เมื่อเห็นว่าตัวเองควบคุมตัวเองไม่ได้ เหมือนกับคนดูอย่างไรอย่างนั้น เย่เทียนก็ร้อนใจเป็นอย่างมาก
แม้ว่าเขาจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง แต่สถานการณ์ไม่ปกตินี้ก็เพิ่งได้พบเจอเป็นครั้งแรก ไม่ว่าในใจเขาจะร้อนรนขนาดไหน แต่กลับไม่มีทางจะเปลี่ยนสถานการณ์ที่เป็นอยู่ได้เลย
ขนาดเย่เทียนเองก็เป็นแบบนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการฝึกวิชาเพื่อให้มีพลังออกมาเลย ยังเรียกจี้เยียนหรันว่านักบู๊ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
เธอถึงขนาดไม่สามารถทำให้ตื่นตัวตลอดเวลาได้ พลางมองไม่เห็นอะไรตรงหน้าไป ก่อนจะมองเห็นแต่กรงเล็บทั้งสองของหลิวจื่อหยังตรงหน้าเท่านั้น
ในใจที่ยากหยั่งถึง เหมือนจะได้ยินเสียงของมนต์ ที่บอกให้เธอเข้าไปอย่างไม่หยุด
ด้วยเหตุนี้ ก้าวของจี้เยียนหรันที่เดินเข้าไปหาหลิวจื่อหยังนั้นไม่ช้าไปกว่าเย่เทียนเลย
นอกจากคนของสำนักที่ยืนอยู่หลังหลิวจื่อหยังแล้ว สิ่งเดียวที่ไม่ได้รับผลกระทบอะไรแถมยังหลบอยู่ตรงมุมมืดมาตลอดก็คือลูกเด็กบรรจุศพ
หลังจากที่กลืนยาเพิ่มพลังไปสองเม็ดแล้ว ลูกเด็กบรรจุศพก็นั่งพิงสันเขาเพื่อฟื้นฟูพลัง บวกกับคืนมืดที่มันมืดมนเป็นอย่างมาก ทำให้หลิวจื่อหยังกับคนอื่นๆ ไม่เห็นเขาเลย
แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ ฝ่ายตรงข้ามที่เผชิญหน้าอยู่นั้นไม่ได้ปิดบังการฝึกฝนเลย การเจอกับผู้แข็งแกร่งระดับดำทั้งสิบแปดนั้น ลูกเด็กบรรจุศพที่เจ็บหนักจะไปทำอะไรอย่างไม่คิดให้ดีได้อย่างไร
เกรงว่าเขาที่เพิ่งจะรู้จักเจ้านายใหม่ และเดินเข้าไปหาเหมือนถูกสั่งการ เขาเองก็ไม่กล้าเข้าสู้ด้วยชีวิต
ถึงอย่างไร อย่างน้อยปัญหาเรื่องยาพิษก็อยู่ได้ราวๆ เดือนหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจจะหาคนมาถอนพิษได้?
แต่ถ้าเกิดปรี่เข้าไปแบบนี้ มันจะยิ่งเหมือนเป็นการรนหาที่ตาย!
จะว่าอย่างไร เขาก็ยังเป็นคนที่เย่เทียนรับมาอย่างไม่เต็มใจอยู่ดี แล้วจะรู้หน้าที่ตัวเองได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร ปรนนิบัติรับใช้เป็นหน้าเป็นหลังล่ะ?!
วิ้งๆ !
ในตอนที่เย่เทียนมองตัวเองเดินเข้าไปหาหลิวจื่อหยังจนห่างเพียงสองเมตรนั้น สมองกลับมีความเจ็บปวดอย่างสุดแสนออกมาทันที!
“โอ้ย!”
ความรู้สึกนี้มันเหมือนถูกต่อต่อยเข้าอย่างจังบนหน้าผากเลยล่ะ ด้วยความไม่ระวัง เกรงว่าเย่เทียนที่ใจแข็งดั่งเหล็กกล้าจะอดไม่ได้ที่จะร้องออกมา
จากนั้น เย่เทียนก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจขึ้นมา
ในที่สุดเขาก็กลับมาควบคุมตัวเองได้แล้ว!
“แม้ว่าจะไม่รู้ว่าคุณเป็นลูกอะไรกันแน่ แต่การมีคุณนั้นก็เป็นเหมือนเรื่องที่ดีที่สุดในชาตินี้ ไม่สิ สองชาติเลยด้วยซ้ำ!”
เย่เทียนสามารถรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดก็เพราะหน้าปกทองบริเวณหว่างคิ้ว เลยมีอารมณ์เกิดขึ้นในใจ
ปัง!
เย่เทียนที่กลับมาคุมตัวเองได้ ก็ตบลงบนคอของจี้เยียนหรันที่ห่างจากหลิวจื่อหยังเพียงเมตรเดียวเท่านั้น ก่อนจะหมดสติไป
อย่างแรกคือกระบวนท่าของหลิวจื่อหยังนั้นประหลาดเป็นอย่างมาก เกรงว่าจี้เยียนหรันจะได้รับอันตรายอย่างหนัก
อย่างแรก เรื่องต่อจากนี้อาจจะโหดร้ายมาก เย่เทียนไม่อยากให้เกิดความหมองภายในจิตใจของจี้เยียนหรัน แล้วจะต้องมาฝันร้ายภายหลัง
“นี่ นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”
เมื่อมองเห็นเย่เทียนที่ฟื้นฟูพลัง หลิวจื่อหยังก็เบิกตาโพลง ด้วยความยากจะเชื่อ
ยอดปีศาจที่ส่งต่อวิชาฆ่าวิญญาณให้เขานั้นบอกแล้ว ว่ามันเป็นมนต์แห่งการครอบงำ แม้แต่คนที่ฝึกจนอยู่ในระดับสูง ก็สามารถใช้วิธีนี้ชนะได้สบายๆ
หลิวจื่อหยังในวันนี้เป็นแดนดำระดับกลาง หรือว่าเย่เทียนจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับดินงั้นเหรอ?!
ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ อย่าว่าแต่ยอดฝีมือระดับดำของสำนักหวู่หันที่อยู่ด้านหลังเขาสิบเจ็ดคนเลย มันคงจะมีแต่การส่งไปหาความตายเท่านั้นล่ะ!
เพียงแต่ว่าความคิดนี้เพิ่งจะผุดออกมา หลิวจื่อหยังก็รีบปฏิเสธมันออกไป
ถึงอย่างไร ตอนแรกวิชาดูดพลังนั้นก็ใช้ได้จริงๆ
ถ้าอย่างนั้น เย่เทียนหลุดออกมาได้อย่างไรกัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่