ฟิ้ว!
ทุกคนในที่นี้ไม่ทันตั้งตัว ฝ่ามือเดือดดาลของเย่เทียนก็ฟาดเข้าที่หน้าของฉีหยุนเผิงอย่างแรง
น่าสงสารฉีหยุนเผิงที่มีรอยฝ่ามือสีแดงสดปรากฏบนแก้มฉับพลัน หน้าครึ่งแถบบวมแดงขึ้นมา
คิ้วเรียวของฉินโล่หยินเลิกขึ้นเล็กน้อย เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้และหันหลังเดินออกไป
“เจ้า เจ้าน้องชายคนนี้ลงไม้ลงมือจริงๆเหรอ วิลล่าฉินหยุนห้ามลงมือกันเองนะ คราวนี้เขาต้องลำบากแน่”
หลังจากผงะด้วยความตกใจ ทุกคนในที่นี้ต่างได้สติกลับมา เมื่อสังเกตว่าฉินโล่หยินออกไปแล้ว สายตาที่มองเย่เทียนต่างฉายแววเวทนา
เจิ้งเหวยหวาเองก็อ่อนใจมากเหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี
“นาย นายกล้าตบฉันเหรอ?”
ฉีหยุนเผิงทั้งตกใจทั้งผวา เขากุมใบหน้าเจ็บแสบ หน้าตาเหลือเชื่อ
“ตบนายแล้วทำไม ฉันทนนายมานานแล้วโว้ย”
เย่เทียนถ่มน้ำลายใส่ด้านข้าง ก่อนจะถีบเข้าไปอย่างแรง
ตึ้ง!
ยังไงซะฉีหยุนเผิงก็อยู่ในตำแหน่งสูงส่งมานานหลายปี ต่อให้เย่เทียนไม่ได้ใช้ชี่ทิพย์ ก็ถีบเขาล้มไปข้างหลังทั้งเก้าอี้
พวกไห่เหวินคังก็รีบลุกขึ้นและหลบไปด้านข้าง ไม่มีทีท่าจะเข้าไปช่วยเลยสักนิด
พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นจิ้งจอกเฒ่าที่อยู่กินสบายในแวดวงธุรกิจมาหลายปี เรื่องชิงดีชิงเด่นนี่งานถนัด แต่จะให้เขาพวกสู้ด้วยกำลังเหมือนพวกนักเลงคงยาก
“เหล่าเจิ้ง หนูฉินไปตามคนมาแล้วนะ คุณไม่รีบเข้าไปจับแยกหน่อยเหรอ”
เฉียนหย่งซือกระโจนมาอยู่ข้างกายเจิ้งเหวยหวา และเตือนด้วยความหวังดี
“คุณคงไม่ได้บอกกฎระเบียบของวิลล่าฉินหยุนกับเขาใช่มั้ย มีเรื่องกันที่นี่ เขาอยากตายรึไง?”
เหว่ยฉีจื้อก็มาอยู่ข้างกายเจิ้งเหวยหวา
“บางทีพวกคุณอาจจะคิดว่าเมื่อกี้ผมทำไปเพราะต้องการดูแลเย่เทียน แต่…..”
เจิ้งเหวยหวาหัวเราะเฝื่อนๆและส่ายหน้า “ความจริงผมทำไปเพราะหวังดีกับฉีหยุนเผิง จากที่ผมรู้มา จนกระทั่งบัดนี้ใครก็ตามที่ทำตัวเป็นปรปักษ์กับเย่เทียนล้วนไม่พบจุดจบที่ดี”
สีหน้าเฉียนหย่งซือประหลาดขึ้นมา “เหล่าเจิ้ง คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ย”
“ผมจะหลอกพวกคุณทำไมกัน”
เจิ้งเหวยหวาไม่ได้ปิดบังอะไร เขาพูดตรงๆ “ตระกูลเจิ้งแห่งเมืองเจียงหนันในอดีตพวกคุณรู้จักกันใช่มั้ย”
“เมื่อก่อนท่านฉินก็เคยพูดถึงตระกูลเจิ้งอยู่หลายครั้ง ถ้าไม่ใช่เพราะรู้ว่าเบื้องหลังพวกเขามีพรรคชิงเฉิงสนับสนุนอยู่ เราถึงไม่กล้าบุ่มบ่ามทำอะไร”
เฉียนหย่งซือพยักหน้าอย่างใช้ความคิด “เดี๋ยวก่อน อยู่ๆคุณพูดถึงตระกูลเจิ้งนั้นทำไมเหรอเหล่าเจิ้ง ไหนบอกว่าพวกเขารนหาที่ตายไปล่วงเกินคนใหญ่คนโต จนโดนคนทั้งเจียงหนันรุมทลายจนสิ้นซากไม่ใช่เหรอ”
“ใช่แล้ว”
เจิ้งเหวยหวาพยักหน้าอย่างแแน่วแน่ ยื่นมือไปชี้เย่เทียนที่อยู่ไม่ไกล “จากผลลัพธ์ที่ผมสืบมาได้ คนที่พวกเขาล่วงเกินใกล้อยู่แค่ตรงหน้า”
“ถ้าพวกคุณไม่เชื่อผม รอหนูฉินกลับมาลองถามเธอดูก็ได้ เชื่อว่าเธอรู้ดีกว่าผม”
“เป็นไปไม่ได้มั้งเหล่าเจิ้ง คุณไปรู้จักคนคนนี้ที่ไหนเหรอ”
เฉียนหย่งซือตาโตขึ้นมาในบัดดล คิดไม่ถึงว่าเย่เทียนก็คือผู้บงการเบื้องหลังที่จัดการตระกูลเจิ้งแห่งเมืองเจียงหนัน!
“ผมรู้จักเขามานานแล้ว แต่ถ้าให้พูดว่ารู้จักดีก็เป็นเรื่องเมื่อไม่กี่วันมานี้”
เจิ้งเหวยหวาหัวเราะอย่างเหนื่อยใจ เขาพูดตรงๆ “ด้วยเหตุผลบางอย่าง พี่ใหญ่ผมจ้างคนไปเก็บเขา แต่คิดไม่ถึงว่าเขาไม่เพียงแต่จัดการคนที่พี่ใหญ่ผมจ้างมาได้ และยังสาวมาถึงตัวพวกเราอีกด้วย”
“ผมไม่ปิดบังพวกคุณแล้วกัน ที่พี่ใหญ่ผมเข้าตะรางก็ผมนี่แหละที่มอบหลักฐานกระทำความผิดของพี่ใหญ่ผมให้เขาเอง มิฉะนั้น…..”
“ไม่ใช่แค่บริษัทแซ่เจิ้งต้องล้มละลาย และเกรงว่าเราสองพี่น้องต้องตายกันทั้งคู่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่