เงื่อนไขเพิ่มเติมมันค่อนข้างที่จะเยอะเกินไปจริงๆ แต่ก็ไม่มีอะไรกับคนอย่างเย่เทียนที่กำลังจะเข้าไปส่วนลึกของทะเลทรายตากันเพื่อค้นหาดอกบัวทองมาช่วยชีวิตคนอยู่แล้ว
ไม่ว่ายังไง เย่เทียนก็จะต้องได้สมุดบันทึกเล่มนี้มาให้ได้
“ห้าสิบล้าน!”
เย่เทียนเป็นคนแรกที่เสนอราคา เพียงแต่เขาเพิ่งได้เสนอราคาออกไป ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังเข้ามา
มันคือตระกูลหลี่!
“หกสิบล้าน!”
“คนของตระกูลหลี่! ดูเหมือนว่าในวันนี้จะจบสวยได้ยาก!” จ้าวเทียนฉีกล่าวอย่างกังวลเล็กน้อยว่า
ตระกูลหลี่แห่งตากันเป็นตระกูลที่ค่อนข้างที่จะไม่เปิดตัว แต่จ้าวเทียนฉีกลับเข้าใจดีว่าภูมิหลังของตระกูลหลี่นั้นแข็งแกร่งเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นกำลังทางทหารหรือทางการเงินก็ตาม พวกเขาก็อยู่ในตระกูลอันดับต้นๆ ของตากัน
แม้แต่กับตระกูลจ้าวของเธอก็ยังเป็นฝ่านถ่อมตัว
จ้าวเทียนฉีเป็นคนอารมณ์ร้อน สิ่งที่เธอไม่ชอบมากที่สุดก็คือสไตล์การทำงานของตระกูลหลี่ บวกกับหลี่หมิงเทาเองก็ไม่มีชื่อเสียงที่ดีอะไร นี่ถึงเป็นเหตุผลที่เธอปฏิเสธสัญญาการแต่งงาน
แต่ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดี ด้วยความช่วยเหลือของเย่เทียน ตระกูลหลี่จะกล้าพูดถึงสัญญาแต่งงานอีกครั้งได้อย่างไร
“มันก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะทนได้หรือเปล่า!”
เงินสดในมือของเย่เทียนนั้นถือว่ามีขอบเขตขนาดที่ใหญ่มากแล้ว แม้ว่าตระกูลหลี่จะอดทนแค่ไหนพวกเขาจะสามารถทำเงินจากยาเม็ดของบริษัทแซ่เฉินได้หรือไม่?
นี่คืออุตสาหกรรมที่ทำกำไรได้มามาย!
เหตุผลที่เย่เทียนไม่ยอมปล่อยมือก็เพราะว่าเขาสนใจกับเจ้าของที่ลึกลับของสมุดบันทึกเล่มนี้ หรือสมุดบันทึกเล่มนี้ก็เป็นเหมือนขั้นบันได และข้อมูลที่เป็นประโยชน์จริงๆ อาจอยู่กับเจ้าของที่ลึกลับนั่น
ในเวลานี้หลังจากการประมูลไปหลายรอบ สมุดบันทึกที่ทรุดโทรมเล่มเดียวก็ถูกเรียกราคาสูงถึงหนึ่งร้อยล้าน
ราคานี้ทำให้หลายคนผิดหวังจนถอนตัวไป
ความเป็นจริง คนที่สามารถมาที่นี่ได้นั้นทั้งหมดเป็นผู้ที่มีอำนาจพอสมควร แต่ปัญหาคือนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น! หนึ่งร้อยล้าน คนพวกนี้ไม่เห็นคุณค่าของเงินเลยจริงๆ งั้นเหรอ?
“หนึ่งร้อยสิบล้าน!”
สีหน้าของเย่เทียนแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ซึ่งทำให้คนของตระกูลจ้าวแอบมองดูเขาซ้ำๆ
อะไรที่เรียกว่าความไร้มนุษยธรรม? มันเป็นเช่นนี้! ร้อยสิบล้านเลยนะ วางกองรวมๆ กันแล้วสามารถทับคนให้ตาย! แต่เจ้าลองดูเย่เทียนสิ ไม่ขมวดคิ้วเลยแม้แต่น้อย นี่ถึงเป็นความใจกว้างที่แท้จริง!
ใบหน้าของหลี่โปกระตุกเล็กน้อย และตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเย่เทียนกำลังมีเรื่องกับตัวเอง ตระกูลหลี่ของเขาร่ำรวยก็จริง แต่เมื่อนึกถึงว่าจะเสียเงินเพื่อสมุดบันทึกที่เสื่อมโทรมเล่มเดียวเขารู้สึกไม่เต็มใจอยู่ในใจเล็กน้อย
“เรายังคงต้องดำเนินต่อไปหรือไม่?”
“ดำเนินต่อ!”
มีเสียงแหบแห้งดังมาจากปลาสายของโทรศัพท์ และไม่เว้นที่ว่างสำหรับการปฏิเสธเลยแม้แต่น้อย
สามพี่น้องหลี่โปมองหน้ากัน และทำได้เพียงหัวเราะอย่างขมขื่นและเสนอราคาต่อไป
ในท้ายที่สุดราคาก็ถูกดันไปถึงสองร้อยสามสิบล้าน ทุกคนในทะเลทรายนอกจากคนของตระกูลหลี่และตระกูลจ้าวแล้ว คนอื่นๆ ก็เหมือนกับตายไปทั้งหมด และไม่มีเสียงใดๆ ออกมาเลย
ในระหว่างการเสนอราคา เสียงแตกที่ดังออกมาจากกองไฟได้ยินอย่างชัดเจน
“ราคาเดียว สองร้อยห้าสิบล้าน! ถ้าตระกูลหลี่สามารถตามทันได้ งั้นก็เป็นของพวกเจ้าแล้ว!”
เย่เทียนพูดออกมาโยตรง
นี้ไม่น้อยไปกว่าการคุกคามเลย
ความเกลียดชังของหลี่โปที่มีต่อเย่เทียนนั้นไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือตระกูลหลี่ของเขาไม่มีปัญญาเอาออกมาได้จริงๆ
สือเหรินที่ปลายสายของโทรศัพท์เงียบไปครู่หนึ่ง
“ให้เขาไป!”
จากนั้นก็วางสายไปโดยตรง
มอสรอคอยอยู่เสมอมา และเขาก็ไม่คาดคิดว่าสมุดบันทึกที่เสื่อมโทรมเล่นเดียวจะมีราคาการประมูลสูงได้เช่นนี้ ในคราวนี้เขาคงได้รับค่าคอมมิชชันจนมืออ่อนแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่