แววตาของเยว่หยาประกายความรังเกียจ เธอถอยหลังไปหนึ่งก้าว “ประธานเฉินให้ฉันพาคุณเย่มารายงานตัว!”
เย่เทียนทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เขาเดินไปขวางอยู่หน้ากัวหมิงเลี่ยง “พี่กัว สวัสดีครับ!”
“พี่กัว? พี่กัวเป็นชื่อที่คุณสามารถเรียกได้หรือ? ทำไมคุณไม่ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาตนเองล่ะ! คุณเป็นใคร!” สีหน้าของกัวหมิงเลี่ยงทรุดลง “เสี่ยวเย่วเย่ว กลับไปบอกประธานเฉิน เจ้าหมอนี้หยิ่งยโสเกินไปแล้ว? ไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำงานรักษาความปลอดภัยได้เท่านั้น แต่จะกระทบความสามัคคีของห้องรักษาความปลอดภัยอีกด้วย คุณพาเขาไสหัวออกไปเถอะ!”
“แม้แต่คนที่ดูแลรับผิดชอบห้องรักษาความปลอดอย่างคุณ ยังสามารถปฏิเสธคำสั่งของคุณเฉินได้หรือ?” เย่เทียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หรือว่าตอนนี้บริษัทแซ่เฉินถึงจุดนี้แล้ว? ไม่สามารถควบคุมแม้แต่ลูกน้องของตนเองได้?
“ประธานเฉินก็คือประธานเฉิน คุณก็คือคุณ! เจ้าหนู อย่าไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี คุณรู้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหน?!”
เมื่อเยว่หยาได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของเธอขาวซีด เธอดึงเสื้อผ้าของเย่เทียนอย่างเงียบ ๆ ส่งสัญญาณให้เขาจากไปพร้อมกับตนเอง
บอกตามตรงว่าตอนนี้ห้องรักษาความปลอดภัยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัทแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่ทำให้พนักงานหญิงในบริษัทรู้สึกกลัวจนหน้าถอดสี
แล้วเย่เทียนจะจากไปได้อย่างไร?
หมาเริ่มกัดเจ้าของตั้งแต่เมื่อไหร่!
และเมื่อครุ่นคิด ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจว่าทำไมเฉินหวั่นชิงถึงไม่ส่งเขามาที่นี่ด้วยตนเอง เป็นเพราะเธอต้องการให้ตนเองจัดการคนเหล่านี้!
เย่เทียนเริ่มสนใจเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่มือของเขายังคงเคลื่อนไหวไม่หยุด เขาใช้ขาเตะออกไป แล้วชายร่างสูงใหญ่ก็กระเด็นออกไป กระแทกบนร่างกายของชายรูปร่างสูงใหญ่ที่กำลังพุ่งเข้ามา
เมื่อเห็นภาพนี้แล้ว แม้แต่คนโง่เขลาก็รู้ว่าเกิดปัญหาแล้ว
กัวหมิงเลี่ยงกลืนน้ำลายด้วยความลำบาก “คุณ......คุณเป็นนักบู๊?”
เย่เทียนส่ายศีรษะ เดินเข้าไปหาเขาทีละก้าว
กัวหมิงเลี่ยงรู้สึกตื่นตระหนก เขาถอยไปข้างหลังตามสัญชาตญาณ จนกระทั่งไม่มีทางที่จะถอยกลับ
“มีอะไรก็พูดคุยกันดีๆ ต่อไปคุณจะเป็นสมาชิกของห้องรักษาความปลอดภัย ถ้ารู้ว่าคุณมีความสามารถตั้งแต่แรก พวกเราก็ไม่กล้าล้อเล่นกับคุณหรอก!”
“คุณบอกว่าเมื่อสักครู่เป็นการล้อเล่นเหรอ?”
กัวหมิงเลี่ยงหันไปมองไปยังชายรูปร่างสูงใหญ่ พวกเขาเปลี่ยนสีหน้า ยิ้มและพยักหน้าให้เย่เทียน และกล่าวว่า “ถูกต้อง! มันเป็นแค่การล้อเล่นเท่านั้น! ”
“แต่ผมคิดว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น!”
เย่เทียนส่ายศีรษะ และขณะที่เขาหันไปด้านข้าง กัวหมิงเลี่ยงก็หยิบมีดพับออกมาจากข้างหลังทันที
กัวหมิงเลี่ยงถือโอกาสตอนที่เย่เทียนละความสนใจ กล่าวด้วยสีหน้าดุร้าย “นักบู๊? กูเป็นนักบู๊เหมือนกัน!”
กัวหมิงเลี่ยงแทงมีดพับไปที่ท้องของเย่เทียนโดยไม่ลังเล การเคลื่อนไหวของเขานั้นคล่องแคล่วมาก ซึ่งแตกต่างจากความเกียจคร้านที่เขาแสดงให้เห็นอย่างสิ้นเชิง และเป็นไปตามที่เขาพูดจริง เพราะเขาเป็นนักบู๊จริง ๆ
แต่น่าเสียดายที่เขาเป็นเพียงนักบู๊ระดับเหลืองเท่านั้น ถือว่าเป็นระดับเริ่มต้นเท่านั้น
คาดว่าเขาคงคิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหน้านั้นเป็นยอดฝีมือระดับไหน และก่อนที่มีดพับจะถูกตัวเย่เทียน ก็ถูกเย่เทียนจับไว้แน่น กัวหมิงเลี่ยงตกใจและเงยหน้าขึ้นมอง และเห็นดวงตาที่เย็นชาของเย่เทียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...