เมื่อเห็นว่าตาแก่ทั้งสองพุ่งเข้ามาโดยไม่คิดชีวิตอีกครั้ง เย่เทียนยิ้มมุมปากอย่างดูแคลน ไม่ได้เห็นสองคนนี้อยู่ในสายตานัก
แต่ยังไงซะเย่เทียนก็เป็นคนที่มีชีวิตมาหนที่สองแล้ว ย่อมไม่อยากให้เรือล่มในคูน้ำแคบที่คาดไม่ถึง เขาระแวงอยู่ในใจลับๆ
"ฮ่า!"
เหลยเฉิงยุ่นคำรามเสียงเกรี้ยวกราด มือชราที่เหี่ยวเหมือนซากไม้กำหมัดแน่น ประหนึ่งต้องการทุบทะลุมิติ ส่งเสียงฝ่าอากาศดังสนั่นอยู่เนืองๆ และถล่มไปหาเย่เทียนอย่างดุร้าย
เย่ไม่กลัวเลยสักนิด เขาปล่อยหมัดโหดเหี้ยมออกไปเช่นกัน
ตู้ม!
สองหมัดปะทะกัน ส่งเสียงทุ้มต่ำดังสนั่น ร่างของทั้งสองคนแตะกันปุ๊บก็แยกออก
วินาทีต่อมา ไต้หงเล่อที่ตามหลังเหลยเฉิงยุ่นมาจู่โจมเช่นเดียวกัน
แต่เนื่องจากมือขวาพิการไปแล้ว เขาจึงไม่กล้าเข้าไปสู้ประชิดตัวกับเย่เทียน ยืนห่างออกไปสองเมตร
"ฝ่ามือตะวัน!"
ไต้หงเล่อคำรามเกรี้ยวกราด มือซ้ายฟาดฝ่ามือที่ดูเหมือนจะช้าแต่ความจริงแล้วไวดุจสายฟ้าออกไป รอยฝ่ามือจำลองสีแดงเพลิงโผล่ออกมาในทันใด
เมื่อรอยฝ่ามือนี้ถูกปล่อยออกไป อุณหภูมิในห้องก็สูงขึ้นหลายองศา มันมาอยู่ตรงหน้าเย่เทียนในเสี้ยววินาที
เย่เทียนใจกระตุก ขยับไปด้านข้างโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก และหลบได้อย่างหวุดหวิด
ตู้ม!
เสียงทุ้มต่ำดังสะท้อนออกมาในห้อง ฝ่ามือนี้ฟาดโดนผนังด้านหลังเย่เทียนอย่างแรง ทิ้งร่องรอยของฝ่ามือที่ลึกเข้ากำแพง
ถึงแม้เย่เทียนจะหลบได้ทันเวลา แต่แขนก็ยังโดนเฉี่ยวนิดหน่อย เสื้อผ้าราคาแพงของเขาขาดเป็นรูใหญ่ในทันที ทิ้งรอยไหม้แถบหนึ่งบนผิว
"เวรเอ๊ย ดีนะที่ฉันหลบทัน ไม่อย่างนั้นฝ่ามือนี้ได้ย่างฉันจนสุกแน่"
เย่เทียนลอบถอนหายใจด้วยความที่ยังนึกกลัว คิดไม่ถึงเลยว่าทั้งที่อยู่แค่ระดับดินชั้นสูง ไต้หงเล่อยังสามารถโจมตีรุนแรงได้ขนาดนี้
ดูเหมือนว่าที่พรรคชิงเฉิงสามารถมีชื่อติดอันดับในโลกศิลปะการต่อสู้นั้น ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!
คิดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของเย่เทียนเคร่งเครียดขึ้นนิดหน่อย ยังไงซะตาแก่สองคนนี้ก็มาจากพรรคใหญ่มีชื่อเสียง ใครจะรู้ว่าพวกเขามีวิธีเอาตัวรอดอะไรบ้าง?
แต่ไม่รอให้เย่เทียนพักหายใจ การจู่โจมของเหลยเฉิงยุ่นก็ถาโถมเข้ามาอีกครั้ง
สองมือของเขาห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงสีดำจำลองหนึ่งชั้น ไม่เพียงแต่สะท้อนให้ห้องนี้มืดลงเล็กน้อย แต่ยังเพิ่มอุณหภูมิอีกหลายองศาด้วย ความร้อนอบอ้าวทำให้เย่เทียนอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมา!
เนื่องจากโล่ทิพย์ป้องกันกายเพิ่งจะโดนเหลยเฉิงยุ่นโจมตีเสียแหลกลาญ ไม่สามารถใช้ได้ในสิบกว่านาทีนี้ เย่เทียนไม่กล้าเข้ารับตรงๆ ได้แต่หลบหลีกไปด้านข้างด้วยความทุลักทุเลอีกครั้งฃ
ทว่าเหลยเฉิงยุ่นไม่ยอมปล่อยเย่เทียนไปแบบนี้หรอก เขาขยับเท้าเล็กน้อย ตามประกบเย่เทียนดั่งเงา ไม่ให้โอกาสเขาได้หอบหายใจ
“ไอ้หนุ่ม นายหนีไม่พ้นหรอก! วันนี้ของปีหน้าก็คือวันครบรอบวันตายของนาย!”
เวลานั้น ไต้หงเล่อสบโอกาส อุดทางไปของเย่เทียนอย่างเจ้าเล่ห์ และคลี่ยิ้มเย็นเยียบบนใบหน้า
ด้านหน้ามีเสือ ด้านหลังมีหมาป่า เย่เทียนขมวดคิ้วเป็นปม เขาไม่ทันจะคิดอะไรมาก เร่งคัมภีร์หวงในกายถึงขีดสุด ชี่ทิพย์หนาแน่นหลั่งไหลมารวมกันที่มือเรื่อยๆ
“อย่างคุณน่ะเหรอคิดจะฆ่าฉัน? ชาติหน้าแล้วกัน!”
เย่เทียนแค่นเสียงเย็น ปล่อยหมัดโหดเหี้ยมใส่ไต้หงเล่อที่ปิดทางไปของเขา
นี่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ใครใช้ให้ไต้หงเล่อนอกจากจะมีพลังต่ำกว่าเหลยเฉิงยุ่นแล้ว ยังบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย
“ฝ่ามือตะวัน”
นัยน์ตาขุ่นมัวของไต้หงเล่อฉายแววตื่นตระหนก เขากัดฟันฟาดออกไปหนึ่งฝ่ามือ พยายามบีบให้เย่เทียนถอยไป
ว่ากันว่า: จะรังแกให้เลือกรังแกคนอ่อนแอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่