แคร่ก แคร่ก!
เย่เทียนหักนิ้วเสียงดังกร๊อบแกร๊บและหันกลับมามองเชิ่งหู่ด้วยความเคร่งขรึมแล้วพูดอย่างเย้ยหยันว่า “คนของคุณอ่อนแอจริงๆ เลยนะ ถ้าคุณยังคิดจะใช้วิธีนี้ ผมขอเตือนคุณก่อนว่าอย่ายุ่งกับร้านดรุณียั่วรักเลยจะดีกว่า!”
“......”
นักสู้เหรียญทองที่แข็งแกร่งที่สุดยังถูกเย่เทียนเอาชนะได้ง่ายๆ แบบนี้ เชิ่งหู่ไม่มีเหตุผลที่จะทำอะไรเย่เทียนได้แน่นอน
แต่ว่า การที่เชิ่งหู่ไม่พูดอะไร ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นๆ ก็จะไม่พูด
หูไห่ที่อารมณ์ร้อนก็ลุกขึ้นทันที จากนั้นหยิบปืนพกจากเอวของเขาแล้วหันปากกระบอกปืนไปที่เย่เทียนและกัดฟันพูดว่า “แมร้งเอ๊ย มึงคิดว่าไม่มีใครทำอะไรมึงได้แล้วใช่ไหม? กูฆ่ามึงได้ทุกเมื่อมึงรู้ไหม!”
เมื่อเห็นภาพเหล่านี้ ในใจซูเหมยก็สั่นสะท้านและมองไปที่เย่เทียนตามสัญชาตญาณ
เพราะนี่คือปืน และทุกคนก็ต้องกลัวมันอยู่แล้ว
แต่ว่า เย่เทียนกลับแสดงสีหน้าเรียบเฉยแล้วมองเขาอย่างเฉยเมย “คุณลืมบทเรียนครั้งก่อนแล้วเหรอ? หรือว่าอยากลองอีกครั้ง?”
หูไห่โกรธมากเมื่อเห็นเย่เทียนพูดถึงเรื่องเก่า แต่เขาก็ยังกลัวเย่เทียนอยู่ดี
เมื่อเหลือบมองไปที่ผู้นำระดับสูงของแก๊งเสือดำที่อยู่ข้างเขา เขาจึงไม่อยากขายหน้า จึงพูดอย่างแข็งกร้าวว่า “กูก็ยืนอยู่ตรงนี้แล้วไง เก่งจริงมึงเข้ามาเลย! กูอยากรู้เหมือนกันว่ามือของมึงเร็วกว่าหรือกระสุนปืนของกูเร็วกว่า!”
“จริงเหรอ?”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ดวงตาอันลึกล้ำของเย่เทียนก็จับจ้องไปที่หูไห่ จิตแห่งการสังหารที่รุนแรงได้แผ่ออกมาจากตัวเขา แม้แต่อุณหภูมิของห้องก็เย็นลง
กรึ๊บ!
เมื่อเห็นออร่ารัศมีอันน่าสะพรึงกลัวทั่วร่างกายที่คล้ายกับการผุดออกมาจากขุมนรกของเย่เทียน หูไห่อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงและตะโกนอย่างดุเดือดว่า “กู กูจะบอกมึงนะว่ากระสุนมันไม่มีตา มึงระวังตัวด้วย!”
“เย่เทียน......”
ซูเหมยรู้สึกประหม่าเล็กน้อยและอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาเบาๆ
ความสามารถของเย่เทียนในตอนนี้ไม่อาจหยุดกระสุนได้ก็จริง แต่ก่อนที่หูไห่จะลั่นไกปืน เย่เทียนสามารถปลิดชีวิตของเขาได้อย่างง่ายดายอยู่แล้ว
เมื่อสถานการณ์กลายเป็นเช่นนี้ เขาก็ต้องพิจารณาว่าจะแก้ไขปัญหาด้วยวิธีนี้หรือไม่
“กึง!”
ในขณะนั้น จู่ ๆ เสียงเปิดประตูที่รุนแรงได้ดังขึ้น
“แหม คึกคักจังเลยนะ?”
เสียงของคนคนหนึ่งก็ดังขึ้น
ทุกคนต่างมองไปตามทิศทางของเสียงนั้น ภายใต้การรายล้อมของลูกน้องมากมาย ชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่ตัดผมทรงลานบินก็เดินเข้ามาจากข้างนอก
เชิ่งหู่เงียบมาตลอด และการกระทำของเย่เทียนก็ทำให้เขาหงุดหงิดมาก
แต่เมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “หลิวชิง? คุณมาทำอะไรที่นี่?”
หลิวชิง?
เมื่อได้ยินชื่อนี้ ทุกคนต่างก็ตกใจและนึกได้ทันที
โครม!
ทุกคนในห้องต่างยืนขึ้นทันที ด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรของทุกคนจับจ้องไปที่ชายวัยกลางคนที่ไว้ทรงลานบินและเป็นหัวหน้าของผู้คนเหล่านั้น
แม้แต่หูไห่ยังหันหัวปืนไปที่หลิวชิง
ชายที่ชื่อหลิวชิงคนนี้ เขาคืออีกแก๊งใหญ่ในเมืองเจียงหนันแห่งนี้ หรือหัวหน้าของแก๊งไผ่เขียวนี่เอง!
ซึ่งแก๊งไผ่เขียวกับแก๊งเสือดำนั้นไม่ถูกกันมาตลอด และที่ผ่านมาพวกเขาไม่เคยไปมาหาสู่กันเลย
แต่ไม่คิดว่าหลิวชิงจะปรากฏตัวในสโมสรหาดน้ำหนาวในเวลานี้
หลิวชิงได้แต่ยิ้มเยาะเย้ย ก่อนอื่นเขาพยักหน้าให้กับเย่เทียนเพื่อเป็นการทักทายก่อน จากนั้นหันหน้าไปที่หูไห่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่