“ว่ายังไงนะ! นายจะให้ฉันไปขอโทษเหมือนคนขี้ขลาดเหรอ? ฉันไม่ได้ฟังผิดไปใช่มั้ย?”
เย่เทียนแกล้งตอบรับข้อเสนอของซูเย่าหมิงเสียงดัง “นายเป็นถึงคุณชายใหญ่แห่งตระกูลซูเลยนะ ทำไมถึงต้องกลัวเจ้าคนต้อยต่ำแบบนี้ด้วย”
“ไม่ได้นะ! ฉันจะขอโทษหรือไม่นั้นไม่สำคัญ แต่ถึงยังไงนี่ก็เกี่ยวพันถึงหน้าตาของนาย หลังจากนี้นายจะออกมาอยู่ในสังคมได้ยังไง?”
เมื่อคำพูดนี้ถูกเอื้อนเอ่ยออกไป ทุกคนต่างมองซูเย่าหมิงด้วยสายตาดูแคลน เป็นถึงคุณชายใหญ่แห่งตระกูลซูแต่กลับกลัวคนต่ำต้อยอย่างฟางหย่ง เรื่องนี้ถ้าเล่าให้คนอื่นฟังต้องตลกแน่
สัมผัสได้ถึงสายตาที่ทุกคนมองมา ซูเย่าหมิงหน้าตาอึดอัดใจ แทบอยากจะขุดหลุมแล้วเอาหน้าฝังลงไป ในใจแค้นเย่เทียนแทบบ้า
แต่ไม่รอให้เขาตั้งตัว เสียงดังฟังชัดของเย่เทียนก็ดังขึ้นข้างหูอีกครั้ง
“ไม่ใช่ความผิดของเราสักหน่อย ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะทำตัวไม่มีขื่อไม่มีแปได้”
“คุณชายซู นายไปยืนอยู่อีกด้านก่อน ฉันจะไปบอกเขาเองว่าอะไรคือเหตุผล!”
พูดจบ เย่เทียนก็เดินไปหาฟางหย่งโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
ส่งผลให้ซูเย่าหมิงทั้งโมโหทั้งดีใจ
โมโหที่เมื่อกี้เย่เทียนตะโกนเสียงดังขนาดนั้น ทำให้เขาต้องขายหน้า
ดีใจที่เย่เทียนโมโหจนไม่สนอะไร ในที่สุดแผนนี้ก็กลับสู่เส้นทางที่วางไว้
ถึงยังไงเขาก็ออกตัวให้ก่อนแล้ว เย่เทียนเป็นคนห้ามเขาเอง ต่อให้โดนพวกฟางหย่งทำร้ายก็เป็นปัญหาของตัวเย่เทียนเอง
เย่เทียนไม่มีเวลาไปสนใจว่าแท้จริงแล้วซูเย่าหมิงคิดยังไง คล้อยตามที่เขาก้าวออกไปแล้วสายตาของทุกคนก็จับจ้องมาที่เขา
เย่เทียนไม่สนใจสายตาหลากอารมณ์ของพวกเขาเลยสักนิด เขาเดินไปอยู่ตรงหน้าฟางหย่งด้วยท่าทีสบายๆ คลี่ยิ้มบางๆที่มุมปาก
“แกชื่อฟางหย่งอะไรนั่นใช่มั้ย”
ไม่รอให้ฟางหย่งพูดอะไร ลูกน้องสามสี่คนด้านหลังเขาส่งเสียงด่าอย่างทนไม่ไหว
“แกคิดว่าตัวเองเป็นใครวะ ชื่อของพี่หย่งใช่ที่แกจะมาเรียกได้เหรอ?”
“ยังจะกล้าเรียกชื่อพี่หย่งตรงๆอีก เชื่อมั้ยว่าฉันฆ่าแกตายได้ทุกนาที!”
“ได้ยินชัดเจนรึยัง? รีบเรียกพี่หย่งเร็วเข้า ไม่อย่างนั้นฉันจะอัดแกจนแม่แกยังจำแกไม่ได้!”
ฟางหย่งปล่อยให้พี่น้องข้างกายเหยียบย่ำเย่เทียนอย่างชอบใจ ใบหน้าฉายรอยยิ้มจางๆ และมองเย่เทียนอย่างผู้เหนือกว่า
ในความเข้าใจของเขา ในเมื่อเจ้านายหยางเซ่าเหวินสั่งให้เขามาต่อกรกับเย่เทียน ขอเพียงไม่มีอันตรายถึงชีวิต หยางเซ่าเหวินต้องปกป้องเขาแน่นอน มีอะไรให้ต้องกลัว
"หยุดๆๆ ไอ้หนุ่มคนนี้เพิ่งเคยเจอฉันครั้งแรก ไม่รู้จักชื่อฉันก็ไม่แปลก"
ฟางหย่งโบกมือให้พี่น้องของเขาหยุด และมองเย่เทียนด้วยสีหน้าเย็นชา "แกรู้มั้ยว่าฉันให้แกมาทำไม?"
เย่เทียนส่ายหัว "ไม่รู้"
"ไม่รู้?"
ฟางหย่งแค่นเสียงเย็น เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงและตบลงไป
ทว่าเย่เทียนจะปล่อยให้เขาตบโดนง่ายๆได้ยังไง เขาขยับเท้าเล็กน้อยก็หลบฝ่ามือของฟางหย่งได้อย่างง่ายดาย
"จะพูดก็พูด ลงมือโดยไม่ทักไม่ทายแบบนี้มันเกินไปหน่อยมั้ย?"
"แหม แกกล้าหลบด้วยเหรอ?"
ฟางหย่งโมโหขึ้นมาในทันใด "ฉันตบหน้าแกถือว่าให้เกียรติแก แน่จริงแกก็ลองหลบอีกรอบสิ!"
ขณะที่พูดกัน ฟางหย่งก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งขันหนึ่งก้าว และตบไปอีกฉาด
เย่เทียนเลิกคิ้วขึ้น มือขวาพุ่งออกไปไวปานสายฟ้า จับข้อมือของฟางหย่งอย่างแม่นยำ นัยน์ตาสีนิลหรี่ลงเล็กน้อย ความเย็นเยียบแวบผ่านไปจางๆในแววตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่