“ฉัน ตอนนี้ฉันไปได้หรือยัง?”
เห็นสีหน้าเคียดแค้นของเฉินหวั่นชิงแล้ว ฉีหลินชิ่งไม่กล้าอยู่ที่นี่ต่อ เขาพูดเสียงแผ่วด้วยหน้าซีดๆ
“ได้สิครับ ได้อยู่แล้ว”
เย่เทียนยิ้มให้และพยักหน้า พร้อมทำมือเชิญอย่างเป็นมิตร
เมื่อร่างของฉีหลินชิ่งหายลับไปแล้ว เหอเชิ่งถึงก้าวเร็วๆเข้ามาอยู่ข้างกายเย่เทียน
“เป็นไงบ้าง? อัดเสียงเมื่อกี้ไว้หมดแล้วใช่มั้ย?”
เย่เทียนชำเลืองเล็กน้อยและถามด้วยรอยยิ้มเย็น
“คุณชายเย่วางใจเถอะครับ ถึงแม้ที่นี่จะเสียงดังไปหน่อย แต่เมื่อกี้ผมยืนใกล้ขนาดนั้น เสียงของเจ้าคนแซ่ฉีชัดเจนมากครับ”
เหอเชิ่งหัวเราะแหะๆ และล้วงเอาปากกาอัดเสียงด้ามหนึ่งออกมาจากในกระเป๋า
เย่เทียนพยักหน้าอย่างพอใจ แสยะยิ้มชั่วร้ายที่มุมปาก เขายื่นมือออกไปรับปากกาอัดเสียงและเดินไปอยู่ตรงหน้าเฉินหวั่นชิง
“เมียจ๋า ช่วงนี้ผมมีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย ยังไม่ว่าง”
“เดี๋ยวคุณคัดลอกไฟล์เสียงนี้แล้วส่งไปให้บริษัทแซ่เจิ้ง เชื่อว่าพวกเขาจะไม่บุ่มบ่ามทำอะไรอีกในระยะสั้นๆ”
เฉินหวั่นชิงชะงัก ก่อนจะมองเย่เทียนอย่างสื่อความหมาย แต่ไม่ได้ถามว่าเขาจะไปจัดการเรื่องอะไรอย่างรู้หน้าที่
เด็กสาวถอนหายใจอย่างโล่งอก และขอบคุณจากใจจริง “เย่เทียน เรื่องครั้งนี้ต้องรบกวนนายจริงๆ ถ้าไม่ได้นายเรื่องวันนี้คงไม่คลี่คลายง่ายๆอย่างนี้แน่นอน”
“เมียจ๋า เราสองคนยังต้องแบ่งแยกชัดเจนอีกเหรอ คุณไม่จำเป็นต้องเกรงใจผมหรอกครับ”
เย่เทียนแกล้งทำเป็นเบ้ปากอย่างไม่พอใจ
ถึงแม้เธอกับเย่เทียนจะยังไม่ได้เป็นสามีภรรยาที่แท้จริง แต่ถึงยังไงก็เป็นสามีภรรยากันในนาม ถ้าเกรงใจเกินไปออกจะไม่ถูกต้อง
แต่เฉินหวั่นชิงไม่ได้อยู่ข้างกายเย่เทียนนานนัก เธอขึ้นเวทีไปให้สัมภาษณ์กับสื่อพร้อมกับแซ่เจีย
เกรงว่าบริษัทแซ่เจิ้งไม่คิดไม่ฝันเลยว่านอกจากเรื่องวันนี้จะทำอะไรบริษัทแซ่เฉินไม่ได้แล้ว กลับยิ่งส่งเสริมผลลัพธ์ของเซรั่มปลูกผมให้โดดเด่นกว่าเดิม
เชื่อว่าหลังจากวันนี้ไป เซรั่มปลูกผมของบริษัทแซ่เฉินต้องก่อเกิดมรสุมขนาดใหญ่แน่นอน!
"คุณชายเย่ โชคดีนะคะที่วันนี้มีคุณอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าจะจบเรื่องนี้ยังไง"
ขณะนั้น กู้กวนชีที่อุตส่าห์มีเวลาว่างเบียดมาอยู่ข้างกายเย่เทียน
"ฉันบอกเธอแต่แรกแล้วว่าตราบใดที่เธอติดตามฉันด้วยความจริงใจ ฉันไม่ปล่อยให้เธอเสียเปรียบใครหรอก"
เย่เทียนยิ้มอย่างไว้ท่า และมองกู้กวนชีตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างลึกล้ำ
กาลครั้งหนึ่งผู้หญิงคนนี้ก็เคยโดนเจิ้นเซ่าเฉินซื้อตัวไป พิจารณาที่เธอสามารถละทิ้งความมืดมิดและหันหน้าเข้าหาแสงสว่างและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเฉินหวั่นชิงแล้ว เย่เทียนไม่ได้เอาเรื่องเธอ
ติ๊งติ๊ง!
ไม่รอให้กู้กวนชีตอบอะไร มือถือในกระเป๋าของเย่เทียนก็ดังขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน
เย่เทียนบอกเด็กสาวก่อนจะเดินออกมารับโทรศัพท์ และพบว่าหลิวชิงเป็นคนโทรเข้ามา
ตามหลักแล้วหลิวชิงควรจะยุ่งมากสิ ทำไมถึงโทรมาในเวลานี้ล่ะ?
นัยน์ตาสีนิลของเย่เทียนหรี่ลงเล็กน้อย แต่มือกดรับสายอย่างไม่รอช้า
"คุณชายเย่ เกิดเรื่องแล้วครับ!"
"เมื่อกี้เพิ่งได้รับข่าวว่าด้านหยางซิงประกาศเชิญคุณไปทานข้าวที่หอวั่งไห่คืนนี้สองทุ่มครับ!"
"ถ้าถึงตอนนั้นเราไม่ปรากฏตัว เขาจะไม่รักษาคุณธรรมใดๆอีก และจะลงมือกับเพื่อนและครอบครัวของเราครับ!"
รับสายปุ๊บเสียงร้อนใจของหลิวชิงก็ดังลอดสายมาทันที
เย่เทียนผงะ แต่ไม่นานนักก็ได้สติกลับมา นัยน์ตาทมิฬฉายแววเย็นเยียบ สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดก็คือโดนข่มขู่!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่