ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 63

ถูกผู้จัดการขัดจังหวะขนาดนี้ การคุยเรื่องรถเลยจบลงแค่นี้

ทุกคนพูดคุยหัวเราะ ยังแยกตัวออกจากเย่เทียนอย่างตั้งใจ เพียงเห็นเขาไม่มีตัวตนอยู่อย่างนั้น

เย่เทียนก็สนุกที่ได้อยู่เงียบสงบ ในเมื่อเป็นคนสองโลกกัน เขาไม่จำเป็นต้องไปเอาอกเอาใจพวกเขาที่ไม่ได้มาสนใจตนเอง

คิดอยู่ในใจ รอให้เห่าเหรินเข้ามา ทักทายแล้วจะกลับไป

คาดไม่ถึง ไม่นานนัก เห่าเหรินใส่ชุดสูทสไตล์ตะวันตกเดินเข้ามาแล้ว แต่งตัวแบบคนประสบความสำเร็จ

เขาเพิ่งปรากฏตัวขึ้น มีคนเข้าไปต้อนรับทันที

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเห่าเหรินอยู่ในกลุ่มของพวกเขานี้ ถือว่ามีชีวิตที่ค่อนข้างดีคนหนึ่ง

ในมือรับโครงการบางอย่างมา ส่วนใหญ่คนที่อยากซื้อบ้าน ล้วนคิดว่าจะหาสิทธิพิเศษอะไรจากเห่าเหรินได้หรือไม่

“ประธานเห่า ในที่สุดนายก็มาแล้ว!”

“ไอ้อ้วนเห่า นายนี่มาสายนะ ต้องลงโทษตัวเองด้วยการดื่มสามแก้วหรือเปล่า?”

ทุกคนยิ้มแย้มต้อนรับ เห่าเหรินยังทำหน้ายิ้มเหมือนกัน

มีเพียงหยูเสี่ยวเหวินคนเดียวที่สีหน้าดูแย่ ความจริงเงื่อนไขเห่าเหรินไม่ได้แย่ เพียงแต่ข้อเรียกร้องของหล่อนสูงกว่าเท่านั้นเอง

ตอนนี้เห็นเห่าเหรินถูกทุกคนรุมล้อมอยู่ ไม่ต้องเดาเลยว่าในใจอิจฉามากแค่ไหน

ถ้าไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นในผับ หล่อนคงเกาะหวางจื้อเฟยคนร่ำรวยแบบนี้ไว้ได้ วันนี้คงเป็นหล่อนที่ได้รับความสนใจจากทุกคน

“ทุกคนคุยกันไปก่อนนะ ฉันจะเข้าไปหาเย่เทียน”

หลังจากเห่าเหรินเข้ามาก็มองเห็นเย่เทียนแล้ว อดเอ่ยปากบอกไปไม่ได้

“เย่เทียน? ฉันว่าช่างเถอะ ระหว่างเขากับประธานเมี่ยวของพวกเรา......”

มีคนพูดเตือนด้วยความหวังดี

“ประธานเมี่ยว? แล้วยังไงกัน พวกนายไม่อยากเข้าไป ฉันไปเองก็ได้”

เห่าเหรินได้ยินคำพูดของเขา ชั่วขณะนั้นขมวดคิ้วใหญ่ คนฉลาดแบบเขา จะไม่รู้หรือว่าคนพวกนี้มองเย่เทียนอย่างไรกัน?

ในใจเขากลับหัวเราะเยาะ แอบพูดว่า: “คนพวกนี้ยังมีตาหามีแววไม่ แม้แต่ตระกูลฉินยังประจบเย่เทียน เมี่ยวเสว๋ปินกระจอกๆ คนหนึ่ง นับว่าเป็นอะไรกัน?”

ระหว่างที่พูด เขาหมุนตัวโดยตรง เดินไปหาเย่เทียนทางนั้น

คนอื่นเห็นสถานการณ์แบบนี้ รีบหยุดชะงักฝีเท้าทันที

ในบรรดาพวกเขาเห่าเหรินถือว่าเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จ แต่เทียบกับเมี่ยวเสว๋ปินขึ้นมา กลับไม่ใช่ว่าแย่กว่าแค่นิดหนึ่ง

เพื่อเย่เทียนที่ไม่มีเบื้องหลังสักนิดคนหนึ่ง แต่กลับต้องเสียเมี่ยวเสว๋ปินไป ใครๆ ย่อมจะไม่ทำแบบนี้ทั้งนั้น

เมื่อสักครู่เสียงพูดของเห่าเหรินดังพอสมควร เมี่ยวเสว๋ปินที่กำลังคุยสนุกสนานอยู่ย่อมได้ยินเป็นธรรมดา บนหน้าเขาเผยรอยยิ้มดูถูกออกมา

เห่าเหรินคนเดียวเท่านั้นเอง เขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจ และขี้เกียจไปสนใจด้วย

เหตุผลที่จัดงานรวมตัวเพื่อนนักเรียนครั้งนี้ขึ้น ความจริงเขามีวัตถุประสงค์อื่น ขอเพียงเกาะที่พึ่งพิงใหญ่คนนั้นได้ อาชีพการงานของเขา ย่อมสามารถก้าวหน้าได้เป็นแน่!

“เย่เทียน พวกเขาไม่ได้ทำให้นายลำบากใจหรอกมั้ง?”

เวลานี้ เห่าเหรินมาถึงข้างกายเย่เทียนเรียบร้อยแล้ว ถามด้วยเสียงต่ำ

“พวกเขาจะมาทำให้ฉันลำบากใจได้ยังไงกัน?” เย่เทียนยักไหล่ตอบกลับ

เห่าเหรินได้สติเข้ามา คิดในใจว่าถูก แล้วแอบบ่นพึมพำ: “พวกตัวตลกเต้นแร้งเต้นกาที่มีตาหามีแววไม่กลุ่มหนึ่ง จะรู้ว่าใครที่เป็นคนมีความสามารถพิเศษโดดเด่นได้อย่างไรกัน?”

ต้องรู้ว่า เย่เทียนแม้แต่แก๊งไผ่เขียวยังไม่เอา ที่เจียงหนันโลกใบนี้ ใครกันจะมีความเด็ดขาดเท่าเขา?

ในเวลานี้เอง มือถือของเมี่ยวเสว๋ปินดังขึ้น พอหยิบมองออกมาหน่อย ชั่วขณะหนึ่งดวงตาเขาเป็นประกายแล้ว

รีบโบกมือใหญ่ จากนั้นตะโกนเสียงสูง “ทุกคนคุยกันไปก่อนนะ ฉันจะไปรับคน!”

“รับคน?”

ในใจทุกคนตะลึง สถานะของเมี่ยวเสว๋ปิน อยู่ในบรรดาพวกเขาเหล่านี้ก็สูงที่สุด ยังมีใครต้องให้เขาไปต้อนรับด้วยตัวเองอีก

นึกความเป็นไปได้ข้อหนึ่งได้ ทุกคนดวงตาเปล่งประกาย “หรือว่าเป็นดาวมหาลัยหลินของพวกเราเข้ามาแล้ว?”

“ก่อนหน้านี้สองวันฉันได้ยินมา ดาวมหาลัยหลินจะเข้าร่วมงานรวมตัวเพื่อนนักเรียนครั้งนี้”

“ตอนนี้ดูแล้ว นึกไม่ถึงว่าเป็นข่าวจริง!”

“ในกลุ่มพวกเราคนมากขนาดนี้ คงมีแค่ประธานเมี่ยวล่ะมั้งที่ยังมีวิธีติดต่อของดาวมหาลัยหลิน?”

“แต่ว่า ไม่เหมือนใครบางคน ตอนนั้นอยู่ในโรงเรียนดูเหมือนว่ามีอะไรกับดาวมหาลัยหลิน พอสุดท้ายไม่ใช่ว่าโดนคนลืมสิ้นแล้วเหรอ?”

คำพูดนี้ถึงแม้ไม่ได้ระบุชื่อใคร แต่คนในงานต่างรู้ว่ากำลังพูดถึงใคร

ตอนอยู่มหาวิทยาลัยเจียงหนัน ดาวมหาลัยหลินไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น มีเพียงเจ้าสวะเย่เทียนนี้คนเดียว ที่ดึงดูดความสนใจของดาวมหาลัยหลิน ตอนนั้นมีคนไม่น้อยที่อิจฉาริษยา

เย่เทียนย่อมได้ยินเสียงถกเถียงของพวกเขา ก่อนจะยักคิ้วเล็กน้อย

“อ้าวเสว่ คุณชายเยี่ยน เชิญทางนี้!”

ในขณะเดียวกัน เสียงพูดของเมี่ยวเสว๋ปินก็ลอยออกมาจากข้างนอก

ทุกคนหันหน้ามอง เห็นสาวสวยคนหนึ่งที่สวมชุดขาวดุจหิมะ และชายหนุ่มที่สวมชุดสูทและใส่รองเท้าหนังคนหนึ่งมาด้วยกัน เดินมาถึงด้านในงานเลี้ยง

สาวสวยผมดำขลับยาวประบ่า บนตัวใส่เพียงกระโปรงยาวสีขาวเรียบง่าย เพิ่มท่วงทำนองที่อยู่เหนือกว่า ราวกับดอกบัว บริสุทธิ์และไม่แปดเปื้อน!

ตามมาด้วยการปรากฏตัวของสาวสวยคนนี้ ผู้หญิงทั้งหมดในงานจึงถูกเปรียบเทียบแล้ว พากันสีหน้าหม่นหมองลง

สาวงามที่ครอบครองท่วงทำนองเช่นนี้ คือดาวโรงเรียนของมหาวิทยาลัยเจียงหนันในตอนนั้น หลินอ้าวเสว่!

คุณชายเยี่ยนคนนั้นรูปร่างสูงตรง บุคลิกดูจิตใจสูงส่ง บนตัวมีลักษณะท่าทางของผู้นำที่เป็นธรรมชาติ ยืนอยู่ด้วยกันกับหลินอ้าวเสว่แล้ว เป็นเหมือนสวรรค์สร้างเสียจริงๆ เลย

“ดาวมหาลัยหลิน!”

“อ้าวเสว่ ไม่เจอกันนานเลย”

“ดาวมหาลัยหลินนับวันยิ่งสวยขึ้นนะ!”

หลังจากการปรากฏตัวของหลินอ้าวเสว่ บรรยากาศของงานรวมตัว ถูกดันขึ้นไปถึงระดับสูงแล้ว

แต่ว่า ขณะเดียวกันที่ทุกคนสังเกตหลินอ้าวเสว่ อดย้ายสายตาไปบนตัวคุณชายเยี่ยนคนนั้นไม่ได้

ทุกคนไม่ได้โง่กัน ต่างเห็นว่าตอนที่เมี่ยวเสว๋ปินเผชิญหน้าอีกฝ่าย ทำหน้ายิ้มประจบสอพลอ วางท่าทีไว้ต่ำที่สุด

บุคคลที่แม้แต่เมี่ยวเสว๋ปินยังต้องเอาใจ ต้องสถานะตำแหน่งสูงแน่นอน

หลินอ้าวเสว่ทำหน้ายิ้มเกรงใจแบบไม่ใกล้ไม่ไกล ดูอบอุ่นกับทุกคน ทันใดนั้นหางตาเธอเหลือบไปมองเห็นเย่เทียนที่นั่งอยู่มุมห้อง ชั่วขณะนั้นในดวงตามีแววตาแตกต่างแวบผ่าน

“พวกเธอคุยกันก่อนนะ ฉันขอเข้าไปสักหน่อย”

ระหว่างที่พูด หลินอ้าวเสว่ข้ามผ่านทุกคนไป ยืนอยู่ตรงหน้าเย่เทียน

ทุกคนเห็นแบบนี้สีหน้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน นึกไม่ถึงอย่างชัดเจนว่าหลินอ้าวเสว่มาถึงที่งานเลี้ยงนี้ คาดไม่ถึงยังจะไปหาเย่เทียนเจ้าสวะคนนี้

“มีสิทธิ์อะไร? เขาเย่เทียนเป็นแค่สวะเท่านั้น มีสิทธิ์อะไรมาทำให้ดาวมหาลัยหลินสนใจขนาดนี้?”

“ฉันไม่พูดแล้ว ประธานเมี่ยวและคุณชายเยี่ยนคนนั้น คนไหนไม่แกร่งกว่าเขาเย่เทียนบ้าง?”

ภายในเสียงถกเถียงพักหนึ่ง สายตาคุณชายเยี่ยนนั้นย้ายไปยังบนตัวเย่เทียน “เขาคือเย่เทียน?”

“ใช่ครับ คุณชายเยี่ยนรู้จักเขา?”

เมี่ยวเสว๋ปินถามแบบมึนงง

“ไม่รู้จัก แต่เคยได้ยิน”

คุณชายเยี่ยนหัวเราะเยาะ ในดวงตามีแววตาหยอกเย้าแฉลบผ่าน

“กลัวว่าพวกนายคงไม่รู้ว่าเย่เทียนคนนี้มีสถานะอะไรล่ะมั้ง? สงสัยมากใช่หรือเปล่า ทำไมอ้าวเสว่ถึงมาจากเมืองจินที่แสนไกล ใช้เวลาสี่ปีอยู่ที่มหาวิทยาลัยเจียงหนัน?”

เมี่ยวเสว๋ปินพยักหน้า สถานะของเขาไม่ธรรมดา ย่อมรู้ว่าหลินอ้าวเสว่มีเบื้องหลังอย่างไร ก่อนหน้านี้เขายังมีความคิดต่อหลอนอ้าวเสว่อยู่บ้าง แต่หลังจบการศึกษา ก็จืดจางลงไปตั้งแต่นานแล้ว

เพราะหลินอ้าวเสว่ผู้หญิงแบบนี้ เขายังไม่มีสิทธิ์ครอบครอง

เขาในตอนนี้ เพียงคิดว่าจะเอาใจคุณชายเยี่ยนข้างกายท่านนี้ให้ได้

เห็นเพียงคุณชายเยี่ยนดื่มไวน์อึกหนึ่ง พูดเยาะเย้ย “เย่เทียนคนนี้ เป็นถึงคนของตระกูลเย่ของเมืองจิน! เพียงแต่โดนตระกูลทอดทิ้งไว้ข้างนอก เป็นแค่เรื่องตลกของเมืองจิน!”

“อ้าวเสว่กับเขาเย่เทียนเป็นคู่รักวัยเด็ก ก่อนหน้าที่ยังไม่โดนไล่ออกจากตระกูล ยังมีหมั้นหมายกันด้วยล่ะ! จนกระทั่งตอนนี้ อ้าวเสว่ยังลืมเขาไม่ลง”

“คนถูกทอดทิ้ง?”

ในใจเมี่ยวเสว๋ปินตกตะลึง นึกไม่ถึงว่าข้างในนี้ยังมีเรื่องราวมากขนาดนี้

แต่เห็นความหมายเย้ยหยันในสายตาคุณชายเยี่ยน ไม่นานเขาก็ตอบสนองเข้ามา “งั้นความหมายของคุณชายเยี่ยนคือ อยากจะไล่เย่เทียนไป?”

“ฉันไม่ได้พูดแบบนี้นะ นี่คือความคิดของนายเอง”

คุณชายเยี่ยนดื่มไวน์แดงในแก้วหมดเกลี้ยงรวดเดียว ท่าทางดูเป็นคนนอก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่