ภายในห้องเจรจาซื้อขายหุ้นของแต่ละเมืองใหญ่ เหล่าผู้ถือหุ้นที่ถือครองหุ้นบริษัทตระกูลเฉินสับสนวุ่นวายถึงที่สุด
ไม่มีเหตุผลอื่น ภายในการรับรู้ของทุกคน บริษัทตระกูลเฉินเป็นยอดเยี่ยมโดยแบบฉบับตัวหนึ่ง โดยพื้นฐานราคาหุ้นคงที่ดี แม้กระทั่งยังรักษาสภาพขาขึ้นไว้ได้ปีแล้วปีเล่า แต่ไหนแต่ไรไม่เคยตกลง โดยเฉพาะในปัจจุบันนี้ตกลงสาหัสขนาดนั้น
แต่ทว่าตอนนี้ ราคาหุ้นบริษัทตระกูลเฉินเกิดความผันผวนที่รุนแรงล้วนทำลายการรับรู้ของพวกเขาโดยสิ้นเชิง
“ทำยังไงดี? จะทำยังไง? นี่ตกลงไปอยู่ที่60หยวนแล้ว จะขายทิ้งตามไปด้วยกันเลยรึเปล่า?”
“ฉันซื้อไว้ตั้งหนึ่งพันหุ้น ตอนนี้ขาดทุนไปหกหมื่นแล้วเนี่ย”
“นายขาดทุนไปหกหมื่นมันจะไปมากกับผีอะไร! นี่แม่งเพิ่งผ่านมานานแค่ไหนกัน? ฉันขาดทุนไปสองแสนสี่หมื่นแล้ว นี่ซื้อรถได้คันหนึ่งเลยนะ!”
โดยทั่วไปแล้วสามารถพูดได้ว่าใครๆ ก็นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ราคาหุ้นบริษัทตระกูลเฉินที่คงที่แต่ไหนแต่ไรจะตกฮวบไวขนาดนั้น เพิ่งไม่กี่ชั่วโมงก็ตกลงไปตั้ง6หยวน นี่คือจังหวะของสถานะหยุดการเทรดลงหลังราคาตกอย่างหนักโดยแบบฉบับเลย!
ทันใดนั้น คนที่ไม่ค่อยไว้ใจบริษัทตระกูลเฉินก็รีบขายหุ้นตามกัน กลัวจะขาดทุนมหาศาล
แน่นอนว่า มีบางคนที่เชื่อใจต่อบริษัทตระกูลเฉินอย่างมาก ห้ามใจไม่ขายตามอย่างรู้สึกกังวล รอคอยการโจมตีกลับที่แหลมคมของบริษัทตระกูลเฉิน!
......
บริษัทก่อสร้างเทียนเฉิน
“ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”
มองหน้าจอใหญ่ตรงหน้าปรากฏสีเขียว และราคาหุ้นบริษัทตระกูลเฉินที่ตกลงไม่หยุด จางเวยหน้าฮึกเหิมเต็มที่ ทำท่วงท่ากุมบริษัทตระกูลเฉินได้อยู่หมัด
“ประธานจางครับ ตอนนี้ในมือของพวกเรายังมีหุ้นบริษัทตระกูลเฉินอยู่ประมาณเจ็ดล้านหุ้น”
นักเทรดหุ้นที่ก่อนหน้านี้จางเวยสอบถามว่าเป็นอย่างไรบ้างลุกขึ้นมา รายงานด้วยท่าทีเคารพ “ตอนนี้ราคาหุ้นของพวกเขาถูกพวกเรากดไว้ที่60หยวนครับ”
“ตอนนี้ยังมีเวลาอีกสองชั่วโมงก่อนปิดตลาดของวัน ให้ผมเล่นอีกสักสองรอบ ผมหวังว่าก่อนตลาดปิด จะสามารถทำราคาหุ้นบริษัทตระกูลเฉินตกไปอยู่ต่ำกว่า55หยวนได้ครับ!”
จางเวยหัวเราะเยาะไม่หยุด “เย่เทียน ครั้งนี้ฉันจะดูว่าแกยังมีฝีมืออะไร!”
“ได้ยินคำพูดของประธานจางกันรึเปล่า? ขายต่อไปอีก! เป้าหมายของวันนี้คือกดราคาหุ้นบริษัทตระกูลเฉินให้ต่ำกว่า55หยวน!”
......
ตึกสำนักงานเดี่ยวของบริษัทแซ่เจิ้ง ในห้องโถงกว้างขวางชั้นหนึ่งเต็มไปด้วยคอมพิวเตอร์และพนักงานคุม
ตอนที่ภาพของเจิ้นเซ่าเฉินปรากฏตัวขึ้นที่ห้องโถง ทุกคนหยุดการงานในมือพร้อมกันแบบไม่ได้นัดหมาย พูดอย่างเคารพเป็นเสียงเดียวกันว่า “ประธานเจิ้น!”
“ทุกคนไม่ต้องสนใจผม พวกคุณทำงานกันต่อเถอะ!”
เจิ้นเซ่าเฉินอมยิ้มพยักหน้า ก้าวเท้าเดินไปทางห้องทำงานกระจกใสห้องนั้นไม่หยุด
ด้านในห้องทำงาน มีเพียงชายหนุ่มที่อายุประมาณยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปีคนหนึ่ง กำลังนั่งอยู่ด้านในคอมพิวเตอร์ที่จัดวางไว้สูงสองสามเครื่อง จ้องหน้าจอคริสทัลสองสามเครื่องด้วยสีหน้าตั้งใจ
ส่วนที่แสดงบนหน้าจอ นอกจากสถานการณ์เกี่ยวกับราคาหุ้นบริษัทตระกูลเฉินแล้วยังเป็นอะไรได้อีก!
เจิ้นเซ่าเฉินผลักประตูเดินเข้ามา สอบถามด้วยเสียงทุ้ม “เสี่ยวหลอ ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”
“ประธานเจิ้น”
ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าเสี่ยวหลอเงยหน้ากวาดตามองแล้ว จากนั้นจ้องไปที่หน้าจอตรงหน้าต่อไป พูดแบบไม่เงยหน้ามา “จนถึงปัจจุบันนี้ ราคาหุ้นของบริษัทตระกูลเฉินก็ตกลงไปอยู่ที่59หยวนแล้วครับ”
ชื่อเต็มของเสี่ยวหลอคือหลอหย่งเฉียง จบการศึกษามาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในต่างประเทศ วิชาเอกคือด้านการเงิน ทั้งยังชำนาญเทคนิคเจาะระบบคอมพิวเตอร์ด้วย เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์โดยสมบูรณ์แบบ ต่อมาเจิ้นเซ่าเฉินจ้างกลับมาด้วยเงินเดือนสูง เป็นนักเทรดหุ้นอันดับหนึ่งของบริษัทแซ่เจิ้ง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่