ความจริงแล้ว ตอนที่เย่เทียนไปขอความช่วยเหลือจากโจ๋หย่วนหัน โจ๋หย่วหัน เฉาจื้อเหาและพวกตำรวจระดับสูงกำลังนั่งทำหน้าเคร่งเครียดกันอยู่
นอกจากจะเป็นเรื่องที่คุณยายกระดาษลี่ชุ่ยฮวาฆ่าคนจนเกิดเป็นเรื่องใหญ่ ถึงแม้ว่าเธอจะได้รับการลงทัณฑ์ไปแล้ว แต่ผลกระทบที่ตามมาก็ต้องได้รับการจัดการไม่ใช่รึไง?
ไม่มีวิธีไหนจะดีไปกว่าการหาใครขึ้นมาเป็นฮีโร่สักคนออกมา
แต่ประเด็นมันอยู่ที่ เย่เทียนไม่ใช่คนธรรมดา ถ้าจะให้เขามายืนอยู่ตรงหน้าทุกคน เขาจะเห็นด้วยมั้ย?
ถ้าให้คนอื่นขึ้นมารับตำแหน่งฮีโร่นี้ไป แล้วเย่เทียนจะโกรธมั้ย?
ด้วยเหตุนี้ ตอนที่เย่เทียนโทรศัพท์มา ทั้งสองฝ่ายก็เห็นพ้องต้องกันโดยที่ยังไม่ทันได้หารือกันเลยด้วยซ้ำ
ด้วยความที่กลัวเย่เทียนจะปฏิเสธ เฉาจื้อเหาถึงขั้นสั่งเฮลิคอปเตอร์อย่างตามใจให้ส่งโจ๋หย่วนหันกลับไปที่เจียงหนัน แถมยังถ่ายคลิปงานมอบรางวัลทั้งคืนเลยด้วย
แน่นอนว่า ด้วยปัญหาเรื่องเวลา จึงส่งผลให้งานแถลงข่าวของทางตำรวจไม่ได้จัดขึ้นเร็วขนาดนั้น
แต่ว่า ภายใต้การขอร้องอย่างหนักของเย่เทียน คลิปมันก็ถูกส่งไปที่เว็บไซต์ของทางตำรวจก่อนแล้ว
พอคลิปของการมอบรางวัลจบลง สายตาของเย่เทียนก็จ้องตรงไปที่เฉินหยัง แล้วพูดด้วยสีหน้าที่จะยิ้มไม่ยิ้มว่า “ทุกท่านสามารถลองดูข่าวที่กำลังเป็นกระแสอยู่ได้นะครับ”
เฉินหวั่นชิงที่ดีใจกับผลที่ออกมาดีเกินคาดและคนอื่นๆ ก็รีบเปิดดูคลิปอย่างรวดเร็ว ข่าวแรกก็ต้องเป็นการแถลงข่าวของทางตำรวจอยู่แล้ว พวกเขาชื่นชมความกล้าหาญที่เย่เทียนมี และสนับสนุนให้ทุกคนเอาเย่เทียนเป็นเยี่ยงอย่าง!
เย่เทียนแอบขำอย่างไม่ชอบใจไม่ยอมหยุด รู้สึกดูแคลนการตัดสินใจแบบนี้ของพวกเฉินหยัง
หนังสือพิมพ์? ตอนนี้มันสมัยไหนแล้ว ความเร็วในการเผยแพร่จะไปเร็วกว่าโซเชียลได้ยังไง?
ส่วนข่าวที่เป็นกระแสอันดับที่สองที่สาม ก็คือแถลงการณ์ขอโทษจากบริษัทต่างๆ กับเรื่องที่ไปทำร้ายเย่เทียนกับเฉินหวั่นชิงด้วยความไม่หวังดีเมื่อเช้า
เว็บไซต์ของบริษัทต่างๆ ไม่เพียงพาดหัวเรื่องการขอโทษที่มีต่อทั้งสอง และจะรีบตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ที่เป็นกระดาษออกมาให้เร็วที่สุด
ขอแค่อะไรผิดพลาด หุ้นของบริษัทที่ตกไปก่อนหน้านี้ก็น่าจะกลับขึ้นมาทันที และอาจจะสูงยิ่งกว่าเดิมด้วย!
เฉินหยังนั่งตกตะลึงอยู่บนเก้าอี้ ทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ เขานึกไม่ถึงจริงๆ ว่าทั้งๆ ที่ตัวเองวางแผนได้อย่างรอบคอบขนาดนี้แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะเฉินหวั่นชิงได้
“จริงด้วย ผมเกือบลืมบอกคุณไปเลยว่า เพื่อนของคุณที่มาหาผมตอนดึกๆ ดื่นๆ นั้น บังเอิญเขาก็เป็นเพื่อนของผมด้วยเหมือนกัน!”
เหมือนเย่เทียนจะนึกอะไรได้ แล้วพูดด้วยสีหน้าที่จะยิ้มไม่ยิ้ม “เพื่อนจริงๆ!”
ต่อให้จะไม่พอใจในตัวของเฉินหยังแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยังแซ่เฉินอยู่ดี เย่เทียนจึงจำเป็นต้องคำนึงถึงความรู้สึกของเฉินหวั่นชิงกับท่านปู่เฉินด้วย
ให้คนไปขโมยของมันถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย เย่เทียนไม่ได้เปิดโปงเขาตรงๆ เพื่อกันไม่ให้ท่านปู่เฉินตกใจจนโรคหัวใจกำเริบ
“ว่าไงนะ?”
เฉินหยังนั้นถึงกับช็อกไปเลย
ทำไมเขาจะฟังที่เย่เทียนจะสื่อไม่ออก เขานึกไม่ถึงจริงๆ ว่าไพ่ใบสุดท้ายที่ตัวเองคิดว่ามีอยู่ในมือนั้น มันกลับไม่ได้มีอยู่เลย!
ทันใดนั้น นอกจากความรู้สึกเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่ท้อแท้ของเฉินหยัง อีกสิบเปอร์เซ็นต์ก็ความโกรธที่มีต่อเจิ้นเซ่าเฉิน
เจิ้นเซ่าเฉินเป็นคนแนะนำเซี่ยนเฉียนจิ้งให้กับเขา เขาไม่แม้แต่จะรู้จักชื่อของเซี่ยนเฉียนจิ้งด้วยซ้ำ และดันบังเอิญไปเป็นเพื่อนของเย่เทียนอีก นี่มันไม่เท่ากับเป็นการวางกับดักเขาไม่ใช่รึไง?
“ทุกท่าน ในเมื่อปัญหาภายในของทุกท่านจัดการเรียบร้อยแล้ว งั้นก็ควรจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างเราแล้วใช่มั้ยครับ?”
ทันใดนั้นเอง ในที่สุดประธานกู่และประธานอีกสามคนที่คอยดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นก็ได้พูดออกมาสักที
“ถ้าผมทายไม่ผิด การที่ประธานทั้งสมาคมมาในวันนี้ ก็ตั้งใจที่จะมากดดันหวั่นชิงเหมือนกันใช่มั้ยครับ?”
เย่เทียนเหมือนเพิ่งจะสังเกตเห็นและได้มองไปที่ประธานทั้งสาม
ประธานทั้งสามที่นำทีมโดยประธานกู่ก็ได้พยักหน้าเบาๆ ถึงการที่เฉินหยังเสียผลประโยชน์จะอยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขาเหมือนกัน แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเป้าหมายเดิมของพวกเขาอยู่แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่