เฉินหวั่นชิงที่ลงจากรถมาก็ต้องตะลึงไปกับฉากที่เห็นทันที
เมื่อเทียบกับงานแต่งงานที่หรูหราระดับโลก สถานการณ์ปัจจุบันตรงหน้าสามารถอธิบายได้โดยใช้คำว่าเป็นความหรูหราแบบถ่อมตน ฉากวางที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายคลาสสิกทำให้ผู้คนดูรู้สึกราวกับเดินทางผ่านสมัยโบราณ
"มาแล้วหรือ?"
เย่เทียนเดินขึ้นไปหาพวกเขา
เฉินหวั่นชิวและเหลียงเยว่หรูตอนนี้ก็ถือว่าเป็นนักบู๊เช่นกัน แต่พลังของพวกเธอก็ยังเป็นการป้องกันตัวมากกว่าการต่อสู้
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงชั่วคราวเพื่อสร้างรากฐานร่างกายเท่านั้น หลังจากผ่านไประยะหนึ่งถึงค่อยเป็นช่วงพัฒนาแบบก้าวกระโดดที่แท้จริง
“ที่นี่ให้ความรู้สึกแปลกๆ!” เหลียงเยว่หรูขมวดคิ้วและถาม
ในเวลานี้ เส้นลมปราณทิพย์ได้เริ่มมีบทบาทแล้ว คนธรรมดาอาจจะรู้สึกได้แค่อากาศที่สดชื่นเท่านั้น และการพักที่นี่ให้ความรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ
"รู้สึกว่าชี่ทิพย์ในร่างกายหมุนเวียนเร็วขึ้นอยู่บ้างใช่ไหม?" เย่เทียนถามด้วยรอยยิ้ม
“จริงด้วย! พี่ชิง คุณว่ายังไง?”
“ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน!”
เฉินหวั่นชิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและเริ่มสื่อสารกับเหลียงเยว่หรู ย่างเงียบ ๆ
ถูฮุยและคนอื่นๆ ก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้นไปอีก พวกเขาไม่รู้เลยว่าคู่รักของเย่เทียนเป็นแค่คนธรรมดา! สายตาของพวกเขา ย่อมมองออกว่าพวกเฉินหวั่นชิงนั้นมีความแข็งแกร่งระดับไหน
สิ่งนี้ทำให้สายตาของพวกเขาที่มองเย่เทียนมีความแปลกใจขึ้นมาอยู่บ้าง
อันที่จริง เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาในโลกบู๊โบราณเช่นกัน แต่ความสัมพันธ์ส่วนใหญ่มักจะจบลงด้วยโศกนาฏกรรม
ประการแรกคือปัญหาของช่วงชีวิต
เนื่องจากนักบู๊ใช้ชี่ทิพย์ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นทั้งทางกายภาพและอายุขัยของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่คนธรรมดาและแม้แต่นักบู๊ระดับต่ำที่มีชี่ทิพย์หล่อเลี้ยงนั้นอย่างมากก็ยืดอายุของพวกเขาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
พวกเขาแตกต่างจากนักบู๊ระดับสูงราวฟ้ากับดินจริงๆ
จึงจะมีเรื่องราวความรักที่สวยงามและโศกเศร้าเกิดขึ้นมากมาย
อีกทั้งเย่เทียนก็ได้ฝึกพลังมาถึงขั้นนี้แล้ว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหรือ?
“พี่ว่าพี่เทียนคิดอะไรอยู่?” เฉิงชิ่งลูบคางและถาม
“นายไม่รู้จักพลังของหัวหน้าสำนักอีกหรือไง? ยิ่งไปกว่านั้นทักษะการปรุงยาของหัวหน้าสำนักยังมีอะไรต้องพูดถึงอีก?” ถูฮุยเกาศีรษะของตน "ฉันว่านายไปกังวลเกี่ยวกับตัวเองดีกว่า"
เฉิงชิ่งกระแอมเบา ๆ "อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนั้นก่อน ไอ้ของบนหัวอันนี้ฉันไม่ใส่ได้ไหม? ทำไมถึงได้ดูเหมือนกับพวกผู้หญิง!"
“นี่จะมาโบ้ยให้ฉันไม่ได้นะ เป็นตระกูลเฉิงจัดการให้ นายไปหาบรรพบุรุษของนายสิ!” ถูฮุยมีรอยยิ้มร้ายกาจบนใบหน้า แต่เมื่อมองไปที่ฝูหลิงดวงตาของเขาก็อ่อนโยนขึ้นทันที
เฉินหวั่นชิงและเหลียงเยว่หรูต่างก็เป็นคนฉลาด หลังจากทักทายเฉิงชิ่งและคนอื่นๆ อารมณ์ของพวกเธอก็ลดลงในทันใด
พวกเธอย่อมมองออกถึงความแตกต่างระหว่างคนเหล่านี้ และทำให้อดเอากลับมาคิดไม่ได้
ที่แท้ตนและเย่เทียนไม่ใช่คนโลกเดียวกันแล้วใช่ไหม?
ความคิดนี้ทำให้พวกเธอค่อนข้างเศร้าโศก แม้ว่าจะพยายามปกปิดมันอย่างเต็มที่แล้วแต่ก็ยังคงถูกเย่เทียนจับได้อยู่ดี
"ทำไม? รู้สึกด้อยกว่า?"
เย่เทียนถามด้วยรอยยิ้ม
"ใช่ที่ไหนกัน!"
เฉินหวั่นชิงเม้มริมฝีปากของเธอและ เหลียงเยว่หรูเองก็กลอกตาใส่เขา
ผู้หญิงพูดต้องฟังความหมายกลับกัน เย่เทียนจะไม่เข้าใจความจริงนี้ได้อย่างไร?
“ในอนาคตเรื่องต่างๆ ที่ทำอยู่พวกเธอก็วางเอาไว้ก่อนได้ ความเข้มข้นของชี่ทิพย์ในสำนักชิงหนังกำลังค่อยๆ เพิ่มขึ้น พวกเธอฝึกฝนอย่างหนักไปสักช่วงระยะเวลาหนึ่งก็ไม่เป็นอะไร”
“วันนี้พวกเธอก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับชีวิตของผู้ฝึกตนแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่