เมื่อเห็นทักษะการแสดงที่เกินจริงของจ้าวฝางกับหลี่ซาน เย่เทียนได้แต่รู้สึกขบขัน
แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่ด้วยทักษะการแสดงของพวกเขา ถ้าหากได้เข้าวงการบันเทิงจริงๆ ไม่กล้าบอกว่าจะไปถึงซุปตาร์ได้ แต่อย่างน้อยก็จะกลายเป็นที่รู้จักของผู้คนได้อย่างแน่นอน
หลังจากที่เปลี่ยนแปลงความสนใจ ดวงตาสีเข้มของเย่เทียนฉายแสงเป็นประกาย และเขาก็มองไปที่กงหย่วนด้วยรอยยิ้มจาง ๆ
เมื่อถูกสายตาที่เฉียบคมของเย่เทียนจ้องมอง กงหย่วนก็รู้สึกใจสั่นอย่างอธิบายไม่ถูก
แต่ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ตั้งสติได้ เขาเป็นถึงกัปตันทีมสืบสวนคดีอาญา และยังเป็นผู้แข็งแกร่งที่อยู่จุดสูงสุดของระดับเหลืองขั้นสุดยอด แล้วทำไมเขาต้องกลัวเด็กกระจอกคนนี้ด้วย?!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ กงหย่วนไม่เพียงแต่ไม่กลัว แต่ยังรู้สึกโกรธมากขึ้น!
“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ช่างกล้าดีนะ วันนี้ข้าจะจับพวกแกกลับไปให้ได้!”
หลังจากที่พูดจบ กงหย่วนก็ไม่ได้รีรออะไรอีก เขากระทืบเท้าเบาๆ แล้วพุ่งเข้าไปหาเย่เทียนด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า
ระยะห่างระหว่างทั้งสองไม่ได้ไกลมากนัก ประมาณในช่วงพริบตาเดียวเท่านั้น และในขณะนี้ หมัดเหล็กของกงหย่วนก็ชกตรงไปที่เย่เทียนอย่างไม่ลังเล!
กำปั้นที่ใหญ่เท่าหม้อนั้นดูเหมือนจะตัดผ่านอากาศได้ และเสียงลมที่เสียดสีกับกำปั้นดังขึ้นซึ่งทำให้ฟังแล้วต้องตกใจกลัว เพียงแค่ดูจากขบวนท่าของเขานั้น ถ้าหมัดนี้โดนใครรับรองว่าไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตแน่ เพราะนั่นเป็นพลังของระดับเหลืองขั้นสุดยอด เชียวนะ!
แต่ว่า เย่เทียนจะกลัวได้อย่างไร?
รอยยิ้มอันมีเลศนัยปรากฏขึ้นที่มุมปากของเย่เทียน และเขาก็พูดอย่างไม่แยแสว่า “ฝีมือเท่านี้ยังกล้ามาต่อกรงั้นเหรอ รนหาที่ตายชัดๆ!”
ในขณะที่พูดอยู่ เย่เทียนไม่ได้หลบเลี่ยงการโจมตีของศัตรู แต่เขากลับก้าวออกไปข้างหน้าแล้วสวนหมัดขวาที่เร็วเท่ากับสายฟ้าออกไป
กงหย่วนแอบได้ใจมาก เขาเป็นถึงระดับเหลืองขั้นสุดยอด แต่ไอ้เด็กเมื่อวานซืนคนนี้กลับพยายามรับหมัดของเขาโดยไม่คำนึงถึงอะไรเลย ช่างไม่รู้อะไรเลยจริงๆ!
“ใครจะเป็นคนที่รนหาที่ตายยังไม่แน่นอนหรอก!”
กงหย่วนเปล่งเสียงดูถูกเหยียดหยามและเพิ่มความแรงของหมัด
ในฐานะของการเป็นตำรวจที่มีประสบการณ์มาสิบกว่าปี เขาเคยเจอกับคนเลวมากมายนับไม่ถ้วนอยู่แล้ว และการโจมตีแบบนี้ของเขามันก็ได้ผลมานัดต่อนัด ซึ่งที่ผ่านมามันจะทำให้คู่ต่อสู้สำนึกผิดด้วยการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียวได้
ที่ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่ากงหย่วนได้จินตนาการไปถึงภาพที่เย่เทียนล้มลงและกรีดร้องเพื่อขอความเมตตาแล้ว
บู๊ม!
วินาทีถัดมา หมัดของทั้งสองก็กระแทกเข้าหากันทำให้เกิดเสียงทื่อดังขึ้น
ซี๊ด!
กงหย่วนอดไม่ได้ที่จะสูดปากแรงๆ ร่องรอยความเจ็บปวดจาง ๆ สื่อผ่านไประหว่างคิ้วของเขา เขาถอยหลังไปสามก้าวกว่าจะหยุดลง แต่มือขวาที่สั่นเท่านั้นมันแสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดที่ชัดเจน
ในทางกลับกัน เย่เทียนกลับนิ่งสงบ
และความแตกต่างเพียงอย่างเดียวนั้นก็คือ มุมปากของเย่เทียนกลับมีรอยยิ้มที่เข้มข้นมากขึ้น
“นี่ นี่มันอะไรกัน?”
“รับง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ?”
ผู้คนในห้องขังต่างตกตะลึงกันหมด
ให้ตายสิ ไอ้คนที่ชื่อเย่เทียนคนนี้มันคือใครกันแน่? ล้มไอ้กล้ามใหญ่คนนี้ก็เกินพอแล้ว แต่ตอนนี้กลับสู้กับกงหย่วนได้อย่างสบาย?
ซึ่งชายร่างกำยำคนนี้เป็นแค่คนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ฉะนั้นชีวิตความเป็นความตายของเขาไม่ได้เป็นที่สนใจของผู้คนมากนัก
แต่สำหรับกงหย่วนแล้วมันต่างกัน เพราะอายุยังไม่ถึงสี่สิบเขาก็ดำรงตำแหน่งหัวหน้าทีมสอบสวนคดีอาญาแล้ว นอกจากนี้ รอง ผบ.ตร. ของสถานีตำรวจภูธรก็เริ่มอายุมากขึ้น ดังนั้นผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดที่จะได้นั่งในตำแหน่งสูงสุดก็คือเขา!
แต่ว่า เย่เทียนกลับกล้าต่อกรกับเขา!
นี่มันต้องเป็นคดีใหญ่แน่!
ถ้าจะโดนจับจริงๆ การทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่มันต้องเป็นโทษที่สาหัสอยู่แล้ว บางทีอาจจะมีโทษจำคุกหลายปีเลยด้วยซ้ำ
“ให้ตายสิ! เย่เทียนคนนี้คือใครกันแน่? ทำไมถึงโหดขนาดนี้?”
“จะโหดแค่ไหนก็เท่านั้น ใครๆ ก็รู้ว่าหัวหน้ากงมีอีกชื่อว่าหมาบ้า แล้วคนที่ตกเป็นเป้าหมายของเขาจะหนีรอดไปได้อย่างไร?”
“นั่นสิ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เราจะนอนอยู่ในคุกถึงสามปีได้ไงล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่