ความจริงที่หลิวชิงและเชิ่งหู่มาไวขนาดนี้ก็เพราะจุดเกิดเหตุอยู่ไม่ไกลจากพวกเขา
ทันทีที่ได้รับข้อความขอความช่วยเหลือจากหลงเจี้ยนหัว หมาป่าโลภก็รับอำนาจบงการมา และสั่งให้ลูกน้องที่ประจำการตามอาณัติต่างๆรุดหน้าไปช่วยเหลือ
แต่ตอนนี้คนใต้บัญชาส่งข่าวมาว่ามีตำรวจจราจรตั้งด่าน หมาป่าโลภก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ
มีด่านตำรวจแค่สายเดียวไม่เท่าไหร่ สองสายก็ยังพอถูไถ แต่สามสายสี่สายมีด่านตำรวจหมดออกจะน่าคิดอยู่
และเพราะเหตุนี้ หมาป่าโลภปล่อยหลงเจี้ยนหัวทิ้งอย่างสิ้นเชิง และเรียกลูกน้องที่ส่งออกไปกลับมาให้หมด
ยังไงซะหลงเจี้ยนหัวก็เป็นเพียงหมาตัวหนึ่งที่ช่วยดูแลแก๊งมังกร ตราบใดที่ไม่ส่งผลกระทบต่อทั้งแก๊งมังกร แค่เปลี่ยนหมาไปหนึ่งตัวจะเป็นอะไรไป?
ต้องยอมรับว่าหมาป่าโลภสมกับเป็นคนที่ผ่านศึกมานับไม่ถ้วน มีความรู้สึกที่ฉับไวต่ออันตราย
น่าเสียดาย ความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของหมาป่าโลภคือเขายโสในความสามารถและความกล้าบ้าบิ่นของตัวเอง สั่งให้ลูกน้องซุ่มดักบนถนนที่นำไปสู่ฐานทัพใหญ่
และดันเป็นถนนที่อยู่ไม่ไกลจากจวี่เค่อโหลว ทำให้เชิ่งหู่และหลิวชิงมาได้ทันเวลาพอดี!
หลิวชิงเพิ่งรวมพลกับหน่วยใหญ่ก็ได้รับโทรศัพท์จากหยางซิง ตอนที่บอกเชิ่งหู่รู้ว่าเขาอยู่ห่างจากตัวเองไม่ไกล จึงรีบเดินทางมาด้วยกัน
คนจากทั้งสองฝ่ายรวมๆกันแล้วเกือบสองร้อยกว่าคน ล้อมสมาชิกแก๊งมังกรเจ็ดสิบแปดคนที่หมาป่าโลภพามาไว้มิด
ข่งเทียนเฉิงเห็นท่าก็มีสีหน้าซีดเผือดลงในบัดดล
แต่พอนึกถึงจุดจบหากต้องตกอยู่ในมือของเชิ่งหู่และหลิวชิง จะให้เขายอมแพ้ได้ยังไง!
หลิวชิงและเชิ่งหู่กระโจนเข้าไปอยู่ตรงหน้าเย่เทียน มองหมาป่าโลภด้วยสายตาไม่เป็นมิตร "คุณชายเย่ครับ จะให้เราลงมือตอนนี้เลยมั้ยครับ?"
"หมาป่าโลภไม่ใช่คนที่พวกนายสามารถจัดการได้ รอให้ฉันจัดการกับเขาก่อนพวกนายค่อยลงมือยังไม่สาย"
"แน่นอน ถ้าลูกน้องของแก๊งมังกรบังอาจเล่นตุกติก พวกนายก็อย่ามัวแต่ยืนเฉย จัดการพวกเขาได้เลย!"
เย่เทียนส่ายหัว มองหมาป่าโลภที่สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆด้วยรอยยิ้มบางๆ
ที่ในตอนแรกเขาจะไปฐานทัพใหญ่ของแก๊งมังกรเพียงคนเดียวก็เพราะคำนึงถึงหมาป่าโลภ
ถึงยังไงหมาป่าโลภก็เป็นยอดฝีมือระดับดำชั้นต่ำ เขาไม่เห็นอยู่ในสายตาก็จริง แต่พวกเชิ่งหู่ต่อกรด้วยไม่ได้เลย
การไม่ให้พวกเชิ่งหู่เข้าร่วมก็เพราะกลัวว่าจะเพิ่มคนล้มเจ็บ
น่าเสียดายที่แผนมักจะตามการเปลี่ยนแปลงไม่ทัน เย่เทียนคิดไม่ถึงว่าหมาป่าโลภจะพาคนมาซุ่มดักตัวเอง
"ได้ครับ"
กับคำสั่งของเย่เที่ยน เชิ่งหู่และหลิวชิงสองคนไม่มีความคิดเห็นอะไรอยู่แล้ว
พวกเขาสั่งให้ลูกน้องยืนรักษาตำแหน่งเดิม อย่าผลีผลามทำอะไร ส่วนเขาทั้งสองจ้องข่งเทียนเฉิงเขม็ง หากข่งเทียนเฉิงทำท่าจะทำอะไร พวกเขาจะตอบโต้ได้ในนาทีแรก
"พวกนายอย่าเพิ่งขยับ ฉันขอไปทดสอบพลังที่แท้จริงของเย่เทียนก่อน!"
หมาป่าโลภตะโกนใส่ข่งเทียนเฉิงผ่านชุดหูฟัง และก้าวไปข้างหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว
ข่งเทียนเฉิงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เขาเบิกตากว้างเพื่อดูสงครามยิ่งใหญ่ที่กำลังจะเปิดฉาก
“นายมีพลังขนาดนี้ด้วยอายุเท่านี้ เรียกได้ว่าเป็นคนมีพรสวรรค์ น่าเสียดายที่นายไม่ควรขวางทางฉัน”
หมาป่าโลภเพ่งมองเย่เทียนและส่ายหัวเบาๆ
เย่เทียนเบ้ปาก พูดอย่างรำคาญใจ “แกเลิกพูดมากสักทีได้มั้ย ถ้าจะตีกันก็รีบๆ อีกสักพักฉันมีเรื่องต้องทำต่อ”
กับท่าทีของเย่เทียนที่ดูแคลนตัวเองเช่นนี้ หมาป่าโลภอดแสยะยิ้มมุมปากไม่ได้ เขาอุทานในใจ: ยังหนุ่มเกินไปจริงๆ มีแค่พลังอันแข็งแกร่งแล้วยังไง จะเป็นคู่มือของคนที่ผ่านศึกมานับไม่ถ้วนอย่างตัวเองรึ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หมาป่าโลภก็ไม่ลังเลอีก เขาขยับปลายเท้า โค้งตัวและพุ่งไปหาเย่เทียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่