เมื่อสาวกระต่ายออกไปแล้ว เจิ้งเหวยหวาก็หยิบบัตรเพชรไปรูดที่ประตู ประตูห้องถึงเปิดออกช้าๆ
ในนั้นมีสี่คนนั่งรออยู่นานแล้ว แต่ละคนล้วนแต่มีบารมีน่าเกรงขาม ดูก็รู้ว่าเป็นคนมีเบื้องหลังยิ่งใหญ่
"เหล่าเจิ้ง คุณมาสายนะ! ต้องดื่มก่อนหนึ่งแก้วเป็นการทำโทษ!"
ไม่รอให้เย่เทียนเห็นหน้าคนข้างในชัดๆ ชายวัยกลางคนหัวเกรียนคนหนึ่งก็กล่าวทักทายอย่างสนิทสนม
"ช่วไม่ได้นี่ ผมต้องไปรับเพื่อนก่อน"
เจิ้งเหวยหวาหัวเราะเหอะๆ และเดินนำเย่เทียนเข้าไปในห้อง
เย่เทียนเพิ่งจะมีเวลาพิจารณาทั้งหมดนี้อย่างละเอียด แต่ละคนอายุพอๆกับเจิ้งเหวยหวา ให้ความรู้สึกคุ้นเคยกับเขา แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน
"เพื่อน?"
สายตาของคนหัวเกรียนถึงทอดไปที่เย่เทียน เขาลุกขึ้นจากที่นั่ง พูดด้วยรอยยิ้มกว้าง "สวัสดีน้องชาย ฉันเป็นประธานของบริษัทฉีซื่อแห่งเมืองหลิงเจียง ฉีเหลียงเผิง"
"บริษัทฉีซื่อแห่งเมืองหลิงเจียง?"
สีหน้าของเย่เทียนเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย บริษัทฉีซื่อคือบริษัทอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลิงเจียง มีฐานะเหมือนกับตระกูลฉินในเมืองเจียงนัน!
"น้องชาย ไม่ทราบว่าคุณเป็นคุณชายของประธานคนไหนเหรอ"
ฉีเหลียงเผิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มีความไม่พอใจขึ้นมานิดๆ
เขายอมวางทิฐิลงและเป็นฝ่ายบอกประวัติก่อนแล้ว ทำไมไอ้เด็กคนนี้ถึงไม่รู้จักดูสถานการณ์เลยล่ะ?!
"เถ้าแก่ฉีเข้าใจผิดแล้วครับ ผมเป็นเพียงคนตัวเล็กๆ ไม่ได้เป็นคุณชายอะไรหรอกครับ"
มีหรือที่เย่เทียนจะไม่เห็นความไม่พอใจของฉีเหลียงเผิง แต่เขาใส่ใจที่ไหน
"เอ๋?!"
ฉีเหลียงเผิงผงะ ก่อนที่สีหน้าจะอึมครึมลงอย่างรวดเร็ว “น้องชาย คุณจะไม่ให้เกียรติฉันเกินไปหรือเปล่า”
เขาจะเชื่อคำพูดของเย่เทียนได้ยังไง ถ้าเป็นแค่คนตัวเล็กๆจริง เจิ้งเหวยหวาจะตั้งใจไปรับเหรอ? แล้วยังกล้าพามาที่นี่ด้วย
“ทำไมผมต้องหลอกคุณด้วยครับ ผมไม่มีหน้าที่การงานด้วยซ้ำ เป็นเพียงคนไร้อาชีพครับ”
คำพูดนี้ของเย่เทียนไม่ได้โกหก เขาไม่มีอาชีพอยู่แล้ว
“คนไร้อาชีพ?!”
ฉีเหลียงเผิงผงะ เขาหันไปมองเจิ้งเหวยหวาด้วยสีหน้าพิกล และพูดด้วยน้ำเสียงกระแนะกระแหน “เหล่าเจิ้ง ทำอะไรของคุณครับ ทำไมยิ่งอยู่ยิ่งกลับไปที่เดิมล่ะ”
เจิ้งเหวยหวาขมวดคิ้วทันที และเอ่ยเสียงเข้ม “เขาคือเย่เทียน”
“เย่เทียน?!”
“ดาวดวงใหม่แห่งวงการแพทย์ที่ลือกันให้ทั่วในเน็ตวันนี้เหรอ?”
ไม่รอให้ฉีเหลียงเผิงพูดอะไร ชายวัยกลางคนใส่แว่นตาอีกคนหนึ่งในห้องเดินเข้ามา และเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เหล่าเจิ้ง คุณนี่ไวนี่หว่า เพิ่งผ่านไปนานเท่าไหร่เองก็เจอตัวจริงแล้ว”
แม้ว่าชายใส่แว่นตาจะพูดกับเจิ้งเหวยหวา ทว่าสายตากลับจับจ้องไปที่เย่เทียน และมองขึ้นมองลงอย่างพิจารณา ไม่มีท่าทีจะแนะนำตัวเอง
“เหล่าเฉียน คุณอย่าหัวเราะเยาะผมเลย”
เจิ้งเหวยหวาส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ของสองคนนี้ไม่เลว
“เอาล่ะ ไหนๆก็มาแล้ว ยังไงซะก็ยังมีที่ เข้ามานั่งก่อนสิ”
เวลานั้น ชายหัวล้านตรงกลางที่นั่งอยู่ตรงที่ประธานปริปากกะทันหัน และชี้ที่ว่างข้างๆสามสี่ที่
“ในเมื่อพี่ไห่เอ่ยปากแล้ว มัวยืนอยู่ทำไมกัน”
ผู้ชายด้านขวาชายหัวล้านตรงกลางหัวเราะอย่างมุ่งร้าย “เหล่าเจิ้ง ไม่ว่ายังไงคุณก็มาสายนะ ต้องดื่มทำโทษก่อนสามแก้ว”
“เหล่าเจิ้ง อย่ามัวยืนเอ๋ออยู่สิ”
เหล่าเฉียนโอบไหล่เจิ้งเหวยหวาและหัวเราะร่วน พร้อมเดินไปทางโต๊ะ “ไม่ได้ยินที่เหล่าเหยาพูดเหรอ? ดื่มทำโทษก่อนสามแก้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่