ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1182

สรุปบท บทที่ 1182 ช่างเป็นออร่าที่แข็งแกร่งจริงๆ: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

บทที่ 1182 ช่างเป็นออร่าที่แข็งแกร่งจริงๆ – ตอนที่ต้องอ่านของ ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

ตอนนี้ของ ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ โดย Light-Knight ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1182 ช่างเป็นออร่าที่แข็งแกร่งจริงๆ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“ไปตายซะ!”

ในเมื่อคนของตระกูลหลี่ก็มากันในวันนี้แล้วก็ไม่ได้คิดว่าจะเดินออกไปอย่างสงบ

ทัศนคติของหลี่โปก็แสดงถึงทัศนคติของตระกูลหลี่ พวกเขาอยู่อย่างสงบมานานเกินไปแล้ว และในวันนี้ก็จะเอาชนะขึ้นอยู่เหนือบนตระกูลจ้าวไป! ให้ชาวตากันทั้งหมดรู้ว่า ตระกูลหลี่ของเขาแข็งแกร่งกว่าตระกูลจ้าว!

เป็นเช่นนี้แล้วหลี่ลี่ย่อมไม่ได้อ่อนมือใดๆ และมือของเขาก็ควบแน่นไปด้วยแสงสีเหลืองแก่ ตั้งใจจะฆ่าด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

เย่เทียนถอนหายใจ

“เฮ้!”

ที่แปลกประปลาดก็คือการถอนหายใจนี้แผ่ไปถึงหูของทุกคนอย่างชัดเจนและแม่นยำ!

“หือ?” หลี่โปถึงหันไปมองเย่เทียนในเวลานี้

ในเวลานี้ถ้วยน้ำชาของเย่เทียนก็ถูกโยนมาถึงต่อหน้าหลี่ลี่แล้ว

หลี่ลี่ในตอนนี้มีเพียงสองทางเลือกแล้วเท่านั้น

หนึ่งคือปาดถ้วยน้ำชาทิ้งด้วยมือ หากทำเช่นนั้นก็จะทำให้การรุกรานของเขาถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ และโอกาสที่จะสำเร็จการฆ่าด้วยการโจมตีครั้งเดียวที่เขาต้องการก็จะหายไปโดยธรรมชาติ

สองคือการพกเฉยถ้วยน้ำชา เพราะยังไงถ้วยน้ำชานั้นก็ดูเหมือนจะไม่มีพลังมากนัก

ยอดฝีมือขั้นระดับดินยังคงมีความมั่นใจในระดับหนึ่งต่อร่างกายตัวเอง

“ไม่มีใครจะสามารถขวางข้าไว้ได้! กล้าพูดว่าหลานชายของข้าเป็นไอ้ขยะ วันนี้เจ้าจะต้องตาย!”

หลี่ลี่เลือกอย่างที่สอง หรือพูดอีกอย่างก็คือนักบู๊ขั้นระดับดินคนใดก็จะเลือกอย่างที่สองเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้!

“พัฟ!”

ที่แปลกประหลาดก็คือจู่ๆ ถ้วยก็เร่งความเร็วขึ้นมาอย่างกะทันหัน!

ในขณะที่หมัดของหลี่ลี่ที่เกิดแสงสีเหลืองแก่กำลังจะลงสู่บนตัวจ้าวกวง ถ้วยน้ำชาก็กระแทกใส่บนใบหน้าหลี่ลี่เป็นอันดับแรกก่อน!

ไม่เพียงเท่านั้น ความแข็งแกร่งของถ้วยน้ำชาใบนี้ก็เกินความคาดหมายของเขาอย่างมากเลยทีเดียว

ถ้วยน้ำชาไม่ได้แตก แต่กลับทำให้ร่างกายของเขาหยุดชะงักอย่างกะทันหันอยู่ครู่หนึ่ง

จ้าวกวงก็ได้ปัดวิกฤตของหมัดนี้ออกไปเพราะเช่นนี้

“บ้าเอ๊ย! นั่นใคร!”

ความโกรธในหัวใจของหลี่ลี่สามารถจินตนาการเอาได้ เขาทุบถ้วยน้ำชาให้แตกสลาย และหันกลับไปมองด้วยความโกรธบนใบหน้าของเขา

“ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะหาผิดคนแล้ว หลี่หมิงเทาใช่หรือไม่ ฉันจัดการมันเอง!”

เย่เทียนเอ่ยปากกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า

แววตาของฟู่เซิ่งหนานที่อยู่ด้านข้างมีร่องรอยความตื่นเต้นวาบผ่าน สิ่งที่เธอชอบมากที่สุดก็คือการได้เห็นเย่เทียนต่อสู้ ตอนนี้มีการแสดงให้ชมแล้ว เธอจะมีเหตุผลอะไรที่ไม่ตื่นเต้นล่ะ?

หลี่ลี่ค่อยๆ หันกลับมาและมองไปที่เย่เทียน

หลี่โปและคนอื่นๆ ก็ได้เล็งสายตาไปที่เย่เทียน เต็มไปด้วยความเกลียดชังอันล้นหลาม

แต่เมื่อต้องเผชิญกับสายตาที่เลวร้ายมากมาย เย่เทียนยังคงดูเฉยเมย และหลังจากนั้นก็ยิ่งได้พูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ตระกูลหลี่รู้สึกอับอายอย่างยิ่ง

“ถ้ารู้ว่าจะเป็นสถานการณ์เช่นนี้ ก่อนหน้านี้ฉันควรจะฆ่าเขาให้ตาย แต่ไม่ใช่แค่ทำให้เขาพิการเท่านั้น!”

“คุณพูดว่าอะไรนะ!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า! เจ้าสุนัขมันบ้าจริงๆ! กล้าดียังไงถึงมาอวดดีอยู่ต่อหน้าตระกูลหลี่ของข้า!”

“ลูกชายของข้าไปทำให้เจ้าขุ่นเคืองยังไง ถึงทำให้เจ้าต้องลงมือทำร้ายเช่นนี้!” หลี่โปโบกมือของเขา และคนของตระกูลหลี่ก็หยุดก่นด่า แต่พวกเขายังคงจ้องไปที่เย่เทียนด้วยสายตาที่ขุ่นเคือง

“ถ้าฉันขัดจังหวะระดมจิตของเจ้า เจ้าจะทำอย่างไร?” เย่เทียนถามกลับไปคำหนึ่ง

แต่หลี่โปกลับให้คำตอบที่น่าประหลาดใจ

“มันก็แค่ระดมจิต ครั้งนี้ถูกรบกวนก็ยังมีครั้งต่อไปอีก เพียงเพราะเรื่องแค่นี้เจ้าก็จะทำให้หมิงเทาพิการไปเลยงั้นเหรอ?”

“ฮ่าฮ่า! ระดมจิตเองงั้นเหรอ?”

สายตาของเย่เทียนเย็นชาลง “มีพ่อแบบไหนก็ต้องมีลูกชายแบบนั้นจริงๆ!”

หลังจากพูดจบเย่เทียนก็ยืนขึ้นอย่างช้าๆ สีหน้าของเขามืดมน มันแสดงให้เห็นว่าในใจเขานั้นโกรธมากแค่ไหน

“อยากจะลงมือก็บอกมาตรงๆ ตระกูลหลี่? ฮ่าฮ่า! ก็เก่งได้แค่นี้เหรอ!”

“รนหาที่ตาย!”

“อย่านะ!”

หลี่โปกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว แต่กลับไม่สามารถหยุดมือของเย่ทัยนที่กดทับบนศีรษะของเขาได้

เย่เทียนใช้แรงฝ่ามือ โจมตีร่างหลี่โปบินออกไปโดยตรง และกระแทกใส่โต๊ะและเก้าอี้เป็นแถว จากนั้นเขาถึงยืนตัวตรงขึ้นมาได้จากการประคองของคนในตระกูลหลี่

คราวนี้คนของตระกูลหลี่ก็ไม่กล้าที่จะส่งเสียงอีกต่อไป และในสายตาที่มองเย่เทียนนั้นเหมือนกับเห็นผีเลยทีเดียว

ความแข็งแกร่งของเย่เทียนนั้นมันเหนือความคาดคิดของพวกเขาจริงๆ

ในสายตาของพวกเขาผู้นำตระกูลที่อยู่ยงคงกระพันกลับพ่ายแพ้ไปในท่าเดียว? นี่มันไม่สามารถใช้คำว่าอนาถมาเปรียบเทียบได้อีกต่อไป

“ไปให้พ้น!”

นับตั้งแต่เข้าสู่แดนพลังผนึกจินตันก็เข้าใจถึงวิถีแห่งสวรรค์มากขึ้น และเขาก็ไม่อยากฆ่าสังหารถ้าไม่จำเป็น สำหรับเขาแล้ว คนอย่างหลี่โปก็เป็นได้แค่ไอ้คนที่มาหาทางตายเท่านั้น

คนประเภทนี้แม้ว่าจะฆ่าไปแล้วมันก็แค่จะทำให้เพิ่มบาปกรรมฆ่าชีวิตของเขาเท่านั้น และเมื่อถึงเวลาที่ตัวเองต้องฝ่าฟันมันกลับจะกลายเป็นอุปสรรคเท่านั้น

แน่นอน นี่มันก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามีวิสัยทัศน์พอหรือไม่ หากพวกเขายังจะกล้ามายั่วยวน เย่เทียนก็ไม่เกี่ยงที่จะกำจัดพวกเขาไปทีเดียว

“อุ๊ย! ความผิดของลูกเป็นความรับผิดชอบของฉันในฐานะที่เป็นพ่อเขา! ปรมาจารย์เย่ มีฝีมือที่ดีจริงๆ พวกเราไปกันเถอะ!”

เย่เทียนเก็บความกดดันของตัวเอง คนของตระกูลหลี่ไม่กล้าที่จะพูดอะไรแม้แต่คำเดียว รีบประคองตัวหลี่โปและถอยทัพกลับไป ซึ่งสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนกับความเย่อหยิ่งตอนท่พวกเขาเดินเข้ามา

“นี่.........”

คนของตระกูลจ้าวต่างตกตะลึงไปเลย และจนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจว่าเย่เทียนมีความแข็งแกร่งถึงขั้นใด และก็ให้ความเคารพต่อหญิงชราของพวกเขามากยิ่งขึ้น

ถ้าไม่ใช่เพราะวิธีการจัดการของหญิงชราเข้าที่ แล้วไปรุกรานผู้ที่แข็งแกร่งอย่างเย่เทียนเข้า งั้นตระกูลจ้าวของพวกเขาจะต้องเผชิญกับวิกฤติแบบไหนกัน?

“เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเพราะฉัน และฉันก็จะรับผิดชอบมันจนถึงที่สุดอย่างแน่นอน!”

หลังจากที่เย่เทียนพูดจบเขาก็ลุกขึ้นและเตรียมที่จะจากไป

“เดี๋ยวก่อน!”

จ้าวหมิงฟู่เอ่ยปากพูดอย่างรวดเร็วว่า “มีคนแอบจัดการประมูลอย่างลับๆ ในช่วงนี้ ว่ากันว่ามีบางสิ่งที่รั่วไหลออกมาจากส่วนลึกของทะเลทราย ฉันคิดว่าปรมาจารย์เย่คงต้องมีความสนใจที่อยากจะไปดูสักหน่อยใช่ไหม!”

“โอ้?” เย่เทียนรับการ์ดเชิญไป “ขอบคุณผู้นำตระกูลจ้าวอย่างยิ่ง!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่