ภายใต้ความดีใจในเรื่องหินกักเก็บชี่ทิพย์ เย่เทียนก็ลืมเรื่องที่พนันกับหลี่เฟิงไปซะสนิทเลย และกำลังยืนรอเด็กหนุ่มกลับมาอยู่ตรงหน้าแผงอย่างเบื่อหน่าย
แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือ ชีวิตคนเรามันมักเหมือนกับเรื่องตลก บางทีต่อให้คุณไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว แต่เรื่องมันก็จะวิ่งมาหาคุณเอง
ในตอนที่เย่เทียนกำลังเบื่อมากๆ หลี่เฟิงก็ได้ปรากฏตัวออกมา และเริ่มพูดจาล้อเลียนอย่างกวนประสาท
“โอ๊ะโอ๋ นี่มันคุณชายเย่ไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้มันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว ยังหาหินที่ถูกใจไม่ได้อีกเหรอครับ?”
“หรือว่า คุณชายเย่จะไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับการพนันในครั้งนี้เลยนะ? ไม่รู้ว่าควรดูยังไง?”
เย่เทียนกระตุกคิ้ว ในที่สุดก็นึกถึงการเดิมพันของทั้งคู่ได้ สายตาก็เหลือบไปเห็นหินที่ถูกบอดี้การ์ดด้านหลังอุ้มไว้
ทันทีที่เห็นมัน สีหน้าของเย่เทียนก็ดูประหลาดขึ้นมา
นั่นก็เป็นเพราะ หินก้อนที่หลี่เฟิงเลือกมามันค่อนข้างแปลก
เมื่อมองจากรูเล็กๆ ที่ถูกผ่าแล้ว มันก็ออกมาเป็นสีเขียว แถมยังเขียวมากด้วย สีสันค่อนข้างสวยเลย
แต่สิ่งที่ผิดปกติก็คือ เย่เทียนนั้นสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าในหินก้อนนี้มันไม่ได้มีชี่ทิพย์อยู่มากมายนัก จนสามารถใช้คำว่าเบาบางมาเปรียบเปรยได้เลย
จากตรงจุดนี้ เย่เทียนก็คาดเดาได้ไม่ยากว่า หินที่อยู่ในมือของบอดี้การ์ดนั้น มีเขียวแค่ตรงจุดที่ผ่าออก ส่วนที่เหลือก็น่าจะขาวโพลนไปกว่าครึ่ง!
มันช่างเข้ากับคำที่กล่าวขานกันวงการพนันหินว่า มีดเดียวขึ้นสวรรค์ มีดเดียวลงนรกจริงๆ!
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าหลี่เฟิงซื้อหินก้อนนี้มาในราคาเท่าไหร่ แต่เย่เทียนก็มั่นใจเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่า หินก้อนนี้ต้องพนันขาดทุนแน่นอน!
“ผมว่านะ คุณรีบๆ ยอมแพ้ไปซะเถอะ แล้วรีบเรียกผมว่าพี่ จากนั้นก็กลิ้งออกไปซะ อย่ามาขายหน้าอยู่ตรงนี้จะดีกว่า!”
หลี่เฟิงนั้นไม่รู้หรอกว่าเย่เทียนกำลังคิดอะไรอยู่ พอเห็นเขาเงียบ จึงได้เร่งเร้าด้วยความรังเกียจ
เย่เทียนที่ตั้งสติได้ จึงขมวดคิ้วหนักยิ่งกว่าเดิม
“หินนั้นผมหาได้ตั้งนานแล้ว แต่ผมเป็นคนที่จิตใจดี เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่ให้โอกาส ด้วยความที่ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มผ่าผมอนุญาตให้คุณยกเลิกการเดิมพันที่มีอยู่ก่อนหน้าก็ได้”
พอเห็นเย่เทียนที่ทำหน้าย้มแย้ม หลี่เฟิงก็เหมือนราวกับเพิ่งได้ฟันมุขที่ตลกที่สุดในโลก จึงได้หัวเราะออกมาเสียงดัง
หลี่เฟิงจะไปฟังคำพูดของเย่เทียนเข้าหูได้ยังไง เข้าใจว่าเขาแค่อยากยอมแพ้ แต่ก็ไม่อยากขายหน้า จึงได้ทำตัวแข็งกร้าวแบบนั้น
“คุณบอกว่าคุณเลือกหินได้แล้ว แล้วหินนั่นอยู่ไหนล่ะ?”
“ผมว่าคุณเห็นหินที่ผมเลือกมามันไม่ธรรมดา เลยจงใจพูดให้ผมล้มเลิกการพนันล่ะมั้ง?”
“แต่ผมจะบอกอะไรให้นะ การเดิมพันก็คือการเดิมพัน เมื่อพูดออกไปแล้วก็ไม่มีทางคืนคำเด็ดขาด! ตอนนี้ต่อให้คุณทำให้ท้องฟ้าทะลุเป็นรู การเดิมพันในครั้งนี้ก็ยังจะดำเนินต่อไป!”
เย่เทียนส่ายหัวด้วยความจนใจ ถ้าตัวเองทำการพนันกับหลี่เฟิงจนจบ เขาก็ต้องออกจากที่นี่ไปก่อน และดันไม่มีช่องทางการติดต่อของเด็กหนุ่มคนนั้นอีก เกิดเด็กนั่นไม่เห็นตนแล้วกลับไปก่อนจะทำยังไง?
ถึงแม้โอกาสที่เด็กนั่นจะไปก่อนมันน้อยมาก แต่เย่เทียนก็สนใจในหินกักเก็บชี่ทิพย์มาก ไม่อยากให้เกิดข้อผิดพลาดแม้แต่น้อย
ต่อให้เงินที่เดิมพันกับหลี่เฟิงจะสูงถึงยี่สิบล้าน แต่ถ้าเอามาเทียบกับหินกักเก็บชี่ทิพย์ เย่เทียนก็ยังรู้ดีว่าอะไรที่สำคัญกว่ากัน
เงินนั้น ยังไงก็หาอีกได้ แต่ถ้าพลาดหินกักเก็บชี่ทิพย์นั่นไป ใครจะไปรู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะได้เจออีก
แต่ว่า หลี่เฟิงกลับมองความหวังดีของเขาเป็นการยอมแพ้ซะได้ แล้วเย่เทียนจะไปทนได้ยังไง!
“ผมแค่เตือนคุณด้วยความหวังดี ผมรู้ว่าคุณเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลี่ ไม่ได้ขัดสนอะไร แต่สุดท้ายตัวถ่วงความเจริญของบ้านก็น่าขายหน้าอยู่ดี!”
“แต่ว่า พอคิดว่าคุณก็เอาเงินโยนมาที่ผม ผมก็ดีใจแทนพ่อคุณจริงๆ”
หลี่เฟิงจะไปรับฟังคำพูดของเย่เทียนได้ยังไง จึงได้พูดอย่างเหยียดหยามไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่