“เย่เทียนอย่าโทษที่ผมไม่ได้เตือนสติคุณ แม้ว่าคุณย่าหวังจะให้คุณกลับไป ผมขอเตือนคุณทางที่ดีอย่ากลับไป ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นแค่ความอัปยศใส่ตัว!”
เย่ย่งเล่อยิ้มเตือนอย่างเย็นชา หันตัวเตรียมจะจากไป
“เดี๋ยวก่อน”
เพียงแต่ ไม่รอเย่ย่งเล่อหันตัวกลับไป ในที่สุดเย่เทียนก็ส่งเสียงขัดขวางไว้
“บอกคุณย่าหน่อย ผมยินดีต้อนรับคุณย่ามาที่เจียงหนาน แต่ให้ผมกลับตระกูลเย่ นั่นกำหนดแล้วว่าเป็นไปไม่ได้!”
ในขณที่พูดนั้น เย่เทียนไม่มีความลังเลเลยแม่แต่น้อย เสมือนกับเผือกร้อน(ปัญหาเกิดขึ้นแล้วรีบโยนให้ผู้อื่น) เอาไปโยนให้ เย่ย่งเล่อ!
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอดีตหรือปัจจุบัน เย่เทียนไม่เคยลืมเรื่องเหตุการณ์ตั้งแต่แรกที่ถูกคนของตระกูลเย่ไล่ออกจากประตู
จนกระทั่ง ถ้าไม่ใช่คุณย่าออกหน้าช่วยเหลือ เกรงว่าเขาคงไม่ใช่แค่ถูกไล่ออกอย่างเดียว อีกทั้งยังถูกกลุ่มญาติทั้งหมดตัดหางปล่อยวัด!
ญาติแบบนี้ ตระกูลเย่แบบนี้ เป็นไปได้ไงว่าเย่เทียนจะกลับไปล่ะ?
“นาย!”
ทันใดนั้น เย่ย่งเล่อโกรธจัด ตาจ้องมองเย่เทียนด้วยความแค้น สีหน้าบูดบึ้ง “เย่เทียน นายกล้าทิ้งป้ายตระกูลเย่ของพวกเราหรอ นายรู้รึเปล่านี่นายกำลังดูหมิ่นตระกูลเย่ของพวกเรา?!”
“ผมดูหมิ่นตระกูลเย่แล้วจะยังไง?”
เย่เทียนเดินก้าวมาข้างหน้าไม่ลังเลสักนิด
เฉินหวั่นชิงปฏิกิริยาตอบรับไวยื่นมือไปดึงเย่เทียนไว้ ใช้สายตามองไปทางเขาสุดชีวิต
เพียงแต่ เย่เทียนเดิมก็ไม่สนใจที่เฉินหวั่นชิงแนะนำ มองไปที่ เย่ย่งเล่อด้วยใบหน้าที่ดูถูก
มุมปากเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยขึ้น
“บางทีคนอื่นอาจจะกระดิกหางขอความสงสารจากพวกคุณตระกูลเย่ แต่ผมเย่เทียนไม่แคร์!”
เรื่องบางเรื่องแม้ว่าเขาจะไม่เคยพูดถึง แต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่าเขาจะลืม
ไม่ว่าจะเป็นชาติที่แล้วหรือจะเป็นปัจจุบัน เขาก็ไม่ลืมที่เมื่อก่อนถูกไล่ออกมาจากตระกูลเย่ยังไง ตอนนั้นเขาตัดสินใจแล้ว จะไม่กลับเข้าไปเหยียบตระกูลเย่แม้แต่ครึ่งก้าว!
แน่นอน ถ้าเย่ย่งเล่อพูดจาดี เขาอาจจะเห็นแก่คุณย่าผู้อาวุโสกลับไปเยี่ยมคนชราประมาณนั้น
แต่น่าเสียดาย เย่ย่งเล่อเป็นคนใช้ทัศนคติครอบงำคน ดันใช้คำพูดที่เย่เทียนรังเกียจที่สุด
เย่เทียนจะสามารถที่จะคล้อยตามยอมรับได้อย่างไรล่ะ?
ฉากนี้พวกกินแตง(พวกคนที่สนใจแต่เรื่องชาวบ้าน)ที่อยู่ในสถานการณ์ต่างพากันตกใจอย่างไม่ต้องสงสัย แอบถอนหายใจที่วันนี้ไม่ได้มาเสียเที่ยว
ก่อนหน้านี้ พวกเขายังเดาว่าท่านเฒ่าฉินเป็นเพราะความสัมพันธ์ของตระกูลเย่ถึงเป็นมิตรกับเย่เทียน แต่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าสถานการณ์จะพลิกกลับเร็วขนาดนี้
ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว เกรงว่าเย่เทียนไม่เพียงแต่ไม่คืนดีกับตระกูลเย่ ไม่แน่อาจจะยิ่งหนักขึ้นๆ!
ไม่แคร์?
ตระกูลเย่คือตระกูลชื่อดังในเมืองจินและแม้แต่ประเทศจีนทั้งหมด ขอแค่สามารถกอดต้นไม้ต้นใหญ่ไว้ได้ อย่างน้อยสามชั่วอายุคนก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป
“เย่เทียน!”
เฉินหวั่นชิงได้สติกลับมาเป็นคนแรก รีบเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวดึงแขนเย่เทียนไว้ ส่ายศีรษะเล็กน้อยแสดงให้รู้ว่าอย่าวู่วาม
นี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เย่เทียนทำให้เธอเข้าใจว่าภาพลักษณ์ส่วนใหญ่เป็นคนใจร้อนวู่วาม ประเภทที่ใช้ความ?รุนแรง
“ดีๆๆ!”
เย่ย่งเล่อโมโหจนยิ้มออกมา พูดติดๆกันออกมาสามคำ สายตาจ้องตรงไปที่เย่เทียนอย่างเย็นชา
“ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ลูกชายที่ถูกทอดทิ้งตระกูลเย่อย่างนายกลับแน่มาก ทำให้ฉันประหลาดใจจริงๆ”
“แต่ว่า นายทิ้งป้ายของตระกูลเย่เรา งั้นก็เท่ากับดูหมิ่นตระกูลเย่ ฉันจะดูความสามารถของนายจะเก่งเหมือนปากนายรึเปล่า!”
ในระหว่างพูด ท่าทางขี้เกียจรอบๆตัวค่อยๆจางหายไป กลับแทนที่ด้วยความกดขี่ที่ไม่สิ้นสุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่