พอเห็นชายฉกรรจ์วิ่งเข้ามา เย่เทียนที่รออยู่นานก็ได้ทำการถีบใส่
ชายฉกรรจ์คนนั้นไม่คาดคิดว่าเย่เทียนจะหลบอยู่บนคอมเพรสเซอร์แอร์ ด้วยความที่ไม่ทันระวัง ใบหน้าของเขาก็ถูกเย่เทียนถีบเขาอย่างจัง จนร่างกายถึงกับถอยหลังไปหลายก้าวอย่างช่วยไม่ได้
แต่ เย่เทียนไม่ได้ปล่อยเขาไปแค่นี้ พุ่งเข้ามาจากทางระเบียงอย่างรวดเร็ว กำปั้นที่ใหญ่เท่ากระทะได้กระแทกลงบนกระบาลของชายฉกรรจ์
ชายฉกรรจ์ที่น่าสงสารยังไม่ทันได้ทรงตัว ตรงหัวก็ถูกหมัดของเย่เทียนชกใส่อีกครั้ง รู้สึกหน้ามืดทันที แล้วล้มลงกับพื้นสลบไปเลย
ในเวลาเดียวกัน ชายฉกรรจ์ที่จี้คุนไท่อยู่ตรงหน้าประตูก็ได้รู้ตัว รีบยกมือขึ้นมาแล้วยิงใส่เย่เทียนไปสองนัด
เย่เทียนเห็นแล้วแต่กลับทำเหมือนไม่เห็น พุ่งตรงไปยังชายฉกรรจ์ราวกับภูตผี
ปั้งปั้ง!
กระสุนสองนัดถูกหยุดเอาตรงหน้าเย่เทียนอย่างน่าประหลาด มีเกราะที่พอเห็นรางๆ ปกคลุมเย่เทียนเอาไว้ ซึ่งมันก็คือโล่ทิพย์ป้องกันกายนั่นเอง!
สีหน้าของชายฉกรรจ์เปลี่ยนไปทันที แต่เย่เทียนก็พุ่งมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว และได้แทงเข่าใส่ท้องของชายฉกรรจ์อย่างแรง
“โอ้ย!”
ชายฉกรรจ์โอดครวญออกมาด้วยความเจ็บปวด ความเจ็บปวดอันมหาศาลทำให้เขาถึงกับต้องงอตัว งอตัวจนเหมือนกับกุ้งตัวหนึ่ง
“ผมเพิ่งลงเครื่องมาไม่นาน พวกคุณก็ส่งของขวัญชิ้นใหญ่มาให้ผมแล้ว ถ้าผมไม่คืนให้พวกคุณบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าผมขี้งกเอาใช่มั้ย?”
เย่เทียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม กำปั้นอันเท่ากระทะได้กระหน่ำใส่ร่างกายของชายฉกรรจ์ราวกับห่าฝน
ผ่านไปไม่นาน ชายฉกรรจ์ก็ถูกเย่เทียนอัดจนเละเป็นโจ๊ก นอนปวกเปียกอยู่บนพื้น ส่งเสียงโอดครวญเบาๆ ด้วยความเจ็บปวด
“แน่นอนว่า นี่ถือเป็นการออมมือของเย่เทียนแล้ว ก่อนที่จะรู้ว่าสองคนนี้ถูกใครส่งมา จึงจะยังฆ่าไม่ได้แน่นอน”
“คุณน่าจะเป็นคุนไท่สินะ?”
หลังจัดการกับตัวรับกระสุนสองคนนั้นแล้ว เย่เทียนก็ปัดมืออย่างสบายๆ จัดเสื้อที่ยุ่งเหยิงนิดหน่อย ถึงได้หันมองไปยังชายผิวดำที่ยืนช็อกอยู่ตรงหน้าประตู
“ชะ ใช่ครับ!”
คุนไท่ถึงตั้งสติได้ จึงรีบพยักหน้าราวกับลูกไก่ที่กำลังจิกเม็ดข้าว กลัวแต่เย่เทียนจะเข้าใจเขาผิดว่าเป็นศัตรู
พอเย่เทียนได้เห็นอย่างนั้น จึงได้ส่ายหน้าอย่างจนใจ หมุนตัวเเล้วกลับไปในห้อง และถามไปว่า “คุณไม่มีธุระอะไรใช่มั้ย?”
“ตะ ตอนนี้ยังไม่มี”
คุนไท่ที่อยู่นอกห้องทำหน้าขมขื่น รีบยกมือทั้งสองข้างขึ้น แล้วเดินเข้ามากลางห้อง
แต่ ที่เดินเข้ามาไม่ได้มีแค่คุนไท่คนเดียว ด้านหลังของเขายังมีชายฉกรรจ์อีกสิบกว่าคนตามเข้ามาด้วย ในมือของทุกคนต่างพกอาวุธมาหลากหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นยังมีคนถือเครื่องยิงลูกระเบิดมาด้วย!
เย่เทียนที่หันหลังให้ประตูรู้สึกถึงความผิดปกติ จึงรีบหมุนตัวกลับมา พอเห็นสิ่งที่อยู่ข้างหลัง มุมปากก็กระตุกขึ้นมาอย่างแรง และได้ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาเหมือนกัน
“ทุกคนต่างก็เป็นคนมีการศึกษา มีอะไรก็มานั่งคุยกันดีๆได้ ไม่เห็นต้องใช้อาวุธเลยนี่”
นี่มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ถึงแม้ตอนนี้เขาจะฝึกพลังชั้นเจ็ดแล้ว แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าอาวุธสงครามพวกนี้ คิดว่าโล่ทิพย์ป้องกันกายอย่างมากก็น่าจะกันได้แค่ห้าวิเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็หนีชะตาที่จะถูกยิ่งเป็นพรุนไม่ได้
“ตอนนี้แกมาบอกว่าเป็นคนมีการศึกษาอย่างนั้นเหรอ? เมื่อกี้ตอนเล่นงานคนของฉันแกก็เล่นซะสนุกเล่นไม่ใช่รึไง?”
น้ำเสียงที่แฝงด้วยความเยาะเย้ยดังมาจากนอกห้อง ตอนที่เย่เทียนกำลังรู้สึกว่าคุ้นหูอยู่นั้น ตรงหน้าประตูก็มีหญิงสาวหน้าตาสะสวย หุ่นแซ่บใส่รองเท้าส้นสูงกำลังเดินเข้ามา
“ฟะ ฟู่เซิ่งหนาน?”
พอเห็นหญิงสาวที่พุ่งเข้ามาในห้อง สีหน้าของเย่เทียนก็ดูประหลาดขึ้นมา แล้วพูดด้วยรอยยิ้มที่เยาะว่า “ช่างบังเอิญจริงๆ เลย ไม่นึกเลยว่าจะเจอคุณตรงนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่