เมื่อเสียงของเหลยเหลาหู่ลดลง ในที่เกิดเหตุก็เกิดความโกลาหลทันที
ชื่อของคุณชายรองฉินชื่อนี้ได้ทำให้เสียงสั่นสะเทือนเหมือนระเบิดที่ดังขึ้น!
เพราะชื่อเสียงของตระกูลฉินนั้นยิ่งใหญ่เกินไป พวกเขายิ่งใหญ่จนไม่มีใครที่เป็นบุคคลสำคัญของเจียงหนันไม่รู้จักพวกเขา!
ตระกูลฉินเป็นครอบครัวชนชั้นสูงที่แท้จริงของเจียงหนันมาเป็นศตวรรษ
อย่าคิดว่าเจียงหนันมีครอบครัวใหญ่ทั้งห้าแล้ว เพราะถ้าต้องเทียบกับตระกูลฉินแล้ว พวกเขาไม่คู่ควรแม้แต่จะเป็นคนขัดรองเท้าให้กับตระกูลฉินเลยด้วยซ้ำ!
ซึ่งอิทธิพลของตระกูลฉินนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในวงการธุรกิจ การเมือง หรือแม้แต่วงการทหาร! ทั้งหมดนี้ก็ล้วนเกี่ยวข้องกับตระกูลฉินทั้งนั้น!
“ตระกูลฉิน เป็นคนของตระกูลฉิน!”
“แล้วผู้หญิงคนนั้นคือใคร? อย่าบอกนะว่าคือคุณหนูของตระกูลฉิน เธอดูสวยจริงๆ!”
“จะว่าสวยก็สวยอยู่นะ แต่ถ้าเทียบกับซูเหมยแล้ว เธอยังขาดเหลืออยู่นิดหน่อย เพราะเธอยังดูเด็กเกินไป”
“เธอพูดจาระวังหน่อยนะ ถ้าคนอื่นเขาได้ยินเข้า เทวดาก็ช่วยชีวิตเธอไม่ได้หรอก”
คนที่พูดก่อนหน้านี้ก็เงียบไปทันที ได้แต่อยู่เงียบๆ ด้วยสีหน้าหวาดกลัว
“ตระกูลฉิน......จบแล้ว......ตายแน่......”
ห่าวเหรินถึงกับขาสั่นไปทั้งคู่และใบหน้าก็ซีดลง
ไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องของคืนนี้จะไปถึงตระกูลฉินได้
และในเวลานี้ ยังมีชายวัยกลางคนในชุดสูทสีดำอีกคนได้เดินลงจากรถหรูของพวกเขา
ซึ่งในตัวของชายผู้นี้เหมือนออร่าแห่งพลังความมืดครอบคลุมอยู่ อีกทั้งเขายังมีรูปร่างที่สูงใหญ่ซึ่งดูก็รู้ว่าต้องเป็นคนแข็งแกร่งอย่างแน่นอน!
ในขณะนี้ ชายวัยกลางคนรีบเดินตามฉินโล่หยินเข้ามา และหลังจากนั้นเขาก็รู้สึกตกใจเมื่อเห็นลูกน้องของเหลยเหลาหู่ที่ใบหน้าฟกช้ำกันหมด
ใครจะเก่งขนาดนั้น ถึงกับเอาชนะคนมากมายขนาดนี้ได้?
ในเวลาเดียวกัน ฉินโล่หยินก็มองไปรอบๆ และเมื่อเธอเห็นเย่เทียนในที่เกิดเหตุ ดวงตาของเธอก็สว่างขึ้นราวกับดวงดาว
“เหล่าเหลย เกิดอะไรขึ้น?”
ชายหนุ่มที่ชื่อคุณชายรองฉินไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าการแสดงออกของพี่สาว เขาได้แต่เดินเข้ามาหาเหลยเหลาหู่แล้วขมวดคิ้วถาม
“คุณชายรองครับ ไอ้หมอนั่นไงครับ มันเล่นงานคนของผมหมดเลย! ผมไม่มีทางเลือกแล้ว ก็เลยต้องขอความช่วยเหลือจากคุณชายรองครับ”
เหลยเหลาหู่พูดด้วยความรู้สึกผิด แต่เมื่อหันหน้ากลับมา สีหน้าของเขาก็กลายเป็นความชั่วร้ายอีกครั้ง
“ไอ้หนู ข้าบอกแล้วว่าแกต้องเจอดีแน่!”
“คืนนี้เป็นวันตายของแกแล้วล่ะ ข้าจะให้แกรู้ไว้ คนที่กล้ามีเรื่องกับแก๊งไผ่เขียวของเรา คนที่กล้าท้าทายตระกูลฉินต้องจบอย่างน่าอนาถแค่ไหน!”
เขาพูดอย่างชั่วร้ายและเหลือบมองชายวัยกลางคนด้วยหางตา
เหลยเหลาหู่รู้ว่าเย่เทียนนั้นแข็งแกร่งมาก เขาเป็นถึงนักบู๊ในตำนานด้วยซ้ำ
แต่หลังจากที่ได้เห็นชายวัยกลางคนอย่างชัดเจนแล้ว เขาก็ไม่รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย และยังตั้งหน้าตั้งตารออย่างคาดหวัง
เพราะเขาเคยเห็นฝีมือของชายวัยกลางคนคนนี้แล้ว เพียงแค่หมัดเดียวก็สามารถทุบหินก้อนใหญ่ที่ต้องยกด้วยสองคนได้ เป็นความแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา!
และเหลยเหลาหู่ก็เชื่อว่า ต่อให้เย่เทียนจะเก่งแค่ไหน เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายวัยกลางคนคนนี้แน่นอน!
เมื่อพูดเยาะเย้ยจนเสร็จ เขาก็หันกลับมาด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดกับฉินโล่หยินด้วยความเคารพ
“คุณหญิงครับ ไอ้หมอนี่มันกล้าท้าทายอำนาจของตระกูลฉิน คุณหญิงกรุณาสั่งให้คนเก็บมันเลยนะครับ!”
ทันทีที่พูดจบ รูม่านตาของฉินโล่หยินก็หดหัวลง เธอไม่ได้พูดอะไร แต่กลับยกฝ่ามือขึ้นแล้วตบไปที่ใบหน้าของเหลยเหลาหู่!
ผัวะ!
ด้วยเสียงที่คมชัด ทำให้เหลยเหลาหู่ถึงกับอึ้งไปทันที
แม้จะรู้สึกเจ็บปวดจากการถูกตบหน้า แต่เขาไม่กล้ารู้สึกขุ่นเคืองใจเลยแม้แต่นิด ได้แต่มองไปที่ฉินโล่หยินด้วยความสงสัย
“คุณสงสัยใช่ไหม ว่าทำไมฉันถึงตบหน้าคุณ?”
อย่าว่าแต่เหลยเหลาหู่คนเดียวเลยที่สงสัย แม้แต่คุณชายรองฉินคนนั้นก็หันมองไปที่พี่สาว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่