"เกิดอะไรขึ้น?"
ฮั่วหยิงหยู คิดว่าเธอควบคุมวิธีจัดการกับหงหลัวซ่าได้แล้ว แต่ตอนนี้การเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหันของหงหลัวซ่าทำให้เธอลังเล
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ตอนนี้เกมรุกของหงหลัวซ่ากำลังมีปัญหา หากสามารถคว้าโอกาสนี้ไว้ได้ก็จะสามารถสร้างความเสียหายแก่หงหลัวซ่าได้!
แต่คำถามคือ ถ้าหงหลัวซ่ากำลังหลอกล่ออยู่ล่ะ?
นั่นเพราะท้ายที่สุดแล้วหงหลัวซ่าก็เป็นคนที่เข้มงวดและโมโหร้ายอย่างมาก ภาพจำที่หยั่งรากลึกนี้ทำให้ฮั่วหยิงหยู เริ่มต้องคาดเดาความตั้งใจที่แท้จริงของหงหลัวซ่า!
ใช่!
เธอกำลังจะทำอะไร?
ทำไมตอนนี้ถึงได้มีการเปลี่ยนแปลงไปแบบนี้!
ปัญหาต่าง ๆ ที่เริ่มผุดขึ้นในสทองของเธอจนทำให้สูญเสียความสามารถในการตัดสินใจของเธอไป
สิ่งนี้เป็นผลให้ทั้งสองเริ่มอึดอัดมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้กระทั่งในสายตาของผู้ชม การเคลื่อนไหวของทั้งสองฝ่ายต่างเต็มไปด้วยช่องโหว่ ราวกับว่าขอแค่พวกเขาเอื้อมมือออกไปก็จะสามารถยุติการต่อสู้ที่น่าอึดอัดนี้ได้
สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดคือเห็นอยู่ชัดๆ ว่าเป็นข้อผิดพลาดของหงหลัวซ่าแต่ฮั่วหยิงหยูกลับผิดพลาดไปด้วยเช่นกัน!
นี่ช่างน่าโมโหเสียจริง!
“เป็นอะไรไป? สองคนนั่นกำลังเต้นรำกันอยู่หรือเปล่า?”
“ฮั่วหยิงหยูคนนี้คงไม่ใช่สายลับที่ฝ่ายตรงข้ามส่งมาหรอกใช่ไหม! การประลองเมื่อกี้นี้ก็ดันเหนือความคาดหมาย มาตอนนี้หากพ่ายแพ้ก็คงจะมีปัญหาจริงๆ แล้ว!”
“ฮ่าฮ่า เย่เทียนนั่นดูยังไงก็ไม่เหมือนพวกที่คุยกันง่าย หากให้โอกาสเขาจริงๆ อย่างนั้นพวกเราที่เรียกว่าสมาพันธ์นักบู๊โบราณก็คงจะเป็นตัวตลกจริงๆ!”
ซือหม่ามู่หยาง อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเมื่อได้ยินความคิดเห็นของผู้คนด้านล่าง
พวกโง่เง่า คิดว่าฉันไม่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้หรือไง? พวกแกก็แค่เป็นลูกกะจ๊อกเล็ก ๆ ที่เอาแต่ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ถ้าครั้งนี้มีอะไรผิดพลาดจริงๆ ด้วยนิสัยของผู้อาวุโสเหลิ่ง ถึงเวลานั้นตนจะมีผลดีอะไรให้ตัวเองกัน?
เพียงแต่เขามองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นในสนาม อีกทั้งยังถึงขั้นสงสัยว่าความเกลียดชังระหว่างฮั่วหยิงหยูกับหงหลัวซ่านั้นหรือว่าจะเป็นของปลอม!
“บ้าเอ๊ย เธอคิดจะทำอะไรน่ะ”
ฮั่วหยิงหยู เองก็ย่อมได้ยินความคิดเห็นของคนด้านล่าง นั่นเพราะท้ายที่สุดแล้วการเคลื่อนไหวที่น่าอึดอัดนี้แทบจะทำให้เธอรู้สึกอยากกระอักเลือด
"ฉันกำลังจะทำอะไร?" ในทางตรงกันข้ามหงหลัวซ่ากลับกำลังรู้สึกตื่นเต้น การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เธอสามารถเป็นฝ่ายควบคุมเกมในสนามได้โดยตรง เธอกวาดปืนยาวและบังคับให้ฮั่วหยิงหยูต้องล่าถอย "ลองเดาสิ!"
จิตใจของฮั่วหยิงหยูพังทลายลงไปบ้างอย่างชัดเจน ตอนนี้เธอต้องการที่จะฟื้นคืนการต่อสู้ให้เป็นจังหวะของเธอเอง
แต่ปัญหาคือจิตปืนของหงหลัวซ่าไม่ใช่สิ่งที่เธอกล้าจะไปเผชิญหน้าตรงๆ ได้ และจึงทำได้แค่ต่อสู้ไปพร้อมๆ กัน นั่นเพราะวิชายุทธ์ของเธออยู่ในประเภทการเอาชนะความแข็งด้วยความนุ่มนวล
“ไม่ต้องตื่นตระหนก ควบคุมฝีเท้าของเธอไว้ จำความนุ่มนวลเอาไว้! เธอไม่ได้กำลังหลอกล่อ แต่กำลังเปลี่ยนกระบวนท่าจริงๆ!”
ขณะที่ฮั่วหยิงหยูกำลังลังเล จู่ๆ ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นในหูของเธอและทำให้ดวงตาของเธอสว่างขึ้นทันที
"หืม?"
เย่เทียนจ้องไปที่ผู้ส่งสารคนนั้น รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา "ดีมาก! ช่างกล้าดีเสียจริง!"
ใบหน้าของ ซือหม่ามู่หยาง เปลี่ยนไปทันที ในใจของเขาอุทานออกมาว่าแย่แล้ว!
น่าเสียดายที่เย่เทียนไม่ให้โอกาสเขาตอบโต้ เขาตบโต๊ะ ทันใดนั้นร่างก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าพันธมิตรนักรบโบราณ ก่อนจะไม่พูดพร่ำและยกกำปั้นชกใส่อีกฝ่ายทันที
ผู้ส่งสารเป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง เกรงว่าแม้กระทั่งตัวเขาเองก็ยังไม่คาดคิดว่าจู่ๆ เย่เทียนจะมาโจมตีตน และเอาแต่ยืนอยู่ตรงนั้น
"ไม่ได้การ!"
“เจ้าสำนักเย่ คุณจะทำอะไร!”
“ไอ้หย่า หมัดที่แข็งแกร่งจริงๆ”
หัวใจของเย่เทียนลุกเป็นไฟมาตลอด เขาคาดหวังว่าพวกขยะเหล่านี้จะเผยร่องรอยบางอย่างออกมาให้เขาได้ระบายอารมณ์โมโหที่อัดอั้นอยู่ข้างใน
ไม่คาดคิดเลยว่าตอนนี้จะมีคนส่งมาให้ถึงที่
แล้วโอกาสแบบนี้มีหรือที่เขาจะพลาดได้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่