ในวิลล่าริมทะเลบนเกาะนกนางนวล ร่างของผู้หญิงีูปงามคนหนึ่งโยนโทรศัพท์มือถือลงบนเตียงำร้อมกับหยิบไวน์แดงที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียงมา หล่อนเดินไปที่หน้าต่างที่สูงจรดเพดานบานใหญ่ด้วยเท้าเปล่า สายตาทอดมองออกไปยังขอบฟ้าอันไกลโพ้น
หากเย่เทียนยังอยู่ เขาคงอดไม่ได้ที่จะร้องอุทานออกมา ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น หล่อนคือเหลียงเยว่หรู!
ถึงแม้ว่าตอนนั้นที่สนามบินหล่อนจะบอกกับเฉินหวั่นชิงไปแล้วว่ามีเรื่องต้องไปสะสางแต่ความจริงแล้วหล่อนกลับแอบจองเที่ยวบินมาที่เกาะนกนางนวล
หล่อนรู้เรื่องของเย่เทียนกับเฉินหวั่นชิงในสองวันที่ผ่านมานี้เป็นอย่างดี เดิมทีหล่อนหงุดหงิดว่าจะลงมือจัดการเฉินหวั่นชิงยังไงดี ไม่คิดว่าเย่เทียนจะไปมีเรื่องกับตู้เคอหลินได้จนเกือบจะทำให้หล่อนไม่ได้กระโดดโลดเต้นไปด้วยความตื่นเต้นเสียแล้ว
เมื่อเห็นหลู่อี้ไปหาตู้เคอหลินราวกับว่าจะทำตัวเป็นผู้ไกล่เกลี่ย หล่อนจึงรีบโทรออกไปและจงใจใช้เครื่องปลอมเสียงตนเอง
เกรงว่าหลู่อี้แม้แต่ฝันก็คงทำไม่ได้ เขาทำฑุรกิจมาหลายสิบปีแต่กลับถูกผู้หญิงหลอกเข้าให้ซะนี่
“เย่เทียน!นายต้องเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น!ใครก็ตามที่มาขัดขวางเรา ฉันจะทำให้มันตายไปให้หมด!”
เหลียงเยว่หรูจิบไวน์แดงที่อยู่ในแก้ว ใบหน้าที่ละเอียดลออเต็มไปด้วยความชั่วร้ายดั่งเช่นราชินีที่อิจฉาเจ้าหญิงสโนไวท์อย่างไงอย่างงั้น
บางทีนี่อาจจะเป็นรักมากชังมากก็เป็นได้!
……
“คุณเย่ ตอนนี้ฉันอยู่กับคุณชายตู้และคุณชายตู้ต้องการเลี้ยงมื้อค่ำคุณ ไม่ทราบว่าคุณพอจะมีเวลาว่างไหมครับ?”
หลู่อี้ไม่รู้เลยว่าเขาได้ตกหลุมพรางของเหลียงเยว่หรูเข้าให้แล้ว เมื่อเห็นว่าใกล้เวลาอาหารมื้อค่ำ เขาจึงรีบโทรหาเย่เทียนทันที
“ได้!ส่งสถานที่มาให้ฉันและเดี๋ยวฉันจะออกไป”
เย่เทียนที่รับสายก็ไม่ได้คิดอะไรและรับปากตกลงไปอย่างมีความสุข
ท้ายที่สุด หากเขาต้องการถ่ายรูปงานแต่งที่เกาะนกนางนวลอย่างผ่อนคลายก็ต้องทำเรื่องนี้ให้คลี่คลายเสียก่อน
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือในใจของเย่เทียนนั้นรู้ดว่าหากไม่แก้ไขคลี่คลายเรื่องของตู้เคอหลิน ต่อให้ตอนนี้จะอยากจากไปก็คงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากอยู่ดี
ด้วยความสามารถของตู้เคอหลินบนเกาะนกนางนวลแห่งนี้ เกรงว่าแค่พูดไม่กี่คำก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาต้องถูกจับที่สนามบินอยู่ดี
หลังจากได้รับการตอบรับที่แน่นอน ,หลู่อี้ก็ได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หลังจากวางสายไปเขาก็ได้ตระหนักว่ามือของเขานั้นสั่นระริก
ไม่ต้องส่งสัยเลยว่านี่เป็นก้าวแรกที่จะขายเย่เทียน เมื่อเดินมาถึงขั้นนี้แล้วเขาก็ไม่สามารถย้อนกลับไปได้อีก ผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร ตัวเขาเองก็ไม่อาจคาดเดาได้เช่นกัน
คนเราน่ะมักจะเกรงกลัวต่อสิ่งที่ไม่รู้จัก แม้แต่จิ้งจอกเฒ่าอย่างหลู่อี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ท้ายที่สุดนี่คือการพนันครั้งใหญ่ หากแพ้ก็ต้องสูญเสียทั้งฐานะและชื่อเสียงเกียรติภูมิ จะเชื่อใจใครก็เป็นกังวล!
“เย่เทียน อย่ามาโทษฉันเลย ฉันไม่มีทางเลือก”
หลู่อี้บ่นพึมพำอยู่ในใจ หากเลือกได้เขาจะเข้ามาพัวพันกับเรื่องบ้าๆนี้ได้อย่างไร?
ไม่ว่ายังไง เย่เทียนเปลี่ยนเป็นชุดลำลองคล่องตัวและไม่ให้เฉินหวั่นชิงตามไปด้วย
ก๊อกก๊อก!
เมื่อเตรียมตัวที่จะออกไป ประตูห้องก็ถูกเคาะดังขึ้นมาเสียก่อน
“ประตูไม่ได้ล็อก เข้ามาได้เลย!”
เย่เทียนตกตะลึง มุมปากอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขี้เล่น
แกร๊ก!
วินาทีถัดมาประตูห้องก็ได้ถูกเปิดออก คนที่เดินเข้ามานอกจากเซ่อันแล้วจะมีใครได้อีก
ดวงตาสีเข้มของเย่เทียนมองไปที่เซ่อันพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูไม่ยิ้มสักเท่าไหร่ “ทำไม?มาเพื่อบอกลากันหรือไง?”
“คุณชายเย่ อย่ามาล้อกันเล่นสิครับ”
เซ่อันตะลึงและจากนั้นก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น “ผมเก็บเงินคุณนายเย่ไปจำนวนสามวัน นี่เพิ่งจะวันที่สอง ผมจะไปไหนได้ล่ะครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่